ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 4.99 เหรียญ หรือ 0.26% อยู่ที่ระดับ 1,942.43 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7.90 ดอลลาร์ หรือ 0.40% ปิดที่ 1,973.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. 2566
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 3.50 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 25.104 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 2.80 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 983.30 ดอลลาร์/ออนซ์
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 0.87 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 890.1 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 22.83 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 27.54 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.34 จุด หรือ -0.33% มาอยู่ที่ระดับ 103.1 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.89% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.12% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ 0.77%
- นายนาโอกิ ทามูระ หนึ่งในกรรมการของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า BOJ อาจมีข้อมูลมากเพียงพอที่จะตัดสินได้ว่าเงินเฟ้อของญี่ปุ่นจะอยู่ที่ระดับเป้าหมาย 2% ของ BOJ อย่างยั่งยืนหรือไม่ ซึ่งเป็นระดับที่จะทำให้ BOJ สามารถถอนนโยบายผ่อนคลายการเงินเป็นพิเศษ (ultra-loose monetary policy) ได้
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพุธ หลังจากข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,890.24 จุด เพิ่มขึ้น 37.57 จุด หรือ +0.11%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,514.87 จุด เพิ่มขึ้น 17.24 จุด หรือ +0.38%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,019.31 จุด เพิ่มขึ้น 75.55 จุด หรือ +0.54%
- นักวิเคราะห์จากบริษัท U.S. Bank Wealth Management กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงานที่อ่อนแรงลงช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟด นอกจากนี้ มุมมองบวกที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิ้ง ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อหุ้นเติบโต (Growth Stocks) และสินทรัพย์เสี่ยงประเภทอื่นๆ
- นักวิเคราะห์จากบริษัท Carson Group กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดได้กลับสู่สภาวะการลงทุนแบบ “ข่าวร้ายคือข่าวดี” ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงินของเฟด โดยตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซาจะสกัดช่วงขาขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น
- ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 177,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง และต่ำกว่าในเดือนก.ค.ซึ่งตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 371,000 ตำแหน่ง
- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
- ธนาคารรายใหญ่หลายแห่งของจีนกำลังเตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองและดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งเป็นมาตรการล่าสุดภายใต้คำสั่งของรัฐบาลจีนและมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ชะลอตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือนในเดือนก.ค. เนื่องจากการปรับตัวลงของราคาเชื้อเพลิงและการเดินทางในช่วงวันหยุด ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานชะลอตัวลงเช่นกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียอาจจะไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
- เอสแอนด์พีเปิดเผยรายงานวิเคราะห์พบว่า ธนาคารขนาดใหญ่ของยุโรปส่วนใหญ่รายงานว่า ปริมาณเงินฝากลดลงในไตรมาส 2 ปีนี้ ขณะที่ผู้บริโภคเปรียบเทียบเพื่อหาข้อตกลงการฝากเงินที่ดีกว่า โดยธนาคารจำนวน 2 ใน 3 ที่อยู่ในกลุ่มตัวอย่างจำนวน 24 แห่งมีเงินฝากลดลงในไตรมาสสองสิ้นสุดสิ้นเดือนมิ.ย. โดยสัดส่วนการลดลงมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์อยู่ที่ธนาคารเอสอีบีของสวิตเซอร์แลนด์ และแนทเวสต์ของอังกฤษ ซึ่งลดลง 13% และ 12% ตามลำดับ
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนจับตาผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน “อิดาเลีย” (Idalia) ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่รัฐฟลอริดา
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ระดับ 81.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 85.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐกล่าวว่า จีนกำลังกดดันให้บริษัทสหรัฐถอนตัวออกจากประเทศด้วยการทำให้การลงทุนในจีนกลายเป็นเรื่องที่อันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ
- ทำเนียบเครมลินกำลังเตรียมการให้ปธน.ปูตินเดินทางไปจีนเพื่อเข้าร่วมประชุมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางในเดือนต.ค. เนื่องจากปธน.ปูตินได้ตอบรับคำเชิญจากปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำจีนที่จะเข้าร่วมประชุมดังกล่าว นับเป็นการออกเดินทางนอกรัสเซียครั้งแรก นับตั้งแต่ที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ได้ออกหมายจับเขาในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า "ค่าเงินบาทวันนี้" เปิดเช้านี้ ที่ระดับ35.03 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.10 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.85-35.15 บาทต่อดอลลาร์
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุภาวะเศรษฐกิจการคลังเดือนกรกฎาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน และภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ต่อเนื่องทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศและผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ขณะที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี การส่งออกยังคงชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง