ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -2.37 เหรียญ หรือ -0.12% อยู่ที่ระดับ 1,914.43 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 7.20 เหรียญ หรือ 0.37% ปิดที่ 1,939.90 เหรียญ แต่สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นได้เป็นสัปดาห์แรกหลังจากลดลง 4 สัปดาห์ติดต่อกัน
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 0.40 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 24.234 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 5.20 เหรียญ หรือ 0.55% ปิดที่ 948.20 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 884.04 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 28.89 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 33.6 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.09 จุด หรือ 0.09% มาอยู่ที่ระดับ 104.19 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.247% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.07 % มาอยู่ที่ระดับ 5.093% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.85%
- นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า เฟดยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดดังกล่าวได้เพิ่มแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ซึ่งส่งผลกดดันราคาทอง
- นายเจอโรม พาวเวล กล่าวว่า “แม้ว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงจากระดับสูงสุด ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่ดี แต่ก็ยังคงอยู่สูงเกินไป โดยเราเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากมีความเหมาะสม และจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จนกว่าเรามีความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงอย่างยั่งยืนไปสู่เป้าหมายที่เรากำหนดไว้” นายพาวเวลกล่าวในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง
- นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ECB จะกำหนดและคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงต่อไปตราบเท่าที่จำเป็น เพื่อให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับเป้าหมาย
- รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจพบว่ามีนักเศรษฐศาสตร์ 67% คาดว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเข้ามาแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อสกัดกั้นการดิ่งลงของค่าเงินเยน เมื่อดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับ 150 เยน ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์อีก 25% คาดว่าระดับที่จะกระตุ้นให้มีการแทรกแซงตลาดอยู่ที่ 155 เยน
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ หลังการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน โดยนักลงทุนได้ปรับตัวรับความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อและสกัดความร้อนแรงของเศรษฐกิจ ขณะที่รับประกันว่า เฟดจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,346.90 จุด เพิ่มขึ้น 247.48 จุด หรือ +0.73%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,405.71 จุด เพิ่มขึ้น 29.40 จุด หรือ +0.67%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,590.65 จุด เพิ่มขึ้น 126.67 จุด หรือ +0.94%
- ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 69.5 ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 71.2 จากระดับ 71.6 ในเดือนก.ค. ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 3.3% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า จากระดับ 3.4% ในการสำรวจเดือนที่แล้ว และสำหรับในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 3.0% ไม่เปลี่ยนแปลงจากการสำรวจในเดือนที่แล้ว
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวลง 6.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 7 เนื่องจากการชะลอตัวของอุปสงค์และเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ตัวเลขกำไรภาคอุตสาหกรรมนั้น ได้จากการสำรวจบริษัทในภาคอุตสาหกรรมของจีนที่มีรายได้ต่อปีจากธุรกิจหลักอย่างน้อย 20 ล้านหยวน ส่วนในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนร่วงลง 15.5% สู่ระดับ 3.94 ล้านล้านหยวน หลังจากที่ดิ่งลง 16.8% ในช่วง 6 เดือนแรก
- รัฐบาลจีนเพิ่มความพยายามในการพลิกฟื้นตลาดหุ้นที่กำลังเผชิญกับความเปราะบาง โดยเรียกร้องให้สถาบันการเงินซึ่งรวมถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญ, ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ และบริษัทประกันภัย เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้น
- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนได้ตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายการจำนองบ้านเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยภายใต้ความพยายามในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
- นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์เตือนว่า ผลกระทบของวิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนอาจจะลุกลามไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย อีกทั้งจะทำให้รายได้และผลตอบแทนในภูมิภาคเอเชียลดลง โดยนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดเป้าหมายในระยะ 12 เดือนของดัชนี MSCI ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกไม่รวมญี่ปุ่น ลงเหลือ 555 จากเดิมที่ระดับ 580
- สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 2/2566 หดตัวลง 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี และทรงตัวเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส โดยเศรษฐกิจเยอรมนีได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของภาคการผลิต ส่วนในไตรมาส 4 ปี 2565 ตัวเลข GDP ของเยอรมนีหดตัวลง 0.4% และหลังจากนั้นได้หดตัวลงอีก 0.1% ในไตรมาส 1/2566
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ สู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดีเซลของสหรัฐที่พุ่งขึ้น, จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่ลดลง และการเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งในลุยเซียนา
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 78 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 79.83 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวลง 0.1% ในรอบสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 84.48 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวลง 0.4% ในรอบสัปดาห์นี้
- สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากการที่บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ส ซึ่งให้บริการด้านพลังงานระบุว่า บรรดาบริษัทพลังงานของสหรัฐปรับลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันลงในเดือนส.ค.เป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น แม้เยอรมนีเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิงในวันศุกร์ว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.10 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดสัปดาหก่อนหน้า มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.75-35.50 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.00-35.20 บาทต่อดอลลาร์
- ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนก.ค.66 ว่า มูลค่าการส่งออกของไทยยังคงหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า มีมูลค่า 22,143.2 ล้านดอลลาร์ ลดลง 6.2% จากเดือนเดียวกันปีก่อน จากตลาดคาด -2.8% ถึง -3.1% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 24,121 ล้านดอลลาร์ ลดลง 11.1% จากเดือนเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้ในเดือนก.ค.66 ไทยขาดดุลการค้า 1,977.8 ล้านดอลลาร์
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง