MTS Help Center

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่เหลืออีก 3 ครั้งในปีนี้ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรชะลอตัวลงและอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 0.05 เหรียญ หรือ 0.% อยู่ที่ระดับ 1,939.9 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.20 เหรียญ หรือ 0.06% ปิดที่ 1,967.10 เหรียญ และในรอบสัปดาห์นี้ราคาเพิ่มขึ้น 1.4% แต่ราคาลดลงมากกว่า 2% ในเดือนส.ค.
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 25.00 เซนต์ หรือ 1.01% ปิดที่ 24.562 เหรียญ
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 5.70 เหรียญ หรือ 0.58% ปิดที่ 968.70 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 0.87 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 890.97 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ซื้อสุทธิ 0.87 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 26.67 ตัน

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง 

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.65 จุด หรือ 0.63% มาอยู่ที่ระดับ 104.26 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.09 % มาอยู่ที่ระดับ 4.198% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.876% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.68%   

• FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 93.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 7.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75%        

• ธนาคารรายใหญ่ที่สุด 5 แห่งของจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในวันนี้ ซึ่งเป็นความร่วมมือกันในการพยายามลดแรงกดดันที่มีต่ออัตรากำไรในภาคธนาคาร ในขณะที่ธนาคารต่าง ๆ เตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ฟื้นตัว

• ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศในวันนี้ว่า PBOC จะปรับอัตราส่วนการกันสำรองสกุลเงินต่างประเทศของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 2% สู่ระดับ 4% จากเดิมที่ระดับ 6% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.นี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะชะลอการอ่อนค่าของเงินหยวน 

• นายฟรองซัวส์ วิลเลอรอย เดอ กัลโย สมาชิกสภาบริหารธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และผู้ว่าการธนาคารกลางฝรั่งเศส กล่าวว่า อีซีบีมีทางเลือกต่างๆในการประชุมอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป แม้อัตราดอกเบี้ยอยู่ใกล้จุดสูงสุด และมีสัญญาณบ่งชี้ว่า เงินเฟ้อพื้นฐานแตะระดับสูงสุดแล้วก็ตาม     

                                                                                                                                                                                                                  

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ หลังจากการพุ่งขึ้นของอัตราว่างงานได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,837.71 จุด เพิ่มขึ้น 115.80 จุด หรือ +0.33%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,515.77 จุด เพิ่มขึ้น 8.11 จุด หรือ +0.18%
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,031.81 จุด ลดลง 3.15 จุด หรือ -0.02%

• กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 187,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 170,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5%

• ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.4% และเมื่อเทียบรายเดือน ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%

• อัตราการว่างงานของสหรัฐฯปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5% ขณะที่การขยายตัวของค่าจ้างชะลอตัวลง

• กระทรวงการค้า, อุตสาหกรรมและพลังงานของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนส.ค.ของเกาหลีใต้ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการชะลอตัวของอุปสงค์เซมิคอนดักเตอร์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม อย่างไรก็ดี เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้าติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

• มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส คาดการณ์ว่า การเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกจะอ่อนแอลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ของเอเชีย โดยผลกระทบดังกล่าวจะเกิดขึ้นผ่านทางการค้าและการเข้าถึงแหล่งระดมเงินทุนในภูมิภาค โดยมี 3 ปัจจัยที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง ซึ่งได้แก่อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้นเป็นเวลานาน, การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และภาวะตึงตัวในระบบการเงิน

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ แตะระดับสูงสุดของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มอุปทานน้ำมันที่ตึงตัว ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของจีนได้ช่วยหนุนตลาดน้ำมันด้วยก่อนที่ตลาดจะปิดทำการต่อเนื่อง 3 วันในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เนื่องจากวันนี้เป็นวันแรงงานซึ่งเป็นวันหยุดประจำชาติของสหรัฐ

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 1.92 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 85.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. 2565 ขณะที่ปรับตัวขึ้น 7.2% ในรอบสัปดาห์นี้ และเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนส.ค.
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 1.72 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 88.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. 2565 โดยปรับตัวขึ้น 5.5% ในรอบสัปดาห์นี้ และปรับตัวขึ้น 1.5% ในเดือนส.ค.

• นายแมทท์ เชอร์วูด จากอิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิตกล่าวว่า "เราคาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันจะประสบภาวะขาดแคลนน้ำมันจำนวนมากในไตรมาส 3 และ 4 ของปี 2023" และเขากล่าวเสริมว่า หลังจากรัฐบาลหลายประเทศนำน้ำมันในคลังสำรองปิโตรเลียมทางยุทธศาสตร์ออกมาใช้ รัฐบาลประเทศเหล่านี้ก็จะมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มสต็อกน้ำมันในคลัง ซึ่งจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันเพิ่มสูงขึ้น

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ

• นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน มีแผนที่จะไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 ณ กรุงนิวเดลี ของอินเดีย ในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและอินเดียแย่ลงกว่าเดิม

• นายเซี่ย เฟิง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐเปิดเผยว่า ภาษีศุลกากรและมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐ เป็นตัวการที่ทำให้การค้าระหว่างจีนและสหรัฐลดลง

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.12 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดสัปดาหก่อนหน้า ที่ระดับ  35.00 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.75-35.50 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.00-35.20 บาทต่อดอลลาร์

• ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รอบต่อไป (27 ก.ย.) มีโอกาสสูงที่จะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ลงจากระดับ 3.6% ที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนพ.ค. โดยมีสาเหตุหลักมาจากแนวโน้มการส่งออกฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาด

• สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) กระทรวงการคลัง เผยหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนก.ค. อยู่ที่ 10.972 ล้านล้านบาท คิดเป็น 61.69% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง