ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และความกังวลว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -6.8 เหรียญ หรือ -0.35% อยู่ที่ระดับ 1,915.2 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 10 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 1,923.80 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 13.40 เซนต์ หรือ 0.59% ปิดที่ 22.96 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 934 ดอลลาร์/ออนซ์
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่มีการเปลียนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 925.66 ตันภาพรวมเดือนมิถุนายน ขายสุทธิ 13.9 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 8.02 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.17 จุด หรือ -0.17% มาอยู่ที่ระดับ 102.52 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 3.769% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.768% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-1.0% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- มอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนก.ค. หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดยังไม่ยุติวงจรการปรับขึ้นดอกเบี้ย
- นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวในงานซึ่งจัดขึ้นในโปรตุเกสว่า เงินเฟ้อในโซนยุโรปยังคงสูงเกินไป และมีแนวโน้มว่าจะยังเป็นเช่นนั้นต่อไปอีกยาวนาน แต่ลักษณะของความท้าทายจากเงินเฟ้อในโซนยุโรปกำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งยังไม่สามารถประกาศชัยชนะได้อย่างสมบูรณ์ในตอนนี้
- รองผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า ธนาคารกลางชั้นนำของโลกอาจจะต้องใช้เวลานานขึ้นเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงกลับมาที่เป้าหมาย และภาวะปั่นป่วนทางการเงินรอบใหม่อาจทำให้กระบวนการดังกล่าวยืดเยื้อมากยิ่งขึ้นอีก
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่นกล่าวเตือนเกี่ยวกับการอ่อนค่าของเงินเยน พร้อมระบุว่า เขาจะดำเนินการรับมืออย่างเหมาะสม หากสกุลเงินเคลื่อนไหวมากเกินไป โดยคำกล่าวเตือนมีขึ้นหลังจากที่เงินดอลลาร์สหรัฐซื้อขายที่ระดับ 143.43 เยน ซึ่งลดลง 0.06% จากระดับก่อนหน้านี้ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นได้ส่งสัญญาณเตือนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า เงินเยนได้อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว
- ชาวรัสเซียได้พยายามแลกสกุลเงินรูเบิลเป็นเหรียญเทเธอร์ (Tether) ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์สกุลใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่รัสเซียเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเมือง หลังจากกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ก่อกบฏและพยายามเคลื่อนทัพเข้าสู่กรุงมอสโกในช่วงสุดสัปดาห์ ก่อนที่จะประกาศยุติการบุกกรุงมอสโกในเวลาต่อมา
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันอังคาร (27 มิ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอันเนื่องมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,926.74 จุด พุ่งขึ้น 212.03 จุด หรือ +0.63%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,378.41 จุด เพิ่มขึ้น 49.59 จุด หรือ +1.15%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,555.67 จุด เพิ่มขึ้น 219.89 จุด หรือ +1.65%
- นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนในไตรมาส 2 มีแนวโน้มที่จะขยายตัวแข็งแกร่งกว่าในไตรมาส 1 และคาดว่าอาจจะขยายตัวตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ราว 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันอังคาร (27 มิ.ย.) หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ ยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.67 ดอลลาร์ หรือ 2.41% แตะที่ 67.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.92 ดอลลาร์ หรือ 2.59% ปิดที่ 72.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
- นักวิเคราะห์จากบริษัท FX Empire กล่าวว่า ตลาดน้ำมันถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐอาจจะผลักดันให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 2.4 ล้านบาร์เรลในวันที่ 23 มิ.ย. และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐมีแผนเดินทางเยือนจีนในช่วงต้นเดือนก.ค.นี้ เพื่อหารือด้านเศรษฐกิจระดับสูงเป็นครั้งแรกกับคู่เจรจาจากจีน
- ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า แกนนำก่อกบฏในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และกองทัพรัสเซียจะดำเนินปราบปรามการก่อกบฏ
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นจะกลับมาบรรจุเกาหลีใต้ใน “บัญชีสีขาว” (Whitelist) เพื่อรับสิทธิพิเศษด้านการส่งออกสินค้า โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.เป็นต้นไป โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นก้าวสำคัญในการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- ค่าเงินบาทวันนี้เปิดที่ระดับ 35.30 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 35.28 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะมีแนวรับที่ 35.15 บาท แนวต้านที่ 35.40 บาท
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก โดยในบางช่วงเวลาอาจมีปัจจัยเฉพาะของไทย ที่ส่งผลให้ค่าเงินบาทผันผวนกว่าสกุลภูมิภาค อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามปัจจัยแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อโลก รวมถึงการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักและจีน และความไม่แน่นอนของการเมืองไทย
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เผยแผนเงินเพิ่มเติมในการผลักดันระบบนิเวศของตลาดอัตราแลกเปลี่ยน(FX ecosystem) ซึ่งจะดำเนินการในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เพื่อผ่อนคลายเกณฑ์เงินทุนไหลออก และช่วยให้ภาคเอกชนสามารถทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ และบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนได้สะดวกขึ้น
- กระทรวงพาณิชย์ รายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนพ.ค.66 พบว่า การส่งออก มีมูลค่า 24,340 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.6% จากตลาดคาดหดตัว 8-10% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 26,190 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ในเดือนพ.ค. ไทยขาดดุลการค้า 1,849 ล้านดอลลาร์
- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การแข่งขันเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือน ต.ค.65 คาดการณ์ว่าจะยังไม่สิ้นสุดในระยะเวลาใกล้นี้ ส่งผลให้บริษัทรายสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของโลกเริ่มย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีนไปยังแหล่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่ประเทศคู่แข่งขันในสงครามเทคโนโลยี โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีบรรยากาศทางการเมืองค่อนข้างสงบ และส่วนใหญ่วางตัวเป็นกลางระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์ดังกล่าว
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง