ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันจันทร์ โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาด
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -9.96 เหรียญ หรือ -0.5% อยู่ที่ระดับ 1,978.82 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 9.30 เหรียญ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,982.80 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 18.40 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 22.646 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 18.20 เหรียญ หรือ 1.86% ปิดที่ 996.80 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 3.47 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 924.55 ตัน ภาพรวมเดือนมีนาคม ซื้อสุทธิ 9.25 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 6.91 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.55 จุด หรือ -0.53% มาอยู่ที่ระดับ 103.31 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 3.49% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 3.98% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.49%
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศความร่วมมือกับธนาคารกลางแคนาดา, ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE), ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ระบบการเงิน ผ่านการปรับธุรกรรมสว็อปไลน์สกุลเงินดอลลาร์ (U.S. dollar Swap Line) โดยจะเพิ่มความถี่ในการดำเนินการไถ่ถอนข้อตกลงสว็อปอายุ 7 วัน จากเดิมที่มีการไถ่ถอนเป็นรายสัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นเดือนเม.ย.
- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ขานรับข่าวยูบีเอส (UBS) เข้าซื้อกิจการธนาคารเครดิต สวิส ในวงเงิน 3 พันล้านฟรังก์สวิส (3.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยหน่วยงานฝ่ายกำกับดูแลด้านการเงินของรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ได้เข้ามามีส่วนในการทำข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์นี้ พร้อมกับยืนยันว่า ระบบธนาคารของอังกฤษยังคงมีความแข็งแกร่ง
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีไว้ที่ระดับ 3.65% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีที่ 4.30% ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันจันทร์ ขานรับข่าวธนาคารยูบีเอสบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการเครดิต สวิส รวมทั้งรายงานที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ร่วมมือกับธนาคารกลางอีกหลายประเทศเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องในระบบการเงิน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,244.58 จุด พุ่งขึ้น 382.60 จุด หรือ +1.20%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,951.57 จุด เพิ่มขึ้น 34.93 จุด หรือ +0.89%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,675.54 จุด เพิ่มขึ้น 45.02 จุด หรือ +0.39%
- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การไหลออกของเงินฝากซึ่งทำให้ธนาคารในภูมิภาคหลายแห่งเกิดความวุ่นวายนั้น ขณะนี้เริ่มชะลอตัวลงแล้วและในบางแห่งมีการฝากเงินกลับคืน โดยการไหลออกของเงินฝากดังกล่าวมีขึ้นหลังจากการล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB)
- อดีตซีอีโอของธนาคารโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า วิกฤตธนาคารในสหรัฐนั้นจะกระตุ้นให้เกิดการคุมเข้มด้านการปล่อยสินเชื่อโดยรวม จนชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ
- สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชีย รายงานว่า ความระส่ำระสายในตลาดการเงินโลกในระยะหลังนี้ส่งผลกระทบต่อธนาคารในญี่ปุ่นมากกว่าจีน โดยธนาคารชั้นนำ 3 แห่งของญี่ปุ่นสูญเสียมูลค่าตลาดกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากธนาคารเหล่านี้ได้ซื้อพันธบัตรไว้เป็นจำนวนมาก เมื่อเกิดวิกฤตการเงินจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย จึงทำให้พันธบัตรเหล่านี้มีมูลค่าลดลง ขณะที่ธนาคารของรัฐขนาดใหญ่ 4 แห่งของจีนมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในตลาดหุ้นฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้
- นายฮิโรคาสุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกล่าวว่า ระบบการธนาคารของญี่ปุ่นมีเสถียรภาพและเชื่อมั่นว่าญี่ปุ่นจะไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐ และยุโรป
- หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบในเอเชียพร้อมใจกันออกแถลงการณ์เรียกความเชื่อมั่นประชาชน โดยระบุว่า ระบบธนาคารในประเทศยังคงมีความแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ หลังจากที่ยูบีเอส (UBS) ธนาคารรายใหญ่จากสวิตเซอร์แลนด์ตกลงเข้าซื้อกิจการเครดิต สวิส (Credit Suisse) ในวงเงิน 3 พันล้านฟรังก์สวิส (3.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
- หน่วยงานด้านการเงินในสิงคโปร์และฮ่องกงให้คำมั่นว่า ธนาคารเครดิต สวิสในสิงคโปร์และฮ่องกงจะยังคงเปิดทำการต่อไป และรับรองว่าตลาดสิงคโปร์และฮ่องกงจะไม่ได้รับผลกระทบ หลังมีรายงานว่าทางการสวิตเซอร์แลนด์เป็นตัวกลางให้ธนาคารยูบีเอสเข้าซื้อกิจการเครดิต สวิส
- เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ ธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ (First Republic Bank : FRB) สู่ระดับขยะ (Junk) เนื่องจากมองว่าการที่กลุ่มธนาคารรายใหญ่ 11 แห่งของสหรัฐฝากเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ FRB นั้นไม่ช่วยแก้ไขปัญหาสภาพคล่องให้กับธนาคารแห่งดังกล่าว
- ที่ปรึกษาธนาคารกลางจีน (PBOC) แนะนำให้ทางการจีนออกมาตรการสนับสนุนภาคครัวเรือน ด้วยการอัดฉีดเงินให้กับภาคครัวเรือนโดยตรงมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 5.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นทางเลือกหนึ่งในการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค หลังจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลงอันเนื่องมาจากค่าจ้างที่ปรับตัวลดลงในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ เนื่องจากการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน หลังจากราคาดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนในระหว่างวัน
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 67.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 73.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
- รัฐบาลจีนเปิดเผยข้อมูลว่า รัสเซียแซงหน้าซาอุดีอาระเบียขึ้นเป็นผู้ค้าน้ำมันอันดับหนึ่งของจีนในช่วงสองเดือนแรกของปี 2566 ในขณะที่ผู้ซื้อแห่ซื้อน้ำมันรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตร เนื่องจากมีราคาส่วนลดที่ถูกมาก อย่างไรก็ดี จีนเข้าน้ำมันจากรัสเซียรวมทั้งสิ้น 15.68 ล้านตัน หรือ 1.94 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนม.ค. – ก.พ. ซึ่งเพิ่มขึ้น 23.8% จาก 1.57 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่าง ประเทศ
- นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เผยแผนการสันติภาพ 12 ว่าการแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ในยูเครนได้สะท้อนถึงมุมมองจากทั่วโลกและเป็นการพยายามแก้ไขผลกระทบที่ตามมาอย่างเป็นกลาง แต่ก็ยอมรับว่าการแก้ไขปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องง่าย พร้อมกับเสริมว่า การแก้ไขปัญหาอย่างสันติต่อสถานการณ์ในยูเครนจะเป็นการรับประกันถึงเสถียรภาพของการผลิตและห่วงโซอุปทานทั่วโลก
- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้เดินทางถึงกรุงมอสโกในวันนี้แล้วในการเดินทางเยือนเป็นเวลา 3 วันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซีย และเพื่อรับบทบาทในการเป็นคนกลางเจรจาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งในยูเครน
- รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมจากทั่วโลกเข้าประชุมร่วมกันที่กรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ เพื่อหารือเรื่องการยกระดับการสนับสนุนศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ICC ได้มีการออกหมายจับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
- รัฐบาลอังกฤษประกาศขยายเวลาใช้มาตรการยกเว้นการจัดเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจากยูเครนไปจนถึงเดือนมี.ค. 2567 โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่จะสนันสนุนเศรษฐกิจยูเครนหลังถูกรัสเซียเข้ารุกรานเมื่อปีที่แล้ว
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.02 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.10 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.90-34.15 บาทต่อดอลลาร์
- ธปท.ระบุว่า ในปัจจุบัน ภาพรวมระบบธนาคารพาณิชย์ไทยมีความมั่นคง โดยข้อมูล ณ สิ้นปี 65 ระบบธนาคารพาณิชย์ไทยมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(BIS ratio) 19.4% สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดที่ 8.5% สินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับกระแสเงินสดที่อาจไหลออกในภาวะวิกฤต(LCR) ยังอยู่ในระดับสูงที่ 197.3% และมีหนี้ด้อยคุณภาพ(NPL) ในระดับต่ำที่ 2.73% ขณะที่เงินสำรองต่อหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL Coverage ratio) สูงถึง 171.9% ซึ่งถือเป็นสถานะที่ดีกว่าช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2551 อย่างไรก็ตามตลาดการเงินไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยตลาดโลกข้างต้นจำกัด จากความเชื่อมโยงที่ต่ำต่อกลุ่มธนาคารที่ประสบปัญหา โดย ธปท.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง