ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี โดยนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 1
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -2.41 เหรียญ หรือ -0.12% อยู่ที่ระดับ 1,987.45 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 3 เหรียญ หรือ 0.15% ปิดที่ 1,999 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 13.80 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 25.209 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 12.80 เหรียญ หรือ 1.16% ปิดที่ 1,093.20 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 3.76 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 926.28 ตันภาพรวมเดือนเมษายน ขายสุทธิ 1.74 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 8.64 ตัน
- นักวิเคราะห์จากบริษัท Zaner Metals กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2566 ขยายตัวเพียง 1.1% ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 2.0% และบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.08 จุด หรือ 0.08% มาอยู่ที่ระดับ 101.47 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.07 % มาอยู่ที่ระดับ 3.522% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.13 % มาอยู่ที่ระดับ 4.082% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.56%
- รัฐบาลอาร์เจนตินาจะเริ่มชำระค่าสินค้านำเข้าจากจีนเป็นสกุลเงินหยวนแทนดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยรักษาเงินดอลลาร์ในทุนสำรองระหว่างประเทศของอาร์เจนตินาที่กำลังหดตัว
- หน่วยงานกำกับดูแลภาคธนาคารของสหรัฐกำลังพิจารณาเรื่องปรับลดการประเมินสถานะของธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ (FRB) ซึ่งเป็นธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้ FRB ถูกจำกัดความสามารถในการกู้ยืมเงินจากโครงการของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- นักวิเคราะห์คาดการณ์กันในวงกว้างว่า นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการคนใหม่ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะไม่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินนัดแรกนับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งของเขา ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 เม.ย.
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดในวันพฤหัสบดี ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้นกว่า 2% ขานรับผลประกอบการที่สดในของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงเมตา แพลตฟอร์ม, คอมแคสต์ และแคทเธอร์ พิลลาร์
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,826.16 จุด พุ่งขึ้น 524.29 จุด หรือ +1.57%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,135.35 จุด เพิ่มขึ้น 79.36 จุด หรือ +1.96%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,142.24 จุด พุ่งขึ้น 287.89 จุด หรือ + 2.43%
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวเพียง 1.1% ในไตรมาส 1/2566 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.0% เนื่องจากภาคธุรกิจปรับลดการลงทุนในการสต็อกสินค้า ซึ่งบดบังตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 249,000 ราย
- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 217 ต่อ 215 ผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงมาตรการปรับลดการใช้จ่ายในช่วง 10 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ดี ร่างกฎหมายดังกล่าวอาจจะไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา และประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะใช้สิทธิ์วีโต (veto) เพื่อคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าวหากผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา
- รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ของจีน เปิดเผยว่า ตลาดแรงงานจีนยังคงซบเซา และบัณฑิตจบใหม่เริ่มหางานได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ ทางการจีนตั้งเป้าที่จะสร้างงานในเขตเมืองราว 12 ล้านตำแหน่งในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายของปีที่แล้วที่ระดับอย่างน้อย 11 ล้านตำแหน่ง
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมของจีนไตรมาสแรกของปี 2566 ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของประเทศเผชิญกับความยากลำบากในการฟื้นตัว แม้จะมีการยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์แล้วก็ตาม ทั้งนี้ รายงานระบุว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวลง 21.4% ในไตรมาส 1 (ช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.) ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 12% และสวนทางกับไตรมาส 1 ปีที่แล้วซึ่งมีการขยายตัว 8.5%
- การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ในยุโรปลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปีในไตรมาส 1/2566 เนื่องจากนักลงทุนตื่นตระหนกกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและแนวโน้มเศรษฐกิจที่ซบเซาทำให้แผนการเข้าซื้อกิจการต่าง ๆ หยุดชะงัก
- ดอยซ์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนีเปิดเผยว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 1.158 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.06 พันล้านยูโรในไตรมาส 1/2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 864.54 ล้านยูโร ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าดอยซ์แบงก์สามารถรับมือกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารที่เกิดขึ้นทั่วโลก
- ธนาคารบาร์เคลย์สของอังกฤษรายงานว่า กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 27% แตะที่ 1.78 พันล้านปอนด์ ในไตรมาส 1/2566 (ม.ค.-มี.ค.) เมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ที่ 1.432 พันล้านปอนด์
- สิงคโปร์ปรับขึ้นภาษีสำหรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยประเภทต่าง ๆ โดยผู้ซื้อชาวต่างชาติเผชิญการขึ้นภาษีมากที่สุด ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวานนี้ โดยอากรแสตมป์ที่ผู้ซื้อต้องจ่ายเพิ่ม (Additional Buyer’s Stamp Duty : ABSD) ของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยชาวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจาก 30% สู่ 60%
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหลังจากราคาน้ำมันร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากเจ้าหน้าที่รัสเซียงระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติม
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.62% ปิดที่ 74.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 0.88% ปิดที่ 78.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
- นักวิเคราะห์จากบริษัท FX Empire กล่าวว่า ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อ หลังจากราคาร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ โดยเฉพาะในวันพุธซึ่งราคาน้ำมันดิ่งลงเกือบ 4% นอกจากนี้ การที่นักลงทุนเริ่มกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดการเงิน ก็เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นแรงซื้อในตลาดน้ำมันด้วย
- ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียกล่าวว่า กลุ่มโอเปกพลัสยังไม่เห็นถึงความจำเป็นในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติมในขณะนี้ แต่โอเปกพลัสสามารถปรับนโยบายการผลิตได้ตลอดเวลา
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- ปธน.ไบเดนได้ประกาศเข้าร่วมศึกเลือกตั้ง พร้อมให้คำมั่นว่าจะปกป้องเสรีภาพของชาวสหรัฐจาก “พวกหัวรุนแรง” ที่มีความเชื่อมโยงกับอดีตปธน.ทรัมป์
- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้เน้นย้ำว่า การโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือต่อสหรัฐและชาติพันธมิตรนั้น จะหมายถึงการสิ้นสุดยุคสมัยการปกครองของนายคิม จองอึน ในขณะที่ปธน.ไบเดนได้ประกาศความพยายามครั้งใหม่ร่วมกับเกาหลีใต้ในการต่อต้านการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
- สหรัฐจะส่งเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์ไปยังเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงใหม่ที่จะส่งสัญญาณแสดงถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลสหรัฐในการปกป้องเกาหลีใต้จากภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ
- สำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) ได้เพิ่มเบลารุสเข้าไปในบัญชีรายชื่อประเทศที่ต้องจับตาด้านทรัพย์สินทางปัญญา เนื่องจากเบลารุสได้ออกกฎหมายใหม่ที่อนุญาตให้ใช้ผลงานลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากประเทศต่าง ๆ ที่คว่ำบาตรเบลารุสเนื่องจากสนับสนุนรัสเซียในการทำสงครามกับยูเครน
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- ค่าเงินบาท เปิดเช้านี้ที่ 34.09 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ 34.12 บาทต่อดอลลาร์ กรอบวันนี้ที่ 34.05 - 34.25 บาทต่อดอลลาร์
- ผู้บริหาร ส.อ.ท.ส่วนใหญ่มองเรื่องอัตราการจ้างงานในปัจจุบันได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 แล้ว และคาดว่าในปีนี้การจ้างงานจะยังมีแนวโน้มคงที่ต่อไป อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนและชะลอตัว ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางการจ้างงานของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต
- นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนมี.ค.66 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยว และภาคการเกษตรที่ขยายตัวได้ดี อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐยังคงหดตัว แต่ในอัตราที่ลดลงจากเดือนก่อนหน้า
- ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ระบุว่า จากมูลค่าการส่งออกของไทยเดือนมี.ค.66 อยู่ที่ 27,654 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 4.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 นั้น ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ -14% ซึ่งการส่งออกไทย ยังมีความเสี่ยงจากอุปสงค์โลกที่เปราะบาง และอาจถูกกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ทำให้คาดว่าการส่งออกทั้งปี 2566 มีแนวโน้มติดลบที่ 1.6%
- อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไตรมาส 1 ปี 2566 (ม.ค.-มี.ค.66) เฉลี่ยอยู่ที่ 160.85 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 5.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าในครึ่งปีหลัง การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศอย่างเห็นได้ชัด
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง