
ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ โดยฟื้นตัวขึ้นหลังลดลง 3 วันติดต่อกัน และได้แรงหนุนจากการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้สัญญาณว่า เงินเฟ้อในสหรัฐชะลอตัวลง
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 11.3 เหรียญ หรือ 0.59% อยู่ที่ระดับ 1,919.31 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 11.50 เหรียญ หรือ 0.60% ปิดที่ 1,929.40 เหรียญ โดยราคาปรับตัวลงเพียง 20 เซนต์ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา, ลดลง 2.7% ในเดือนมิ.ย. และลดลง 2.9% ในไตรมาส 2/2566 ซึ่งเป็นการลดลงรายไตรมาสครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2565
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 22.20 เซนต์ หรือ 0.97% ปิดที่ 23.02 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 6.40 เหรียญ หรือ 0.71% ปิดที่ 913.20 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.6 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 921.9 ตันภาพรวมเดือนมิถุนายน ขายสุทธิ 17.66 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 4.26 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.42 จุด หรือ -0.41% มาอยู่ที่ระดับ 102.92 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 3.841% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 4.913% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-1.07%
- นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ย้ำว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหลายครั้งอาจจะเกิดขึ้นในอนาคตสำหรับเฟด และเขาไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ที่จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในวันที่ 25-26 ก.ค.
- นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตากล่าวว่า เฟดจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถ้าอัตราเงินเฟ้อเคลื่อนตัวห่างออกจากเป้าหมาย หรือการคาดการณ์เงินเฟ้อเริ่มที่จะเคลื่อนตัวใน "แนวทางที่ยากลำบาก" แต่ก็เสริมว่า ทั้งสองเหตุการณ์ยังไม่ได้เกิดขึ้นในตอนนี้ อย่างไรก็ดี เขายังย้ำว่า เฟดควรคงอัตราดอกเบี้ยตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 84.3% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนก.ค.
- รมว.คลังญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะดำเนินขั้นตอนที่เหมาะสม ถ้าเยนอ่อนค่ามากเกินไป โดยเขากล่าวหลังจากที่เยนร่วงลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันศุกร์ และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกมากที่สุดในรอบ 40 ปี หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้สัญญาณว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐชะลอตัวลง ขณะที่หุ้นแอปเปิลปิดตลาดด้วยมูลค่าตลาดสูงถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,407.60 จุด เพิ่มขึ้น 285.18 จุด หรือ +0.84%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,450.38 จุด เพิ่มขึ้น 53.94 จุด หรือ +1.23%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,787.92 จุด เพิ่มขึ้น 196.59 จุด หรือ +1.45%
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผย ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวลดลง 3.8% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 4.3% ในเดือนเม.ย. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนพ.ค. จากระดับ 0.4% ในเดือนเม.ย.ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ปรับตัวลดลง 4.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% จากระดับ 4.7% ในเดือนเม.ย. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวลดลง 0.3% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.4% ในเดือนเม.ย.
- มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 64.4 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 63.9 จากระดับ 59.2 ในเดือนพ.ค.
- กลุ่มธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐ เช่น มอร์แกน สแตนลีย์, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, ซิตี้ กรุ๊ป และโกลด์แมน แซคส์ ประกาศปรับเพิ่มเงินปันผลหุ้นในวันศุกร์ที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังผ่านการทดสอบภาวะวิกฤตครั้งล่าสุดจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เงินเฟ้อทั่วไปในยูโรโซนอยู่ที่ 5.5% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ แต่เงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาพลังงานและอาหาร ยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูงและปรับขึ้นสู่ 5.4% อย่างไรก็ดี ตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับสูงสุดในรอบ 22 ปีเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.
- ธนาคารกลางของจีน (PBOC) เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการและนายธนาคารของจีนมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจมหภาคของประเทศในไตรมาสที่ 2/2566 โดยดัชนีความร้อนแรงของเศรษฐกิจมหภาคในกลุ่มผู้ประกอบการ (The entrepreneur macroeconomy heat index) อยู่ที่ 30.9% เพิ่มขึ้น 4.3 จุดเมื่อเทียบรายปี
- China Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจีน ระบุว่า มาตรการกระตุ้นทางการเงินที่จีนนำมาใช้ในปีที่แล้วนั้น แทบไม่สามารถกระตุ้นความต้องการเงินกู้ให้ฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ได้ แม้ว่าต้นทุนการกู้ยืมสำหรับภาคธุรกิจอยู่ต่ำกว่าปีที่แล้วก็ตาม
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมิ.ย.ของจีนหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งตอกย้ำว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีนอ่อนแรงลงอย่างมาก และอาจจะกดดันให้รัฐบาลจีนเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในไม่ช้านี้ ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 49.0 จากระดับ 48.8 ในเดือนพ.ค. และ 49.2 ในเดือนเม.ย. โดยดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตจีนหดตัวลง และเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
- บริษัทต่างประเทศกำลังออกหุ้นกู้สกุลเงินหยวนในจีนในอัตราที่สูงเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า และมาตรการจูงใจของรัฐบาลที่มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการใช้เงินหยวนในระดับโลก
- ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบริษัทพิมโก้ (PIMCO) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการลงทุนรายใหญ่จากสหรัฐ เผยว่า พิมโก้กำลังเตรียมตัวเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ทรุดตัวรุนแรงยิ่งขึ้น ขณะที่ บรรดาผู้นำธนาคารกลางชั้นนำของโลกเตรียมเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไป “แนวโน้มที่จะมีการคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้นได้เพิ่มความเสี่ยงต่อทิศทางเศรษฐกิจ” พร้อมระบุเสริมว่า ตลาดเชื่อมั่นต่อความสามารถในการหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยของธนาคารกลางมากจนเกินไป
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากการที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลงในสหรัฐ และนักลงทุนต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 78 เซนต์ หรือ 1.12% ปิดที่ 70.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 74.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
- นายวลาดิมีร์ เซอร์นอฟ นักวิเคราะห์ของเอฟเอ็กซ์ เอ็มไพร์ เปิดเผยว่า ตลาดน้ำมันปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น นายเซอร์นอฟระบุด้วยว่า การอ่อนค่าของดอลลาร์ได้ช่วยหนุนตลาดน้ำมันด้วย โดยดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำให้สัญญาน้ำมันดิบที่กำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์นั้นมีราคาถูกลง และน่าสนใจมากขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ๆ
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- ศูนย์ข่าวกรองของสหรัฐ เตือนบรรดาผู้บริหารธุรกิจว่า การปรับปรุงกฎหมายต่อต้านการจารกรรมของจีนซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (1 ก.ค.) นั้น อาจสร้างความเสี่ยงและความไม่แน่นอนสำหรับบริษัทต่าง ๆ ที่ทำธุรกิจในจีน
- สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ทางการจีนกำลังเพิ่มอำนาจให้แก่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ผ่านกฎหมายฉบับใหม่ที่มุ่งปกป้องผลประโยชน์ของจีนทั่วโลก โดยกฎหมายดังกล่าวจะลงโทษหน่วยงานใด ๆ ก็ตามที่มีส่วนร่วมในการกระทำที่ถือว่าเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของจีน แต่ไม่ได้ระบุถึงขอบเขตที่ชัดเจน
- วันที่ 1 ก.ค. เป็นวันครบรอบ 26 ปีที่ฮ่องกงส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนสู่จีน ซึ่งบรรยากาศตามถนนสายต่าง ๆ ในฮ่องกงยังคงเงียบสงบ และไม่ได้มีการวางแผนชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยแต่อย่างใด ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างแน่นหนา
- กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า พบเรือรบของรัสเซีย 2 ลำอยู่ในน่านน้ำใกล้เกาะโอกินาวาของญี่ปุ่นในช่วง 4 วันก่อน และญี่ปุ่นได้ส่งเรือ 2 ลำไปเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเรือรบรัสเซียดังกล่าว หลังจากที่ทางการไต้หวันก็ประกาศเช่นเดียวกับว่าพบเรือรบรัสเซียในสัปดาห์นี้
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.27 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 35.45 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.90-35.75 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.10-35.40 บาทต่อดอลลาร์
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผย เศรษฐกิจไทยเดือนพ.ค. 66 อยู่ในทิศทางฟื้นตัว โดยการใช้จ่ายภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้นทั้งการบริโภค และการลงทุน ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวจากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำ ปรับเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรม ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวต่อเนื่อง
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เผยหนี้ครัวเรือน สิ้นไตรมาส 1/66 ที่ 15.96 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 90.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) เทียบกับระดับ 91.4% ในสิ้นไตรมาส 4/65 และ 91.5% ในสิ้นไตรมาส 3/65
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง
.jpg)