• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 10 พฤษภาคม 2566

    10 พฤษภาคม 2566 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนกันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันนี้


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 12.78 เหรียญ หรือ 0.63% อยู่ที่ระดับ 2,033.7 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 9.7 เหรียญ หรือ 0.48% ปิดที่ 2,042.90 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 6.40 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 25.898 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 28.30 เหรียญ หรือ 2.60% ปิดที่ 1,116 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.6 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 934.95 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ซื้อสุทธิ 8.67 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 17.31 ตัน

 

  • นักวิเคราะห์จากบริษัท FXTM แสดงความเห็นว่านักลงทุนจับตารายงานดัชนี CPI ของสหรัฐอย่างใกล้ชิด โดยหาก CPI ยังคงอยู่ในระดับสูง ก็อาจจะฉุดราคาทองร่วงหลุดจากระดับ 2,015 ดอลลาร์ และหากตัวเลข CPI ส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวลงของเงินเฟ้อ ก็คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำพุ่งนิวไฮอีกครั้ง


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.21 จุด หรือ 0.21% มาอยู่ที่ระดับ 101.62 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 3.524% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 4.026% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.5% 


  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานด้านเสถียรภาพการเงินรอบครึ่งปี โดยระบุว่า ในภาพรวมนั้น ภาคธนาคารของสหรัฐยังคงอยู่ในสถานะที่ดี และสามารถต้านทานภาวะปั่นป่วนที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ได้


  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยผลสำรวจภาวะและแนวโน้มสินเชื่อ โดยระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐได้เพิ่มมาตรฐานการปล่อยกู้ที่เข้มงวดมากขึ้นในช่วงต้นปีนี้ ขณะที่ความต้องการเงินกู้ของภาคธุรกิจและผู้บริโภคชะลอตัวลง ซึ่งรายงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเริ่มส่งผลกระทบต่อภาคการเงินของสหรัฐ ทั้งนี้ รายงาน SLOOS ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรวัดความเชื่อมั่นในภาคธนาคารนับตั้งแต่การล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) นั้น บ่งชี้ว่า ธนาคาร 46% เพิ่มมาตรฐานการปล่อยกู้ที่เข้มงวดมากขึ้นกับภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับ 44.8% ในผลสำรวจครั้งก่อนในเดือนม.ค.


  • นายปีเตอร์ คาซิมีร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสโลวาเกีย และสมาชิกสภาบริหารธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อีซีบีอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนานกว่าที่คาดไว้ในขณะนี้ และเดือนก.ย.อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เร็วที่สุดที่ผู้กำหนดนโยบายสามารถตัดสินได้ว่า การขึ้นดอกเบี้ยที่ผ่านมามีประสิทธิภาพแล้วหรือไม่


  • อีซีบีคาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะลดลงต่ำกว่า 3% ภายในไตรมาส 4 แต่หลังจากนั้น ก็อาจจะใช้เวลาอีกเกือบ 2 ปีก่อนที่เงินเฟ้อจะลดลงมาที่เป้าหมาย 2% ของอีซีบี


  • นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แถลงต่อรัฐสภาญี่ปุ่นว่า เขาตั้งใจที่จะยกเลิกนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Yield Curve Control – YCC) และจากนั้นจะเริ่มกระบวนการปรับลดงบดุลบัญชี ทันทีที่เห็นว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายของ BOJ ที่ 2% ได้อย่างยั่งยืน


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร โดยนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการประชุมของบรรดาผู้นำทางการเมืองของสหรัฐเพื่อหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,561.81 จุด ลดลง 56.88 จุด หรือ -0.17%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,119.17 จุด ลดลง 18.95 จุด หรือ -0.46% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,179.55 จุด ลดลง 77.36 จุด หรือ -0.63%


  • นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกำลังติดต่อผู้นำธุรกิจและการเงินของสหรัฐ เพื่ออธิบายถึงหายนะจากการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐที่อาจจะเกิดกับเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลก


  • นักลงทุนรอดูผลการประชุมเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ รวมทั้งผู้นำสภาคองเกรสอีกหลายคน ขณะที่ตลาดกังวลว่าการเจรจาดังกล่าวจะยังไม่นำไปสู่การบรรลุข้อตกลงระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรส เมื่อพิจารณาจากการที่นายแมคคาร์ธีกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า การเพิ่มเพดานหนี้จะต้องแลกเปลี่ยนกับการที่รัฐบาลยอมปรับลดงบประมาณรายจ่าย ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ปธน.ไบเดนไม่สามารถยอมรับได้ โดยระบุว่าการเพิ่มเพดานหนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเจรจาต่อรองได้


  • นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวว่า ราคาหุ้นธนาคารระดับภูมิภาคบางส่วนยังคงเผชิญแรงกดดัน แต่เงินฝากยังมีเสถียรภาพ และหน่วยงานกำกับดูแลก็พร้อมที่จะดำเนินมาตรการเดียวกันกับที่เคยใช้ช่วยเหลือธนาคารที่ล่มสลายเมื่อไม่นานมานี้ หากกระแสความกังวลเรื่องวิกฤตธนาคารเกิดขึ้นอีก


  • บรรดาผู้นำด้านการเงินของกลุ่ม G7 เตรียมหารือกันในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับการจัดเตรียมแผนฉุกเฉิน หากประสบปัญหาลูกค้าแห่ถอนเงินหรือ bank run ออกจากระบบธนาคารดิจิทัล นอกจากนี้ ผู้นำด้านการเงินของกลุ่ม G7 ยังเตรียมหารือกันว่า กฎระเบียบด้านเงินทุนในปัจจุบันในการกำกับดูแลสถาบันการเงินนั้นมีประสิทธิภาพหรือไม่ และบทเรียนใดบ้างที่สามารถเรียนรู้จากการล่มสลายของธนาคารสหรัฐเมื่อไม่นานมานี้


  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า IMF ยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะปั่นป่วนที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ในภาคธนาคาร แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐและสวิตเซอร์แลนด์จะยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาให้กับธนาคารที่ประสบปัญหาก็ตาม แต่ปัญหาในภาคธนาคารนั้นยังไม่จบสิ้น และธนาคารในสหภาพยุโรป (EU) ก็ยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อปัญหา ตราบใดที่ EU ยังไม่ยอมหารือเรื่องกลไกในการรับมือกับปัญหาธนาคารล้มให้เสร็จสิ้น หลังจากที่มีการหารือเรื่องดังกล่าวมาอย่างยาวนาน


  • ยอดส่งออกเดือนเม.ย.ของจีนเพิ่มขึ้น 8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 2.9542 แสนล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 6.4% อย่างไรก็ดี การขยายตัวของยอดส่งออกเดือนเม.ย.ชะลอลงจากเดือนมี.ค.ที่ขยายตัวแข็งแกร่งถึง 14.8% ส่วนยอดนำเข้าเดือนเม.ย.ปรับตัวลง 7.9% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 2.0521 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ลดลง 1.4% ในเดือนมี.ค. และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจจะลดลงเพียง 0.1%.


  • การใช้จ่ายของผู้บริโภคในญี่ปุ่นลดลงเกินคาดในเดือนมี.ค.ในอัตรารวดเร็วที่สุดในรอบ 1 ปี ขณะที่ค่าจ้างที่แท้จริง (real wages) ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน อันเนื่องมาจากภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเผชิญความยากลำบากในการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง หลังจากถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19


  • ยอดค้าปลีกของออสเตรเลียในไตรมาส 1/2566 ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นและค่าครองชีพในระดับสูงนั้น กำลังส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร หลังจากมีรายงานรัฐบาลสหรัฐมีแผนที่จะซื้อน้ำมันดิบเพื่อเติมเต็มคลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐ (SPR)


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 73.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 77.44 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ซาอุดี อารามโค บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย รายงานว่า กำไรสุทธิลดลง 19% แตะที่ 3.19 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1/2566 จาก 3.95 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • ยูเครนเปิดเผยว่า รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนระลอกใหม่เมื่อวานนี้ ขณะเฉลิมฉลองครบรอบวันแห่งชัยชนะ โดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนสามารถสกัดขีปนาวุธไว้ได้ 23 จาก 25 ลูก ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งเป้าโจมตีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน


  • กระทรวงการป้องกันประเทศญี่ปุ่นและกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้เตรียมทำข้อตกลงในช่วงต้นเดือนหน้า เพื่อเชื่อมโยงเรดาร์ของทั้งสองประเทศผ่านระบบของสหรัฐ เพื่อให้สามารถแบ่งปันข้อมูลขีปนาวุธของเกาหลีเหนือแบบเรียลไทม์


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน ระบุ ค่าเงินบาทวันนี้เปิดที่ระดับ 33.67 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.69 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มค่าเงินบาท ในช่วงคืนที่ผ่านมา แม้ว่าเงินดอลลาร์จะทยอยแข็งค่าขึ้น ตามภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาด แต่โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบโซนแนวต้าน ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนให้เงินบาทเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นใกล้โซน 33.70 บาทต่อดอลลาร์ อีกครั้ง โดยวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.55-33.90 บาทต่อดอลลาร์


  • รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการผลักดันการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคและการส่งเสริมธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น โดยผู้นำอาเซียนจะพิจารณาการรับรองร่างปฏิญญาฯ ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 42 (42nd ASEAN Summit) ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 

 

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com