ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันอังคาร เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ได้เพิ่มความน่าดึงดูดให้กับทองคำ นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 17.24 เหรียญ หรือ 0.9% อยู่ที่ระดับ 1,937.44 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 18.30 เหรียญ หรือ 0.94% ปิดที่ 1,965.10 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. 2566
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 53.60 เซนต์ หรือ 2.21% ปิดที่ 24.788 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 13.90 เหรียญ หรือ 1.43% ปิดที่ 986.10 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 2.59 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 889.23 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 23.7 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 28.41 ตัน
- ทานากะ กิกิโซกุ โกเกียว (Tanaka Kikinzoku Kogyo) ซึ่งเป็นเทรดเดอร์โลหะมีค่าจากญี่ปุ่นระบุว่า ราคาทองคำค้าปลีกในญี่ปุ่นพุ่งขึ้นทะลุ 10,000 เยน (68.31 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อกรัมเป็นครั้งแรกในเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ทั้งนี้ ราคาทองคำที่ซื้อขายในสกุลเงินเยนปรับตัวขึ้นเนื่องจากเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางอุปสงค์ทองคำที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.48 จุด หรือ -0.46% มาอยู่ที่ระดับ 103.44 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.08 % มาอยู่ที่ระดับ 4.126% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.15 % มาอยู่ที่ระดับ 4.898% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.77%
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 87% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนก.ย. และให้น้ำหนัก 54% ที่เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวในการประชุมเดือนพ.ย.
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,852.67 จุด เพิ่มขึ้น 292.69 จุด หรือ +0.85%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,497.63 จุด เพิ่มขึ้น 64.32 จุด หรือ +1.45%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,943.76 จุด เพิ่มขึ้น 238.63 จุด หรือ +1.74%
- สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานลดลง 338,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 8.827 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2564 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 9.465 ล้านตำแหน่ง ทั้งนี้ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 9 ล้านตำแหน่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2564
- โกลด์แมน แซคส์ ได้บรรลุข้อตกลงขายธุรกิจบริหารการเงินส่วนบุคคล (Personal Financial Management – PFM) ให้กับครีเอทีฟ แพลนนิง (Creative Planning) ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง โดยคาดว่าการทำธุรกรรมขายธุรกิจดังกล่าวจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปีนี้ และจะสร้างรายได้พิเศษให้กับโกลด์แมน แซคส์ ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนราคาหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปิดตลาดพุ่งขึ้น 1.8% และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนบวกในวันจันทร์
- กระทรวงการคลังจีนแถลงว่า รัฐบาลจีนจะขยายระยะเวลาการใช้นโยบายสิทธิพิเศษทางภาษีสำหรับชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศจีนออกไปจนถึงสิ้นปี 2570 โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือบริษัทต่างชาติที่เผชิญกับความยากลำบากในการหาแรงงานที่มีความสามารถหลังช่วงโควิด
- คันทรี การ์เดน (Country Garden) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชนรายใหญ่ที่สุดของจีน พยายามขอผ่อนผันชำระหนี้หุ้นกู้เอกชนภายในประเทศมูลค่า 3.9 พันล้านหยวน (535.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) 40 วัน ก่อนที่จะครบกำหนดชำระหนี้ในวันเสาร์ที่ 2 ก.ย.
- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนจะเพิ่มมาตรการที่สามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจ(counter-cyclical), สนับสนุนนโยบายสำรอง และประสานนโยบายให้ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับภาวะตึงเครียดรัฐบาล
- นักเศรษฐศาสตร์ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีน และคาดว่าธนาคารกลางจีนจะเร่งผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนยังไม่มีสัญญาณของการฟื้นตัว ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปี 2566 ลงสู่ระดับ 5.1% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 5.2% ส่งผลให้ตัวเลขคาดการณ์ GDP ในขณะนี้เกือบจะเท่ากับเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ 5% ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่า รัฐบาลจีนมีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจในประเทศมากเกินไป
- ราคาบ้านในฮ่องกงปรับตัวลง 1.12% ในเดือนก.ค.จากเดือนมิ.ย. โดยนับเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้ซื้อบ้านลดลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น และแนวโน้มเศรษฐกิจซบเซา
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 81 ดอลลาร์ในวันอังคาร โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานพลังงานของสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคน “อิดาเลีย” (Idalia) ซึ่งจะพัดถล่มรัฐฟลอริดาในสัปดาห์นี้
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 81.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 85.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 11.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ส.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- โฆษกกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า นางคริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการจัดการ IMF จะเดินทางเยือนประเทศจีนตั้งแต่วันพุธที่ 30 ส.ค.นี้เพื่อพบปะกับกลุ่มผู้นำจีน ก่อนเดินทางไปยังประเทศอินโดนีเซียและอินเดีย เพื่อร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนและ G20
- กระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยว่า นายเจมส์ เคลฟเวอร์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษจะเดินทางเยือนจีนในวันพุธที่ 30 ส.ค.นี้ เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างจีนและอังกฤษที่ดิ่งแตะจุดต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษ
- เกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีใต้เตรียมช่วยเหลือด้านการเงินสำหรับยูเครนในปีหน้าอีก 5.20 แสนล้านวอน (394 ล้านดอลลาร์) ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าปีนี้ถึง 8 เท่า
- หน่วยงานความร่วมมือความมั่นคงด้านกลาโหมของสหรัฐ (DSCA) ได้แจ้งต่อสภาคองเกรสถึงแผนการขายขีปนาวุธ ASM รุ่น JASSM-ER ให้แก่ญี่ปุ่น โดยระบุว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้ขอซื้อขีปนาวุธดังกล่าวจำนวน 50 ลูก และขายขีปนาวุธจะช่วยให้สหรัฐยกระดับความมั่นคงให้กับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรและเป็นกำลังสำคัญในการสร้างเสถียรภาพและกระบวนการทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.03 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.13 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.90-35.15 บาทต่อดอลลาร์
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง
.jpg)