MTS Help Center

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 2,000 ดอลลาร์ในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 14.48 เหรียญ หรือ 0.74% อยู่ที่ระดับ 1,983.78 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 14.20 เหรียญ หรือ 0.71% ปิดที่ 2,000.40 เหรียญ
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 13.50 เซนต์ หรือ 0.56% ปิดที่ 24.021 เหรียญ
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 6.70 เหรียญ หรือ 0.67% ปิดที่ 996.40 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 2.02 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 930.04 ตันภาพรวมเดือนเมษายน ซื้อสุทธิ 2.02 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 12.4 ตัน

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.59 จุด หรือ -0.58% มาอยู่ที่ระดับ 102.01 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.11 % มาอยู่ที่ระดับ 3.413% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.13 % มาอยู่ที่ระดับ 3.968% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.56% 

• เจ้าหน้าที่จากธนาคารกลางจีน (PBOC) ระบุว่า จีนควรเร่งออกกฎหมายด้านเสถียรภาพทางการเงินและปรับปรุงการจัดการทางกฎหมายอื่น ๆ ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกันและกำจัดความเสี่ยงทางการเงินนอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานดูแลเสถียรภาพทางการเงินและสถาบันคุ้มครองเงินฝากในสังกัด PBOC ระบุว่า จีนควรปล่อยให้ระบบคุ้มครองเงินฝากมีบทบาทอย่างเต็มที่ โดยให้ระบบดังกล่าวจัดการกับธนาคารที่มีปัญหาอย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงในลักษณะลูกโซ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันจันทร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันอย่างเหนือความคาดหมาย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,601.15 จุด พุ่งขึ้น 327.00 จุด หรือ +0.98%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,124.51 จุด เพิ่มขึ้น 15.20 จุด หรือ +0.37%
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,189.45 จุด ลดลง 32.45 จุด หรือ -0.27%

• นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยในวันอังคารจะมีการเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.พ. ขณะที่วันพุธจะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค.จาก ADP ส่วนในวันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และในวันศุกร์จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.

• ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ยอดเงินฝากของธนาคารทั้งหมดในสหรัฐลดลง 1.257 แสนล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 22 มี.ค. ซึ่งน้อยกว่าการลดลงสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1.745 แสนล้านดอลลาร์ในสัปดาห์แรกหลังการล่มสลายของ SVB และซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) อยู่ราว 5 หมื่นล้านดอลลาร์

• คณะเจ้าหน้าที่จีนกล่าวเตือนเหล่าผู้บริหารธนาคารระดับสูงว่า การปราบปรามอุตสาหกรรมการเงินที่มีมูลค่าถึง 60 ล้านล้านดอลลาร์ยังไม่เสร็จสิ้น ขณะที่ประกาศดำเนินการสอบสวนอดีตนายธนาคารระดับอาวุโสของประเทศ นายหลิว เหลียงเก๋อ อดีตประธานแบงก์ ออฟ ไชน่า (Bank of China Ltd) ซึ่งถูกสงสัยว่าละเมิดวินัยและกฎหมายอย่างร้ายแรง   

• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 50 ลดลงจากระดับ 51.6 ในเดือนก.พ. เนื่องจากการผลิตชะลอตัวลงและอุปสงค์ทั่วโลกอ่อนแรงลง ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมี.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 51.9 ลดลงจากระดับ 52.6 ในเดือนก.พ. ซึ่งบ่งชี้ว่าความหวังที่เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้นอาจลดน้อยลง ท่ามกลางอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแรงลง และตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ยังคงชะลอตัว อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI อยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงมีการขยายตัว

• ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ในไตรมาส 1/2566 ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง

• กระทรวงการค้าของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า การส่งออกของเกาหลีใต้ลดลงในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน โดยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง และการทรุดตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ แต่การส่งออกลดลงน้อยกว่าที่คาดไว้

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 6% ในวันจันทร์ หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันอีกกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปี 2566

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 4.75 ดอลลาร์ หรือ 6.3% ปิดที่ 80.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 5.04 ดอลลาร์ หรือ 6.3% ปิดที่ 84.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

• ซาอุดีอาระเบียและกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประกาศปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีก 1.16 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับตลาด ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าการตัดสินใจดังกล่าวของโอเปกพลัสจะส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแบบฉับพลัน ส่วนรัฐบาลสหรัฐมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร

• น้ำมันดิบตะวันออกกลางมีแนวโน้มจะตึงตัวมากขึ้นตั้งแต่เดือนพ.ค.เป็นต้นไป หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศแผนลดกำลังการผลิตอีกครั้ง ส่งผลให้โรงกลั่นจากเอเชียไปจนถึงยุโรปมีต้นทุนเพิ่มขึ้น และผลักดันให้ต้องแสวงหาซัพพลายเพิ่มเติมจากรัสเซีย, แอฟริกา และทวีปอเมริกา ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นไปมากกว่า 4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเมื่อวานนี้ หลังกลุ่มโอเปกพลัสสร้างความตกตะลึงให้กับตลาด โดยการประกาศปรับลดกำลังการผลิตลงราว 1.16 ล้านบาร์เรล/วัน นับตั้งแต่เดือนพ.ค.ไปจนถึงสิ้นปี 2566

• นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนระบุว่า สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) มีศักยภาพที่จะไปถึง 96 ดอลลาร์/บาร์เรลภายในสิ้นปีนี้ และเสริมว่า การปรับลดการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอกเปกพลัสเป็นมาตรการป้องกัน เพื่อไม่ให้ภาวะปริมาณน้ำมันดิบส่วนเกินในตลาดดำเนินต่อไปจนถึงครึ่งหลังของปี 2566

• โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) สำหรับการส่งมอบในเดือนธ.ค. 2566 จะเพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์ สู่ระดับ 95 ดอลลาร์/บาร์เรล และคาดว่าสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์สำหรับการส่งมอบในเดือนธ.ค. 2567 จะเพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ สู่ระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ

• โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ประกาศว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสจะเดินทางเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 5 – 7 เม.ย.นี้ ตามคำเชิญของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีน ขณะเดียวกันนางอัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) จะเดินทางเยือนจีนในวันดังกล่าวเช่นเดียวกัน

• กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้เปิดเผยว่า กองทัพเรือของเกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ได้จัดการซ้อมรบต่อต้านเรือดำน้ำเป็นเวลา 2 วัน โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ

• สำนักข่าวของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานว่า นางคิม โยจอง น้องสาวของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้กล่าวหายูเครนว่าเรียกร้องให้มีอาวุธนิวเคลียร์ หลังยูเครนได้เสนอคำร้องทางออนไลน์เรื่องอาวุธนิวเคลียร์จนมีผู้ลงชื่อเกือบ 1,000 คนนับจนถึงวันเสาร์ที่ผ่านมา

• เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำเบลารุสเปิดเผยว่า รัสเซียจะเคลื่อนย้ายอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีเข้าใกล้ชายแดนฝั่งตะวันตกของเบลารุส ซึ่งใกล้กับพรมแดนของนาโต้ และคาดว่าจะเพิ่มความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก

• หน่วยงานด้านความมั่นคงของรัสเซียกำลังสั่งยึดหนังสือเดินทางของบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงและเหล่าผู้บริหารบริษัทที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ เพื่อป้องกันไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ เพราะกังวลว่าจะเกิดการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญและการแปรพักตร์

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด

• หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลงว่า ญี่ปุ่นจะผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มพรมแดนให้กับนักเดินทางที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่วันพุธที่ 5 เม.ย.นี้ เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• ค่าเงินบาทเช้านี้ เปิดตลาด 34.19 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิดวานนี้ที่ 34.39 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบวันนี้เคลื่อนไหวในช่วง 34.15 - 34.35 บาท/ดอลลาร์

• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนมี.ค.66 อยู่ที่ 52.9 เพิ่มขึ้นจากระดับ 50.6 ในเดือนก.พ. ซึ่งอยู่เหนือระดับ 50 ได้ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 สะท้อนภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น ตามการปรับเพิ่มขึ้นในทุกองค์ประกอบ นำโดยด้านผลประกอบการและการผลิต ความเชื่อมั่นในภาคการผลิตปรับดีขึ้นในเกือบทุกธุรกิจ และส่งผลให้ดัชนีฯ เพิ่มขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 50 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน สะท้อนภาวะธุรกิจที่ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยเฉพาะกลุ่มผลิตอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงกลุ่มผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อและผลประกอบการปรับดีขึ้นมาก

• ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยช่วงวันหยุดยาว 5 วัน ของเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 13-17 เม.ย. 66 น่าจะมีจำนวน 5.1 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 28.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ปี 65 นี้ น่าจะมีมูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง