ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -2.53 เหรียญ หรือ -0.13% อยู่ที่ระดับ 1,912.42 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.70 เหรียญ หรือ 0.09% ปิดที่ 1,948.90 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.40% ปิดที่ 22.821 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 22.10 เหรียญ หรือ 2.48% ปิดที่ 914.80 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 903.38 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 9.55 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 14.26 ตัน
- ในช่วงแรกนั้น สัญญาทองคำพุ่งขึ้นใกล้แตะระดับ 1,960 ดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาต่ำกว่าคาด แต่สัญญาทองคำปรับตัวลงในเวลาต่อมา หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 4% ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.14 จุด หรือ 0.14% มาอยู่ที่ระดับ 102.62 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.1 % มาอยู่ที่ระดับ 4.111% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.848% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.74%
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีจะดิ่งลงอย่างรุนแรง โดยธนาคารเจ.พี. มอร์แกนได้ปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีสำหรับช่วงสิ้นปีนี้สู่ 3.85% จากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 3.50%
- นางแมรี ดาลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกได้ออกมาแสดงความเห็นหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ว่า แม้ตัวเลขเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนไหวในทิศทางที่เหมาะสม แต่เธอมองว่าข้อมูลเงินเฟ้อจำเป็นต้องมีความคืบหน้ามากกว่านี้ ก่อนที่เธอจะรู้สึกมั่นใจว่าเฟดได้ดำเนินนโยบายคุมเข้มมากเพียงพอแล้ว
- นักลงทุนต่างประเทศขายพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่นยังคงปรับตัวขึ้น หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ปรับเปลี่ยนนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุกว่า 1 ปีคิดเป็นมูลค่า 1.97 ล้านล้านเยนในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ส.ค. ซึ่งมากที่สุดตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค. ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นได้รับคำสั่งซื้อจากต่างประเทศราว 7.686 แสนล้านเยน
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี หลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในระหว่างวัน ขานรับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด โดยนักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวของสหรัฐ
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,176.15 จุด เพิ่มขึ้น 52.79 จุด หรือ +0.15%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,468.83 จุด เพิ่มขึ้น 1.12 จุด หรือ +0.03%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,737.99 จุด เพิ่มขึ้น 15.97 จุด หรือ +0.12%
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.3% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 4.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
- ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแออย่างต่อเนื่อง รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวลง 0.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2564 ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 4.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 4.1% อย่างไรก็ดี ข้อมูลดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเงินฝืด และส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลว่าความต้องการใช้น้ำมันในจีนชะลอตัวลงด้วย
- จีนอนุญาตให้กรุ๊ปทัวร์จัดทริปเดินทางเยือนกว่า 70 ประเทศและดินแดน หลังสั่งห้ามเป็นเวลาหลายปี เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และตอบโต้ทางการเมือง ส่งผลให้หุ้นกลุ่มการเดินทางและสายการบินในเอเชียพุ่งทะยานขึ้น
- ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนเผชิญกับความระส่ำระสายอีกครั้ง หลังจากมีรายงานว่า บริษัทคันทรี การ์เดน (Country Garden) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชนรายใหญ่ที่สุดของจีนเมื่อพิจารณาจากยอดขายนั้น ได้ผิดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งข้อพิพาทระหว่างจีนและสหรัฐ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.58 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 82.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 86.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า จีนมีแนวโน้มความต้องการใช้เชื้อเพลิงสูงขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- นายแอนโทนี อัลบาเนซี ผู้นำออสเตรเลียเตรียมเดินทางเยือนสหรัฐเพื่อพบปะกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่คว้าชัยในการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว เพื่อร่วมหารือกันถึง สนธิสัญญาความมั่นคงออคัส (AUKUS) สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป และแร่ธาตุที่สำคัญ
- สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า คำสั่งพิเศษของนายไบเดนมีขึ้นท่ามกลางการแข่งขันเพื่อเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีโลกซึ่งทวีความดุเดือดยิ่งขึ้น โดยมาตรการดังกล่าวไม่ใช่การสั่งให้ระงับโดยทันที แต่มีเป้าหมายเพื่อจำกัดลงทุนและความเชี่ยวชาญของสหรัฐในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และไมโครอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ควอนตัม และความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) บางชนิดในจีน ฮ่องกง และมาเก๊า
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- ค่าเงินบาทวันนี้เปิดตลาด “อ่อนค่าสุด” รอบ 1 เดือน ที่ 35.15 บาทต่อดอลลาร์ จากการที่ดอลลาร์แข็งค่า ท่ามกลางตลาดไม่มั่นใจการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดและเงินบาทเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าอยู่ จากความไม่แน่นอนการเมืองไทย มองกรอบเงินบาทวันนี้ 35.00-35.25 บาทต่อดอลลาร์
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง