ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ หลังจากติดลบ 3 วันติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 8.43 เหรียญ หรือ 0.44% อยู่ที่ระดับ 1,942.66 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7.30 เหรียญ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,976.10 เหรียญ แต่ลดลง 1.2% ในรอบสัปดาห์นี้
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 23.72 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 6.70 เหรียญ หรือ 0.7% ปิดที่ 928.50 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 906.0 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 6.93 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 11.64 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.44 จุด หรือ -0.43% มาอยู่ที่ระดับ 102.01 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.14 % มาอยู่ที่ระดับ 4.046% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.1 % มาอยู่ที่ระดับ 4.787% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.74%
- นายโทมัส บาร์กิน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงสูงเกินไป แม้ข้อมูลล่าสุดที่พบว่า แรงกดดันด้านราคาลดลงอย่างเห็นได้ชัดนั้น เป็นสิ่งที่น่ายินดีก็ตาม อย่างไรก็ดี เขากล่าวว่า "ข้อมูลเงินเฟ้อในเดือนที่แล้วเป็นข้อมูลที่ดีแน่นอน และหวังว่านั่นเป็นสัญญาณ" แต่เขาไม่ได้กล่าวถึงแนวโน้มสำหรับนโยบายของเฟดนอกจากระบุว่า "อัตราเงินเฟ้อยังสูงเกินไป" ซึ่งสอดรับกับเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ที่ระมัดระวังต่อการประกาศเร็วเกินไปว่า "งานเสร็จแล้ว" ในภารกิจการทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับลงมาสู่เป้าหมาย 2%
- ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในยูโรโซนอาจแตะระดับสูงสุดแล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวช้าลงของราคาอื่นๆด้วย ทั้งนี้จากข้อมูลอาจจะตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า อีซีบีจะยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 9 ครั้งติดต่อกันในการประชุมในเดือนก.ย.
- บาร์เคลย์ส และยูเอสบีร่วมกับบีเอ็นพี พาริบาส์ปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยปลายทางของธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) โดยคาดว่า อัตราดอกเบี้ยของอังกฤษจะแตะระดับสูงสุดที่ 5.50% หลังการขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนก.ย.
- ในการประชุมวันที่ 27-28 ก.ค.ที่ผ่านมา บีโอเจตัดสินใจคงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ -0.1% ตามเดิม และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ประเภทอายุ 10 ปีไว้ที่ระดับราว 0% ตามเดิม โดยบีโอเจยังคงเปิดโอกาสให้อัตราผลตอบแทน JGB อายุ 10 ปีเคลื่อนไหวได้ในระดับ -0.5% จนถึง 0.5% ตามเดิม แต่บีโอเจระบุในการประชุมครั้งนี้ว่า กรอบดังกล่าวจะถือเป็น "ระดับอ้างอิง" แทนที่จะถือเป็น "กรอบจำกัดที่เข้มงวด" นอกจากนี้ บีโอเจยังประกาศอีกด้วยว่า บีโอเจจะเสนอซื้อ JGB อายุ 10 ปีที่อัตราผลตอบแทน 1.0% แทนที่จะเป็นระดับ 0.5% เหมือนแต่ก่อน และสิ่งนี้ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ในตอนนี้บีโอเจจะเปิดโอกาสให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นสู่ระดับไม่เกิน 1.0%
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ หลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยตลาดปรับตัวขึ้นในช่วงแรกหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานต่ำกว่าคาด แต่ตลาดถูกถ่วงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน อาทิ หุ้นแอปเปิ้ลร่วงลงกว่า 4% หลังรายงานยอดขายรายไตรมาสลดลง
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,065.62 จุด ลดลง 150.27 จุด หรือ -0.43%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,478.03 จุด ลดลง 23.86 จุด หรือ -0.53%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,909.24 จุด ลดลง 50.48 จุด หรือ -0.36%
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 187,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6% ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.2% และเมื่อเทียบรายเดือน ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.4% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%
- กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนออกมาตรการ 26 ข้อ โดยบางส่วนมีจุดมุ่งหมายเพื่อผ่อนคลายกฎระเบียบด้านการเดินทางเยือนจีน ซึ่งรวมถึงการอนุญาตให้นักเดินทางยกระดับวีซ่าประเภทการเดินทางเข้าออกเพียงครั้งเดียวเป็นวีซ่าประเภทที่สามารถเข้าออกจีนได้หลายครั้ง ซึ่งมีอายุการใช้งานนาน 3 ปี
- จีนทำข้อตกลงควบรวมกิจการในสหรัฐลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ เนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐและจีนบั่นทอนกิจกรรมการเงินข้ามพรมแดน ทั้งนี้ การลงทุนด้านการควบรวมกิจการในสหรัฐของจีนรวมทั้งสิ้นอยู่ที่เพียง 221 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับชะลอตัวที่สุดนับตั้งแต่ปี 2549
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) วางแผนที่จะเพิ่มการสนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับภาคเอกชน หลังจากประชุมกับกลุ่มผู้บริหารจากอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนที่หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบจีนต้องเพิ่มความเชื่อมั่นตลาด
- เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัว 3.1% ในไตรมาส 2/2566 (เม.ย. – มิ.ย.) เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งจะเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกที่มีความคล่องตัว แม้อุปสงค์ทั่วโลกจะชะลอตัวก็ตาม ขณะที่ เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัว 2.7% ในไตรมาส 1/2566 เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัว 0.8% ในไตรมาส 2/2566
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ แตะระดับสูงสุดของปีนี้ และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน โดยขานรับผลการประชุมของคณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสในวันศุกร์ ซึ่งจะลดการผลิตน้ำมันไปจนถึงสิ้นปีหน้า
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.27 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 82.82 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 2.8% ในรอบสัปดาห์นี้
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 86.24 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 2.2% ในรอบสัปดาห์นี้
- JMMC มีมติคงนโยบายการผลิตของโอเปกพลัสตามที่มีการบรรลุข้อตกลงในเดือนมิ.ย. โดยมติในที่ประชุม JMMC ดังกล่าว จะส่งผลให้โอเปกพลัสปรับลดกำลังการผลิตรวม 3.66 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นปี 2567
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) รายงานว่า เกาหลีเหนือวิจารณ์แพ็กเกจจัดหาอาวุธให้กับไต้หวันของสหรัฐ โดยกล่าวหาสหรัฐทวีความตึงเครียดในภูมิภาคและผลักดันให้เป็น “ชนวนสงครามอีกจุดหนึ่ง”
- สหรัฐจะยังคงเดินหน้าดำเนินการทุกวิถีทางที่จำเป็นเพื่อรับประกันว่า รัสเซียจะสามารถส่งออกอาหารได้อย่างเสรี หากรัสเซียรื้อฟื้นข้อตกลงที่อนุญาตให้มีการส่งออกธัญพืชของยูเครนผ่านทางทะเลดำได้อย่างปลอดภัย
- กระทรวงพาณิชย์จีนระบุในแถลงการณ์ว่า จะยกเลิกภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด และภาษีตอบโต้การอุดหนุนที่มีต่อข้าวบาร์เลย์ของออสเตรเลีย โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดของการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างจีนและออสเตรเลีย
- กระทรวงการคลังรัสเซียวางแผนจะซื้อสกุลเงินต่างประเทศและทองคำรวมกันมูลค่า 4.05 หมื่นล้านรูเบิล หรือประมาณ 433 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในระหว่างวันที่ 7 ส.ค. – 6 ก.ย.นี้ ภายใต้กลไกด้านงบประมาณซึ่งกำหนดขึ้นเพื่อปกป้องเศรษฐกิจไม่ให้ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.67 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 34.79 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.25-35.00 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.50-34.80 บาทต่อดอลลาร์
- ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนการพิจารณาคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ขอให้พิจารณากรณีรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบกับการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และกำหนดวันนัดพิจารณาคำร้องในวันที่ 16 ส.ค. จากเดิมวันที่ 3 ส.ค.นั้น หากศาลมีคำสั่งว่ากรณีดังกล่าวไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ หรือเป็นไปแนวทางที่เห็นว่ารัฐสภาได้ดำเนินการโดยชอบแล้ว เชื่อว่าหลังจากนั้น รัฐสภาคงจะดำเนินการให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุดต่อไป ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นวันที่ 17-18 ส.ค. ดังนั้นอาจจะได้ ครม.ชุดใหม่ ช่วงปลายเดือนส.ค.- กลางเดือนก.ย. ก่อนจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง