ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -6.07 เหรียญ หรือ -0.31% อยู่ที่ระดับ 1,936.59 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.10 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ 1,970.00 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 48.40 เซนต์ หรือ 2.04% ปิดที่ 23.232 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.60 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ 926.90 ดอลลาร์/ออนซ์
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.31 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 903.69 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 9.24 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 13.95 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.06 จุด หรือ 0.06% มาอยู่ที่ระดับ 102.07 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 4.097% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.77% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.67%
- นางมิเชล โบว์แมน หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดว่าเฟดจำเป็นต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ของเฟด และมองว่าเฟดจะใช้ข้อมูลเศรษฐกิจเป็นปัจจัยประกอบการพิจารณา โดยหากข้อมูลส่งสัญญาณว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง เฟดก็จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมในวันข้างหน้า
- นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างเป็นระเบียบ และตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น 187,000 ตำแหน่งในครั้งนี้ก็บ่งชี้ถึงการชะลอตัวลงในความเร็วดังกล่าว"
- นายออสตัน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าว่า ตัวเลขการจ้างงานเดือนก.ค.ถือเป็นหนึ่งในตัวเลขเศรษฐกิจระยะนี้ที่แสดงให้เห็นว่า อุปสงค์และอุปทานแรงงานปรับเข้าสู่ภาวะสมดุลอย่างดียิ่งขึ้น และเขากล่าวเสริมว่า "เราได้ทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงมามากแล้วโดยที่อัตราการว่างงานไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น" และสิ่งนี้ทำให้มีความหวังว่า เฟดจะสามารถทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงได้โดยไม่ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
- เทรดเดอร์คาดการณ์ว่า มีโอกาสราว 86.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย. และมีโอกาสราว 13.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.50-5.75% ในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย.
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปความคิดเห็น (Summary of Opinions) โดยระบุว่า ในการประชุมนโยบายการเงินเดือนก.ค.นั้น กรรมการได้หารือกันเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสมาชิกรายหนึ่งของ BOJ กล่าวว่า ค่าจ้างและเงินเฟ้อที่เกิดจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค อาจปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องและสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี รายงานดังกล่าวบ่งชี้ว่า ในขณะที่สมาชิกของ BOJ เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษนั้น แต่กรรมการก็มีความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า BOJ กำลังพิจารณาถึงการระงับการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินแบบค่อยเป็นค่อยไป
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดในวันจันทร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,473.13 จุด เพิ่มขึ้น 407.51 จุด หรือ +1.16%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,518.44 จุด เพิ่มขึ้น 40.41 จุด หรือ +0.90%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,994.40 จุด เพิ่มขึ้น 85.16 จุด หรือ +0.61%
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานของสหรัฐฯ จะปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 3.0% ในเดือนมิ.ย. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 4.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 4.8% ในเดือนมิ.ย.
- ธนาคารโลกระบุในรายงานความคืบหน้าด้านความมั่นคงทางอาหารบนเว็บไซต์ว่า เงินเฟ้อจากราคาอาหารภายในประเทศยังคงอยู่ในระดับสูงทั่วโลก โดยข้อมูลล่าสุดระหว่างเดือนก.พ. – พ.ค. 2566 แสดงให้เห็นว่ามีเงินเฟ้อสูงในกลุ่มประเทศรายได้ต่ำและปานกลางส่วนใหญ่ โดยเงินเฟ้อสูงกว่า 5% ใน 63.2% ของกลุ่มประเทศรายได้ต่ำ, 79.5% ของกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางระดับล่าง และ 67% ของกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางระดับบน โดยหลายประเทศมีตัวเลขเงินเฟ้อในอัตราเลขหลักสิบ
- แบบจำลอง GDPNow ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตาประเมินว่า จีดีพีสหรัฐฯ อาจขยายตัว 3.9% ในไตรมาสนี้ แม้เฟดขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวนับตั้งแต่เดือนมี.ค.65
- นักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกน เชสได้ปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ โดยไม่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ในขณะนี้ของบรรดาผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ จำนวนมาก และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่ง โดยได้ปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีแท้จริงในไตรมาสนี้ขึ้นเป็น 2.5% จาก 0.5%
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดส่งออกของจีนจะหดตัวลงอย่างต่อเนื่องในเดือนก.ค. เนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตในภาคอุตสาหกรรมของจีนยังคงเผชิญกับความยากลำบากจากภาวะอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยสูง โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ยอดส่งออกเดือนก.ค.ของจีนจะลดลง 12.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่ลดลง 12.4% ในเดือนมิ.ย.
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมันในจีนและสหรัฐซึ่งเป็นสองประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลก
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 88 เซนต์ หรือ 1.06% ปิดที่ 81.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 90 เซนต์ หรือ 1.04% ปิดที่ 85.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
- นักวิเคราะห์จากบริษัท Again Capital กล่าวว่า นักลงทุนขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ติดต่อกันเป็นเวลายาวนานถึง 6 สัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากฤดูการขับขี่ยานยนต์ในหน้าร้อนของสหรัฐที่กำลังจะสิ้นสุดลงในช่วงต้นเดือนก.ย. รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ชะลอตัวลงในประเทศจีน
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงมอสโกวิพากษ์วิจารณ์ทางการรัสเซียที่ปฏิบัติอย่างรุนแรง ในกรณีการปฏิเสธไม่ให้พลเมืองชาวจีนหลายคนเข้าประเทศ โดยมองว่าการบังคับใช้กฎหมายที่รุนแรงและมากเกินความจำเป็นของรัสเซียในเหตุการณ์นี้ นับเป็นการละเมิดสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของชาวจีนอย่างร้ายแรง
- ออสเตรเลียเรียกร้องให้จีนยกเลิกมาตรการจำกัดการค้าทั้งหมด หลังจีนเพิ่งยกเลิกภาษีนำเข้าข้าวบาร์เลย์จากออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของทั้งสองประเทศเริ่มกระเตื้องขึ้น
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.85 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.83 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.70-34.95 บาทต่อดอลลาร์
- กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.30-35.00 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 34.74 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 34.18-34.79 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์
- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรือเงินเฟ้อทั่วไป ในเดือน ก.ค.66 เพิ่มขึ้น 0.38% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 0.64-0.66% ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง เนื่องจากการชะลอตัวของสินค้าในหมวดอาหาร เช่น เนื้อหมู และเครื่องประกอบอาหารที่มีราคาลดลง และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในเดือนก.ค.ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ประกอบกับฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เฉลี่ย 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.66) เพิ่มขึ้น 2.19% ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) หรือเงินเฟ้อพื้นฐาน ในเดือนก.ค.66 เพิ่มขึ้น 0.86% ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เฉลี่ย 7 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 1.73%
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วางแผนสนับสนุนตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกล (Long haul) โดยเฉพาะจากยุโรป สหรัฐฯ และตะวันออกกลางให้เข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น กระตุ้นรายได้ตลาดการท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้ถึงเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้มูลค่ารวม 1.62 ล้านล้านบาทในปีนี้
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง