ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินเดือนมิ.ย.
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 4.27 เหรียญ หรือ 0.21% อยู่ที่ระดับ 2,020.92 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 8.40 เหรียญ หรือ 0.41% ปิดที่ 2,033.20 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 9.60 เซนต์ หรือ 0.37% ปิดที่ 25.834 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 19.40 เหรียญ หรือ 1.82% ปิดที่ 1,087.70 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 5.78 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 937.55 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ซื้อสุทธิ 11.27 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 19.91 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.12 จุด หรือ 0.12% มาอยู่ที่ระดับ 101.4 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.07 % มาอยู่ที่ระดับ 3.511% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.001% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.49%
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 83.4% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. และให้น้ำหนักเพียง 16.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50%
- นายออสตัน กูลส์บี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกกล่าวว่า "เร็วเกินไปมาก" ที่จะระบุว่า การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมากเกินคาดในเดือนเม.ย.หมายความว่า เฟดจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมในเดือนมิ.ย.
- นายอิกนาซิโอ วิสโก ผู้ว่าการธนาคารกลางอิตาลี และสมาชิกสภาบริหารธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยของอีซีบีอาจจะกำลังใกล้แตะระดับที่จำเป็นต่อการควบคุมเงินเฟ้อ และระดับสูงสุดที่ตลาดคาดการณ์ไว้นั้น "เป็นจุดอ้างอิงที่สำคัญ" สำหรับอีซีบี
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันเดือนมี.ค. โดยระบุว่ากรรมการ BOJ ได้หารือกันเกี่ยวกับความเสี่ยงของอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่กรรมการ BOJ ส่วนหนึ่งกล่าวว่า มีสัญญาณเชิงบวกที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นมีแนวโน้มเคลื่อนตัวสู่เป้าหมายของ BOJ ที่ระดับ 2% อย่างไรก็ดี ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (core-CPI) ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสด แต่รวมราคาน้ำมัน พุ่งขึ้น 3.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี และสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของ BOJ ที่ระดับ 2% เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งปรับขึ้นราคาสินค้า
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,618.69 จุด ลดลง 55.69 จุด หรือ -0.17%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,138.12 จุด เพิ่มขึ้น 1.87 จุด หรือ +0.05%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,256.92 จุด เพิ่มขึ้น 21.50 จุด หรือ +0.18%
- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐในวันพุธและพฤหัสบดีตามลำดับ ขณะที่ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 5.0% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากแตะระดับ 5.0% เช่นกันในเดือนมี.ค. นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI พื้นฐาน (core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 5.5% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวจากระดับ 5.6% ในเดือนมี.ค.
- นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนว่า หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างรุนแรง พร้อมกับย้ำกว่า กระทรวงการคลังอาจจะไม่สามารชำระหนี้ได้ตามกำหนดในเดือนมิ.ย.
- เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และตลาดตราสารหนี้ รวมทั้งเงินฝากที่ไม่ได้รับการประกันจำนวนมาก 9 ล้านล้านดอลลาร์ในระบบธนาคารของสหรัฐ ทั้งนี้ จากรายงานระบุว่า ธนาคารเกือบครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 4,800 แห่งของสหรัฐได้ใช้กองทุนส่วนเพิ่มเพื่อสำรองไว้ยามฉุกเฉิน (Capital buffer) ไปแล้ว โดยธนาคารเหล่านี้อาจไม่จำเป็นต้องเปิดเผยภาวะขาดทุนทั้งหมดต่อตลาดภายใต้กฎระเบียบการบัญชีสหรัฐ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ธนาคารเหล่านี้รอดพ้นจากภาวะล้มละลาย
- นักลงทุนจับตาข้อมูลการค้าจีนในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดเกินดุลการค้าเดือนเม.ย.ของจีนจะลดลงสู่ระดับ 7.43 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 8.82 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค.
- สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (World Travel & Tourism Council: WTTC) ระบุในรายงานวิจัยผลกระทบทางเศรษฐกิจ 2566 ว่า ภาคการเดินทางและการท่องเที่ยวโลกจะยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ในปีนี้ แต่ขยับเข้าใกล้การฟื้นตัวอย่างเต็มที่ โดยมีแนวโน้มที่จะมีรายได้แตะ 9.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2566 ซึ่งต่ำกว่าเมื่อปี 2562 เพียง 5%
- สถาบันวิจัย Sentix ของเยอรมนี เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นนักลงทุนยูโรโซนดิ่งเกินคาดในเดือนพ.ค. เนื่องจากสถานการณ์เงินเฟ้อที่ยังคงไม่ดีขึ้นและความวิตกกังวลด้านพลังงานดับความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนในยูโรโซนปรับตัวลดลงสู่ระดับ -13.1 จุดในเดือนพ.ค.จากระดับ -8.7 ในเดือนเม.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ -8.0 ในเดือนนี้
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันจันทร์ โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 1.82 ดอลลาร์ หรือ 2.55% ปิดที่ 73.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2.27% ปิดที่ 77.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำร่วมกับ 5 ประเทศในภูมิภาคเอเชียกลางเป็นเวลา 2 วันในสัปดาห์หน้า ในขณะที่จีนพยายามเพิ่มอิทธิพลในภูมิภาคดังกล่าว โดยการประชุมครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่การกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการทูตกับจีน
- จีนได้ทำการจำกัดบริษัทต่างชาติจากการเข้าถึงข้อมูลของจีน เพราะสถาบันวิจัยหลายแห่งของสหรัฐได้นำข้อมูลของจีนไปใช้งานจนสร้างความวิตกกังวลให้กับรัฐบาลจีน
- เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยว่า รัสเซียระดมยิงขีปนาวุธชุดใหญ่ใส่กรุงเคียฟและพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วยูเครน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างและทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ในขณะที่กำลังเตรียมเฉลิมฉลอง “วันแห่งชัยชนะ” ในวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งอดีตสหภาพโซเวียตสามารถพิชิตกองทัพนาซีในปี 1945 (2488) ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
- กองบัญชาการทหารสูงสุดของยูเครนเปิดเผยว่า กองกำลังของยูเครนทำลายโดรนชาเฮดของอิหร่านที่ทัพรัสเซียได้ปล่อยออกมาในชั่วข้ามคืนเพื่อโจมตีเป้าหมายต่าง ๆ ในยูเครนไปแล้วทั้งสิ้น 35 ลำ
- นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้พบปะกับกลุ่มสมาชิกสภานิติบัญญัติและผู้นำธุรกิจของเกาหลีใต้ที่กรุงโซล เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระดับทวิภาคี ก่อนปิดฉากภารกิจเดินทางเยือนเกาหลีใต้ โดยนายกฯคิชิดะเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนแรกในรอบ 12 ปีที่เดินทางเยือนเกาหลีใต้
ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด
- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ รายงานว่า โควิด-19 เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 4 ของสหรัฐ ในปี 2565 รองจากโรคหัวใจ มะเร็ง และการบาดเจ็บโดยไม่เจตนาหรืออุบัติเหตุ
- รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศลดระดับความอันตรายของโรคโควิด-19 โดยจัดให้อยู่ในประเภทเดียวกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และประกาศผ่อนคลายกฎระเบียบทางการแพทย์ลงเป็นวงกว้าง นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหลังจากที่รัฐบาลใช้มาตรการเข้มงวดในการรับมือกับโรคโควิด-19 ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการปรับลดระดับความอันตรายของโควิด-19 ของญี่ปุ่น มีแนวโน้มที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นขยายตัวขึ้น 4.2 ล้านล้านเยน โดยได้รับแรงหนุนส่วนหนึ่งจากจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าที่เพิ่มขึ้น
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 33.85 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.82 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.75-34.00 บาทต่อดอลลาร์
- กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) คาดว่า ค่าเงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.65-34.35 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 34.02 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 33.99-34.25 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินดอลลาร์อ่อนค่าเทียบกับทุกสกุลเงินหลักในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25bp สู่ 5.00-5.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 50 และเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 10 ติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 65
- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% สู่ระดับ 2.00% ในการประชุมวันที่ 31 พ.ค.นี้ ก่อนจะลากยาวตลอดปี 66 โดยข้อจำกัดเกี่ยวกับเสถียรภาพระบบการเงิน จะเป็นแรงกดดันให้ กนง.ยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้
- ข้อมูลจากเว็บไซต์ทริปดอทคอม ระบุว่า ไทยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเยือนอย่างน้อย 5 ล้านคนในปีนี้ โดยบางคนมาเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะห่างไกลจากช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นมีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเยือนไทยจำนวนเกือบ 1 ใน 3 ของยอดนักท่องเที่ยวทั้งหมด 40 ล้านคน
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง