ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -0.45 เหรียญ หรือ -0.02% อยู่ที่ระดับ 1,954.98 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.41% ปิดที่ 1,956.40 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 17.60 เซนต์ หรือ 0.70% ปิดที่ 25.018 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 987.50 ดอลลาร์/ออนซ์
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.73 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 912.93 ตันภาพรวมเดือนกรกฎาคม ขายสุทธิ 8.97 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 4.71 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.07 จุด หรือ -0.07% มาอยู่ที่ระดับ 99.89 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 3.813% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.747% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.93%
- นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 90% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 3.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
- ริพเพิล (Ripple) บริษัทบริการด้านบล็อกเชนและซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีของสหรัฐ มีความมั่นใจว่า ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินอื่น ๆ ในสหรัฐจะเริ่มแสดงความสนใจที่จะนำสกุลเงินคริปโทฯ “เอ็กซ์อาร์พี” (XRP) ของริพเพิลมาใช้ในการชำระเงินข้ามพรมแดน หลังจากมีคำพิพากษาตัดสินว่า โทเคนดังกล่าวนั้นไม่จำเป็นต้องถูกจำกัดความว่าเป็น “หลักทรัพย์”
- ธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ที่ระดับ 2.65% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย MLF เป็นอัตราดอกเบี้ยในโครงการปล่อยกู้ซึ่งมีเป้าหมายที่จะให้ธนาคารกลางจีนสามารถอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบธนาคาร และมีผลบ่งชี้ต่ออัตราดอกเบี้ยประเภทอื่น ๆ ในระบบธนาคารของจีน
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ในวันจันทร์ ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน โดยตลาดได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มการเงิน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,585.35 จุด เพิ่มขึ้น 76.32 จุด หรือ +0.22%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,522.79 จุด เพิ่มขึ้น 17.37 จุด หรือ +0.39%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,244.95 จุด เพิ่มขึ้น 131.25 จุด หรือ +0.93%
- นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนว่า “การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบลุกลามไปยังเศรษฐกิจของประเทศอื่น ๆ เนื่องจากหลายประเทศต้องพึ่งพาการขยายตัวที่แข็งแกร่งของจีนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศตน โดยเฉพาะประเทศในเอเชีย และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐด้วย”
- บริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์เปิดเผยว่า การฟื้นตัวของภาคค้าปลีกจีนในปี 2566 จะทำให้รายได้และความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจค้าปลีกนอกภาคอาหารหวนคืนสู่ภาวะปกติ หลังจีนยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ฟิทช์ระบุว่า ภาวะแวดล้อมด้านการดำเนินงานยังคงเป็นปัจจัยท้าทายสำหรับกลุ่มผู้ค้าปลีก โดยความเชื่อมั่นผู้บริโภคกระเตื้องขึ้นจากภาวะซบเซาในปี 2565 หลังจีนประกาศเปิดประเทศอีกครั้ง แต่อัตราว่างงานระดับสูงในกลุ่มประชากรหนุ่มสาวและความเชื่อมั่นด้านการเติบโตทางรายได้ที่อยู่ในระดับต่ำได้บั่นทอนอำนาจการใช้จ่ายของผู้บริโภค
- เจพีมอร์แกนปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนสำหรับปี 2566 หลังจากเศรษฐกิจจีนเติบโตในอัตราที่อ่อนแอลงในไตรมาสที่ 2/2566 โดยเศรษฐกิจจีนชะลอตัวอย่างรวดเร็ว หลังเพิ่งฟื้นตัวจากโรคโควิด-19 ได้ไม่นาน นอกจากนี้กลุ่มนักเศรษฐศาสตร์นำโดยนายจู ไห่ปิน คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตที่ 5% ในปีนี้ ซึ่งน้อยกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 5.5%
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ยอดขายอสังหาริมทรัพย์เมื่อพิจารณาตามพื้นที่ชั้นในจีนร่วงลงในอัตราที่เร็วขึ้นในเดือนม.ค.-มิ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยลดลง 5.3% เทียบกับ 0.9% ในช่วง 5 เดือนแรก ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ต้องดิ้นรนเพื่อพลิกฟื้นธุรกิจ
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566 ขยายตัว 6.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแม้ว่าขยายตัวรวดเร็วขึ้นจากระดับ 4.5% ในไตรมาส 1 แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 7.3%
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ หลังจากมีรายงานว่าเศรษฐกิจจีนขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2/2566 ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันในประเทศจีนซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโลก
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.27 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 74.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.37 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 78.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
- นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ปฏิบัติภารกิจเดินทางเยือนตะวันออกกลางเป็นเวลา 4 วัน โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ เพื่อส่งเสริม “การทูตด้านทรัพยากร” กับประเทศยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับจีนในภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีความสนใจร่วมกัน ซึ่งรวมถึงการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับบรรดาประเทศยากจน พร้อมกับกล่าวว่าสหรัฐและจีนจำเป็นต้องปฏิรูปธนาคารเพื่อการพัฒนาพหุภาคี ก่อนที่จะมีการพิจารณาเพิ่มทุน
- นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ยังคงกังวลว่าเกาหลีเหนือจะเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปอีกครั้ง
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.60 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.40-34.70 บาทต่อดอลลาร์
- ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอรัฐบาลชุดใหม่พิจารณาแผนปฏิรูปการจัดเก็บรายได้รัฐบาล ทั้งในส่วนของการเพิ่มรายได้ และลดรายจ่าย เพื่อให้เป็นไปตามกรอบวินัยการคลัง และดำเนินการตามแผนการคลังระยะปานกลาง (ปี 2567-2570) ที่ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 ต้องลดสัดส่วนการขาดดุลงบประมาณ ไม่ให้เกิน 3% ต่อจีดีพี ขณะที่ปัจจุบันการจัดเก็บรายได้ มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 14% ของจีดีพี ควรขยับขึ้นไปเป็นระดับ 16-17% ต่อจีดีพี
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง