ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์วันอังคาร หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงกว่าคาด เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับเป้าหมายของเฟด
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -33.46 เหรียญ หรือ -1.81% อยู่ที่ระดับ 1,813.0 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 34.60 เหรียญ หรือ 1.87% ปิดที่ 1,820 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ปีนี้
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 93.60 เซนต์ หรือ 4.43% ปิดที่ 20.199 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 42.30 เหรียญ หรือ 4.32% ปิดที่ 936.30 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 5.5 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 906.62 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ขายสุทธิ 8.68 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 11.02 ตัน
- นักกลยุทธ์ด้านการเงินของ OCBC ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ช่วยควบคุมราคาของสินค้าที่ปรับสูงขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ลดความต้องการถือครองทองคำของนักลงทุน โดยราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นได้อีก หากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
- หัวหน้านักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาด ระบุว่า หากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ บ่งชี้ถึงตลาดแรงงานมีฟื้นตัวดีขึ้น และนั่นอาจปูทางให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 1.38 จุด หรือ 1.32% มาอยู่ที่ระดับ 105.67 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 3.968% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.12 % มาอยู่ที่ระดับ 5.013% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-1.05%
- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงกว่าที่เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ก่อนหน้านี้ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี นายพาวเวลไม่ได้ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับสูงสุดที่ระดับใด และย้ำว่าการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะขึ้นอยู่กับการประชุมในแต่ละครั้ง รวมทั้งข้อมูลที่เฟดได้รับ โดยเฟดจะพิจารณาถึงผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่จะมีต่อเงินเฟ้อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และเฟดจะไม่มีการกำหนดล่วงหน้าสำหรับทิศทางนโยบายการเงิน
- นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.5% ในการประชุมเดือนมี.ค.และเดือนพ.ค. ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ECB พุ่งขึ้นแตะระดับ 4% ภายในเดือนก.ค.
- ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% สู่ระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปีและเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 10 โดยสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ตลอดปี 2565 ขยายตัว 2.6% ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากปี 2564 ที่มีการขยายตัว 4.1% และเป็นการขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากการส่งออกชะลอตัวลง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย อันเนื่องมาจากการที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้และธนาคารกลางทั่วโลกใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินแบบเชิงรุก ส่วนในไตรมาส 4/2565 ตัวเลข GDP หดตัวลง 0.4% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส หลังจากที่มีการขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 3
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 500 จุดในวันอังคาร หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงกว่าคาด เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับเป้าหมายของเฟด
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,856.46 จุด ร่วงลง 574.98 จุด หรือ -1.72%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,986.37 จุด ลดลง 62.05 จุด หรือ -1.53%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,530.33 จุด ร่วงลง 145.40 จุด หรือ -1.25%
- ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพสูงเป็น “ภารกิจแรกและสำคัญที่สุด” ภายใต้ความพยายามสร้างชาติจีนให้ทันสมัย ทั้งนี้ จีนตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วขึ้นที่ระดับ 5% ด้วยคุณภาพการพัฒนาที่ดีขึ้นในปี 2566
- ยอดส่งออกของจีนในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ปรับตัวลง 6.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจลดลง 9.4% ขณะที่ยอดนำเข้าในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ร่วงลง 10.2% ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 5.5% ทั้งนี้ จีนมียอดเกินดุลการค้าในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.1688 แสนล้านดอลลาร์ จากระดับ 1.097 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ปีที่แล้ว และมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 8.18 หมื่นล้านดอลลาร์
- ผู้ผลิตในอังกฤษลดการพึ่งพาซัพพลายเออร์ต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากต้นทุนด้านพลังงานและการขนส่งที่พุ่งสูงขึ้น ท่ามกลางบริษัทในสหภาพยุโรป (EU) กังวลเกี่ยวกับการทำธุรกิจข้ามช่องแคบอังกฤษหลังจากอังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% ในวันอังคาร หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลก
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 2.88 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 77.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ดิ่งลง 2.89 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 83.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เรียกร้องให้ภาคเอกชนช่วยสนับสนุนจีนให้สามารถเอาชนะ “การถูกกักกัน” โดยสหรัฐและกลุ่มชาติตะวันตก
- นายฉิน กัง รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐจะถูกกำหนดโดยผลประโยชน์ที่ทั้งสองฝ่ายมีร่วมกัน และถูกกำหนดด้วยมิตรภาพระหว่างพลเมืองของทั้งสองประเทศ ไม่ใช่ถูกกำหนดด้วยการเมืองในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม นายฉินเตือนว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนมีความเสี่ยงที่จะบานปลายจนนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานและผลลัพธ์ที่เลวร้าย หากสหรัฐยังคงเดินหน้ากดดันจีนในทุกแง่มุม
- นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาออกคำสั่งให้จัดตั้งทีมสืบสวนกรณีข้อกล่าวหาจีนแทรกแซงการเลือกตั้งแคนาดา หลังจากได้รับแรงกดดันจากเรื่องนี้ โดยกล่าวเสริมว่า “การรักษาความเชื่อมั่นในกระบวนการประชาธิปไตยของเรา ในการเลือกตั้งของเรา ในสถาบันของเรา เป็นสิ่งที่มีความสำคัญสูงสุด”
ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด
- สิงคโปร์ขยายระยะเวลาคำสั่งเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ออกไปอีก 1 ปีเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อให้ทางการสามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงที หากเกิดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.10 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงหนัก” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 34.55 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.95-35.20 บาทต่อดอลลาร์
- สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เผย ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือนก.พ.66 อยู่ที่ระดับ 108.05 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เพิ่มขึ้น 3.79% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ชะลอตัวลงจากเดือนม.ค.66 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และเป็นอัตราที่ต่ำสุดในรอบ 13 เดือน โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงมาจากราคาพลังงาน และอาหารสดที่ปรับตัวลดลงเป็นสำคัญ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 2 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.พ.) เพิ่มขึ้น 4.40% ส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วไป ชะลอตัวลงเข้าใกล้กรอบเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 2-3% ในปีนี้ ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เดือนก.พ. อยู่ที่ระดับ 104.17 ทำให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 1.93% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ย 2 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 2.48%
- สภาผู้ส่งออก เปิดเผยว่า ภาวะการส่งออกของไทยในเดือน ม.ค.66 ที่หดตัว -4.5% สอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลจากเทศกาลตรุษจีนปีนี้มาเร็ว ทำให้การส่งออกไปจีนมีเวลาจำกัดจึงหดตัวลดลง -11% และการชะลอคำสั่งซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เนื่องจากมีปริมาณสินค้าคงคลังที่กักตุนไว้ก่อนหน้านี้เหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งสถานการณ์ส่งออกในเดือน ม.ค.66 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยมูลค่าการส่งออกมีแนวโน้มกลับมาขยายตัวแตะ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือน ก.พ.66 หลังแนวโน้มดัชนีการผลิตของหลายประเทศทั่วโลกเริ่มกลับมาขยายตัว ประกอบกับเงินบาทอ่อนค่าอยู่ในช่วง 34-35 บาท/ดอลลาร์
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง