ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -22.04 เหรียญ หรือ -1.11% อยู่ที่ระดับ 1,956.28 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 30 เหรียญ หรือ 1.51% ปิดที่ 1,953.80 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 19.40 เซนต์ หรือ 0.83% ปิดที่ 23.145 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 6.80 เหรียญ หรือ 0.69% ปิดที่ 977.10 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 923.97 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ซื้อสุทธิ 8.67 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 6.33 ตัน
- นักกลยุทธ์ด้านค่าเงินของ OCBC กล่าวว่า ภาพรวมดัชนีดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัว ทำให้อุปสงค์ทองคำในต่างประเทศลดลง โดยตลาดยังคงมีท่าทีระมัดระวัง ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับวิกฤตธนาคาร ส่งผลให้ตลาดถือครองราคาทองคำ สกุลเงินดอลลาร์ และสกุลเงินเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.36 จุด หรือ -0.35% มาอยู่ที่ระดับ 102.75 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.14 % มาอยู่ที่ระดับ 3.532% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.19 % มาอยู่ที่ระดับ 3.999% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.47%
- นายนีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินเนอาโพลิสเปิดเผยว่า วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคธนาคารของสหรัฐและความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะสินเชื่อตึงตัวตามมานั้น อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะถดถอย
- นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่า เม็ดเงินฝากในระบบธนาคารของสหรัฐยังคงมีเสถียรภาพในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเกิดวิกฤตการณ์แห่ถอนเงินจากธนาคาร SVB จนเป็นเหตุให้ธนาคารแห่งนี้ล้มละลาย และทำให้หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของสหรัฐต้องใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูระบบธนาคาร
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ ขณะที่ดัชนี S&P500 ดีดตัวขึ้นเช่นกัน เนื่องจากข่าวการซื้อกิจการธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ เป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ หลังจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,432.08 จุด เพิ่มขึ้น 194.55 จุด หรือ +0.60%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,977.53 จุด เพิ่มขึ้น 6.54 จุด หรือ +0.16%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,768.84 จุด ลดลง 55.12 จุด หรือ -0.47%
- บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) เปิดเผยว่า บริษัท เฟิร์สต์ ซิติเซนส์ แบงก์แชร์ส (First Citizens BancShares) ตกลงเข้าซื้อกิจการธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) แล้ว ซึ่งครอบคลุมถึงเงินฝากและเงินกู้ทั้งหมดของ SVB คิดเป็นมูลค่า 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงจากมูลค่าเดิมที่ 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ และยังระบุด้วยว่า หลักทรัพย์มูลค่าประมาณ 9 หมื่นล้านดอลลาร์ และสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ นั้น จะยังคงอยู่ภายในมาตรการพิทักษ์ทรัพย์ (Receivership) ขณะเดียวกัน FDIC จะได้รับสิทธิในมูลค่าเพิ่มของหุ้น (Stock appreciation Rights หรือ SARs) ในเฟิร์สต์ ซิติเซนส์ ในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านดอลลาร์
- FINMA ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลตลาดเงินของสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานกำลังพิจารณาว่า จะดำเนินการทางวินัยต่อบรรดาผู้จัดการของธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) หรือไม่ เหตุบริหารงานไม่ดีจนทำให้ยูบีเอส (UBS) ต้องเข้ามาเทคโอเวอร์
- นักลงทุนบางรายให้เครดิตรัฐบาลจีนที่ช่วยพยุงราคาตราสารทางการเงินที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Additional Tier 1) หรือ AT1 ที่ออกโดยกลุ่มธนาคารรายใหญ่ที่สุดของจีน หลังจากเกิดวิกฤตความเชื่อมั่นในภาคธนาคารทั่วโลก
- สำนักงานกำกับดูแลการเงินของเกาหลีใต้ (FSS) เปิดเผยว่า ธนาคารในประเทศไม่มีการแสดงสัญญาณผิดปกติในด้านการฝาก-ถอนเงิน ทั้งนี้ FSS กล่าวว่า มีลูกค้าจำนวนน้อยเท่านั้นที่ฝากเงินและโอนเงินเกิน 50 ล้านวอน โดย 50 ล้านวอนเป็นจำนวนเงินออมทรัพย์สูงสุดที่รัฐบาลเกาหลีใต้รับประกัน
- นายเชย์น เอลเลียต ซีอีโอของธนาคารออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป (ANZ) กล่าวว่า ภาวะปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในระบบธนาคารโลกเมื่อไม่นานมานี้ มีแนวโน้มที่จะลุกลามไปสู่วิกฤตการณ์ด้านการเงิน อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าวิกฤตการณ์ล่าสุดนี้จะมีความรุนแรงเหมือนกับที่เกิดขึ้นในปี 2551
- สำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า โกลด์แมน แซคส์, เจพีมอร์แกน เชส และฟิเดลิตี้ (Fidelity) เป็นผู้กำชัยชนะรายใหญ่ที่สุดจากภาวะนักลงทุนแห่โยกย้ายเงินเข้าสู่กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund) ของสหรัฐตลอดช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเหตุการณ์ธนาคารพาณิชย์ระดับภูมิภาค 2 แห่งของสหรัฐล้มและการเข้าซื้อเครดิต สวิสของยูบีเอส (UBS) ได้สร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการฝากเงินในธนาคาร
- นางคริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง และจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว พร้อมกับเรียกร้องให้ทางการจีนเร่งสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจโดยมุ่งเน้นการกระตุ้นการอุปโภคบริโภค
- SEMI ซึ่งเป็นสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์นานาชาติในสหรัฐ คาดการณ์ว่า เกาหลีใต้น่าจะแซงหน้าจีนในด้านการเพิ่มการใช้จ่ายในอุปกรณ์ผลิตชิปขั้นสูงในปีหน้า อันเป็นผลพวงจากการที่จีนผลิตชิปได้ลำบากขึ้น เพราะสหรัฐออกมาตรการกีดกันไม่ให้จีนซื้ออุปกรณ์การผลิตได้ง่าย ๆ
- เยอรมนีเตรียมผ่านร่างกฎหมายสัญชาติฉบับใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ชาวต่างชาติได้รับสัญชาติเยอรมันง่ายขึ้น นับเป็นส่วนหนึ่งของการปรับเปลี่ยนนโยบายการย้ายถิ่นฐานเพื่อรับมือกับปัญหาแรงงานที่กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง
- ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับสกุลเงินต่างประเทศของอาร์เจนตินาจาก “CCC-” ลงสู่ระดับ “C” โดยให้เหตุผลว่าอาร์เจนตินามีแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้งวดที่ใกล้จะถึงนี้ หลังจากรัฐบาลอาร์เจนตินาสั่งให้หน่วยงานภาครัฐขายหรือแลกเปลี่ยนพันธบัตรรัฐบาลสกุลเงินดอลลาร์บางส่วนที่ถือครองอยู่
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันจันทร์ หลังมีรายงานว่า อิรักระงับการส่งออกน้ำมันบางส่วนจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิรัก ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันโลกจะเผชิญภาวะอุปทานตึงตัว นอกจากนี้ ข่าวการซื้อกิจการธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ ยังช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคการเงินสหรัฐ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 3.55 ดอลลาร์ หรือ 5.1% ปิดที่ 72.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 3.13 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 78.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังมีข่าวว่าตุรกีหยุดการสูบน้ำมันดิบจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานในอิรักผ่านทางท่อส่งน้ำมัน หลังจากคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการยืนยันว่าการส่งออกน้ำมันจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลอิรัก โดยการส่งออกน้ำมันผ่านท่อลำเลียงแห่งนี้คิดเป็นสัดส่วนราว 0.5% ของอุปทานน้ำมันโลก หรือประมาณ 450,000 บาร์เรล/วัน
- นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่าง ประเทศ
- องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) หรือนาโต้ วิพากษ์วิจารณ์กรณีที่นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศแผนส่งอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีไปใช้ที่เบลารุส
- ยูเครนเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จัดการประชุมวิสามัญเพื่อตอบโต้อย่างเป็นทางการครั้งแรกต่อกรณีที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศว่าจะติดตั้งฐานอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีในเบลารุส
- สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสติ (RIA Novosti) รายงานว่า รัฐบาลรัสเซียอาจเรียกร้องค่าชดเชยสำหรับความเสียหายจากการระเบิดของท่อส่งก๊าซ นอร์ดสตรีม (Nord Stream) เมื่อปีที่แล้ว
- นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐให้คำมั่นว่า สหรัฐจะเพิ่มเม็ดเงินลงทุนในแอฟริกาและช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยการให้คำมั่นสัญญาดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างการเดินทางเยือนแอฟริกาเป็นเวลา 7 วัน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อตอบโต้การแผ่ขยายอิทธิพลของจีนในแอฟริกา
- เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธแบบทิ้งตัว (Ballistic Missile) จำนวน 2 ลูกจากชายฝั่งตะวันออกของประเทศ และตกลงสู่พื้นที่ด้านนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น (EEZ) เมื่อวานนี้ อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อเครื่องบินหรือเรือเดินทะเล
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.40 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.44 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.20-34.50 บาทต่อดอลลาร์
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 29 มี.ค.นี้ คาดว่า กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 1.75% โดยมองว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้อาจเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายในรอบวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นนี้ ท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับแรงกดดันจากแนวโน้มนโยบายการเงินแบบตึงตัวของธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกเริ่มลดลง เนื่องจากธนาคารกลางหลักอย่างธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มส่งสัญญาณเตรียมหยุดขึ้นดอกเบี้ยในระยะอันใกล้
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง