• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 3 เมษายน 2566

    3 เมษายน 2566 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -10.97 เหรียญ หรือ -0.55% อยู่ที่ระดับ 1,969.3 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 11.50 เหรียญ หรือ 0.58% ปิดที่ 1,986.20 เหรียญ แต่สัญญาทองปิดตลาดเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 8.1% และปรับตัวขึ้น 8.8% ในไตรมาสแรกของปีนี้
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 16.70 เซนต์ หรือ 0.70% ปิดที่ 24.156 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 6.20 เหรียญ หรือ 0.62% ปิดที่ 1,003.10 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.45 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 928.02 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ซื้อสุทธิ 12.72 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 10.38 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.4 จุด หรือ 0.39% มาอยู่ที่ระดับ 102.59 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 3.524% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 4.096% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.57% 


  • คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้เรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลภาคธนาคารใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นกับธนาคารขนาดกลาง โดยระบุว่าอาจมีการผลักดันกฎระเบียบดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้โดยไม่ต้องผ่านการสนับสนุนจากสภาคองเกรส โดยกฎระเบียบใหม่นี้ครอบคลุมถึงการกำหนดให้ธนาคารที่มีสินทรัพย์ 1-2.50 แสนล้านดอลลาร์ ต้องเพิ่มการถือครองสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง, เพิ่มเงินทุน, เข้ารับการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) และเปิดเผยแผนการ (Living Will) ซึ่งจะเปิดเผยรายละเอียดว่า ธนาคารจะปิดกิจการได้อย่างไรหากจำเป็น


  • นายเซวียน ชางเหนิง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า จีนจะเพิ่มการกำกับดูแลด้านเศรษฐกิจดิจิทัล เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะการเงินรูปแบบใหม่ ไม่ควรได้รับการยอมรับโดยปราศจากการตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบ

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นมากกว่า 1% ในวันศุกร์ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดปรับตัวขึ้นมากที่สุดในไตรมาสแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2565 เนื่องจากสัญญาณการชะลอตัวของเงินเฟ้อได้เพิ่มความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกในไม่ช้านี้


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,274.15 จุด เพิ่มขึ้น 415.12 จุด หรือ +1.26%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,109.31 จุด เพิ่มขึ้น 58.48 จุด หรือ +1.44%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,221.91 จุด เพิ่มขึ้น 208.44 จุด หรือ +1.74%
  • ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 3.2%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 3.5% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 3.4% โดยทั้งดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.


  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดีดตัวขึ้น 5.0% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.1% และชะลอตัวจากระดับ 5.3% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.พ. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% และชะลอตัวจากระดับ 0.6% ในเดือนม.ค. ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.6% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% และชะลอตัวจากระดับ 4.7% ในเดือนม.ค.


  • ธนาคารโลกเผยแพร่รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจฉบับล่าสุด โดยระบุว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกมีแนวโน้มที่จะขยายตัวประมาณ 5.1% ในปีนี้ หลังขยายตัว 3.5% ในปี 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่ธนาคารโลกเคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนต.ค.ว่าจะขยายตัว 4.6% ในปี 2566 แต่หลัก ๆ แล้วได้แรงหนุนจากจีน ซึ่งขณะนี้เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัว 5.1% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับที่ธนาคารโลกได้เคยคาดการณ์ไว้ที่ 4.5% ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา


  • ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 5.1% ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.6% จากตัวเลขคาดการณ์ที่เผยแพร่ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งไม่นับรวมจีน มีแนวโน้มเติบโตชะลอลงแตะ 4.9% ในปีนี้ ซึ่งลดลง 0.9% จากปี 2565


  • นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า กฎระเบียบด้านการควบคุมและกำกับดูแลภาคธนาคารของสหรัฐจำเป็นต้องได้รับการประเมินใหม่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่ากฎระเบียบเหล่านี้จะสามารถป้องกันความเสี่ยงในระบบที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้ หลังจากการล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) ทั้งนี้ นางเยลเลนได้เรียกร้องให้มีการกำกับดูแลภาคธนาคารเงา (shadow bank) หรือธุรกิจการเงินที่ไม่ได้จดทะเบียนในรูปธนาคารให้มีความเข้มงวดมากขึ้น พร้อมกับกล่าวว่า ควรมีการทบทวนข้อกำหนดด้านเงินทุนที่มีการเปลี่ยนแปลงในปี 2561 อีกครั้ง โดยเฉพาะสำหรับธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีสินทรัพย์ต่ำกว่า 2.50 แสนล้านดอลลาร์


  • รองประธานศูนย์แลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของจีนเปิดเผยว่า ธนาคารขนาดเล็กของจีนประสบปัญหา แต่ไม่ได้มีความเสี่ยงเหมือนกับธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank) หรือ SVB ของสหรัฐที่ล่มสลายลงแต่อย่างใด


  • เงินเฟ้อทั่วไปในยูโรโซนลดลงอย่างชัดเจนในเดือนมี.ค. เนื่องจากราคาพลังงานปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เงินเฟ้อทั่วไปในยูโรโซนปรับตัวแตะ 6.9% ในเดือนมี.ค. เทียบกับเงินเฟ้อทั่วไปที่ 8.5% ในเดือนก.พ. อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาพลังงาน และอาหาร ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในเดือนมี.ค. ที่ 5.7% เมื่อเทียบกับ 5.6% ในเดือนก.พ.


  • คณะเจ้าหน้าที่การค้าจาก 11 ประเทศสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ TPP ดั้งเดิม มีมติเห็นชอบให้อังกฤษเข้ามาเป็นสมาชิกประเทศที่ 12 ซึ่งถือเป็นพัฒนาการสำคัญที่จะขยายขอบเขตอิทธิพลของ CPTPP ไปยังยุโรป


  • สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจอังกฤษเติบโตในไตรมาส 4/2565 โดยแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของธุรกิจตัวแทนการท่องเที่ยว และการสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่ประชาชนจากภาครัฐ ช่วยให้อังกฤษรอดพ้นภาวะเศรษฐกิจถดถอยมาได้ ทั้งนี้ เศรษฐกิจอังกฤษขยายตัวขึ้น 0.1% ในไตรมาส 4/2565 เมื่อเทียบรายไตรมาส หลังจากที่หดตัวลง 0.1% ในไตรมาส 3/2565 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงที่น้อยกว่าที่คาดไว้


  • รัฐสภาตุรกีอนุมัติร่างกฎหมายที่เปิดทางให้ฟินแลนด์เข้าร่วมเป็นประเทศสมาชิกลำดับที่ 31 ในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต (NATO) 


  • FTSE Russell ซึ่งเป็นบริษัทจัดทำดัชนีระดับโลก ไม่ได้นำตลาดพันธบัตรของเกาหลีใต้เข้ารวมในดัชนีพันธบัตรรัฐบาลโลก หรือ World Government Bond Index (WGBI) ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้


  • ประธานคณะกรรมการด้านบริการการเงิน (FSC) ของเกาหลีใต้ได้ขอความร่วมมือกลุ่มบริษัทด้านการเงินรายใหญ่ของประเทศให้ทำงานร่วมกับรัฐบาล เพื่อช่วยลดต้นทุนการกู้ยืมสำหรับประชาชนกลุ่มเปราะบาง


  • ญี่ปุ่นจะเพิ่มอายุเกษียณของข้าราชการพลเรือนทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่น จาก 60 ปี ในปัจจุบัน เป็น 61 ปี โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย. นี้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการลดลงของจำนวนประชากรในประเทศ
 

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มอุปทานน้ำมันที่ตึงตัว เนื่องจากอิรักระงับการส่งออกน้ำมันบางส่วนจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือ 1.75% ปิดที่ 75.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 79.77 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีก 1.16 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับตลาด ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าการตัดสินใจดังกล่าวของโอเปกพลัสจะส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง และอาจสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลสหรัฐที่ต้องการให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตน้ำมัน


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • นายโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเป็นเวลา 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ รวมถึงกรณีที่จีนควบคุมตัวพนักงาน บริษัท แอสเทลลัส ฟาร์มา อิงค์ (Astellas Pharma Inc) ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี นายฮายาชิจะเข้าพบปะกับนายฉิน กัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน ในการหารืออย่างจริงใจและตรงไปตรงมา เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์และมั่นคง


  • ญี่ปุ่นประกาศว่าจะขยายขอบเขตมาตรการจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ล้ำสมัยทั้งสิ้น 23 ชนิด ในขณะที่สหรัฐพยายามทุกวิถีทางที่จะจำกัดจีนจากการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์


  • โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐได้รับข้อมูลใหม่ว่ารัสเซียกำลังหาทางส่งคณะผู้แทนไปยังเกาหลีเหนือ และรัสเซียจะเสนออาหารให้กับเกาหลีเหนือเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับอาวุธยุทโธปกรณ์ และเขายังกล่าวถึงแถลงการณ์ล่าสุดของเกาหลีเหนือที่ระบุว่าจะไม่จัดหาหรือขายอาวุธให้กับรัสเซีย ซึ่งสหรัฐจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ  34.28 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 34.19 บาทต่อดอลลาร์    มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.85-34.40 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.10-34.35 บาทต่อดอลลาร์


  • ธนาคารโลก คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2566 จะเติบโตได้ 3.6% เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่เติบโตได้ 2.6% แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย ยังฟื้นตัวจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ได้ช้ากว่าประเทศอื่นในอาเซียน โดยแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยปีนี้ จะมาจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก ในขณะที่ภาคการส่งออกของไทย ได้รับผลกระทบที่ชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 4/65 จากปัญหาการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก


  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยเดือนก.พ. 66 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมและเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้น ด้านเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหมวดสินค้าคงทน


  • KKP Research ยังคงประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 66 มีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น แต่ยังขยายตัวได้จากแรงส่งของการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว จากฐานที่อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติมาก ประกอบกับการกลับมาของอุปสงค์ที่อั้นอยู่ของนักท่องเที่ยวจีน (Pent-up demand) ซึ่งมีแนวโน้มปรับตัวชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป การฟื้นตัวที่ดีขึ้นกว่าที่คาดทำให้คาดว่านักท่องเที่ยวจะกลับเข้ามาท่องเที่ยวในไทยได้มากขึ้นกว่าที่ประเมินไว้จากเดิม 25.1 ล้านคน เป็น 29.8 ล้านคนในปี 66 และคาดว่าในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจีนจำนวน 5 ล้านคน


  • ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่าการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ยังมีความน่าเป็นห่วง แต่ยังมีโอกาสจะทยอยฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมองว่าการส่งออกสินค้าของไทย จะยังหดตัวในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งสะท้อนจากเครื่องชี้วัดการค้าระหว่างประเทศ ในเดือน มี.ค. ที่ยังบ่งชี้ว่าการค้าโลกอ่อนแอลงต่อเนื่อง ดังนั้นจึงคงประมาณการการเติบโตของมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในปี 66 ไว้ที่ 1.2%

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com