• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 28 กันยายน 2566

    28 กันยายน 2566 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 เดือนในวันพุธ เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด นอกจากนี้ การที่สัญญาทองคำดิ่งหลุดจากแนวรับที่ระดับ 1,900 ดอลลาร์ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแรงขายทางเทคนิค


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -25.84 เหรียญ หรือ -1.36% อยู่ที่ระดับ 1,874.84 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 28.90 ดอลลาร์ หรือ 1.51% ปิดที่ 1,890.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. 2566
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 47.20 เซนต์ หรือ 2.03% ปิดที่ 22.724 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 17.90 ดอลลาร์ หรือ 1.96% ปิดที่ 896.30 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 0.87 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 873.64 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ขายสุทธิ 16.46 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 44.0 ตัน


  • นักวิเคราะห์จากบริษัท Kinesis Money กล่าวว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ราคาทองได้รับปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยง แต่การที่ดอลลาร์แข็งค่าอย่างต่อเนื่องและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้น ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ดี เขาคาดว่าราคาทองคำจะกลับมาฟื้นตัวในไม่ช้านี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในจีนและการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน จะกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.46 จุด หรือ 0.43% มาอยู่ที่ระดับ 106.68 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.612% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 5.141% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.53% 


  • นายนีล แคชคารี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนิอาโปลิสกล่าวว่า ภาวะชะลอตัวลงอย่างนุ่มนวลสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นมากกว่าที่จะไม่เกิด แต่ก็ยังมีโอกาส 40% ที่เฟดจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย "อย่างมีความหมาย" เพื่อจัดการกับเงินเฟ้อ


  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโคเมริกากล่าวว่า "เฟดจะมองว่าการที่ราคาบ้านเริ่มพุ่งขึ้นอีกครั้งถือเป็นเหตุผลสนับสนุนให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงเป็นเวลานานต่อไป


  • คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ยืนยันว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมแบบทาวน์ฮอลล์ ร่วมกับบรรดานักวิชาการในวันนี้ เวลา 16.00 น.ตามเวลาสหรัฐ


  • ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยว่า การให้สินเชื่อทั่วยูโรโซนชะลอตัวลงสู่ระดับเกือบชะงักงันในเดือนส.ค. ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว และยูโรโซนหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้


  • สมาชิกคณะกรรมการบริหาร ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในยูโรโซนชะลอตัวมากกว่าที่อีซีบีคาดไว้ แต่เป้าหมายคือการควบคุมเงินเฟ้อ ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยอาจจะยังปรับขึ้นอีก


  • ธนาคารกลางจีนเปิดเผยหลังการประชุมประจำไตรมาสของคณะกรรมการนโยบายการเงินว่า จะป้องกันไม่ให้หยวนข้ามความเสี่ยง และจะทำให้หยวนมีเสถียรภาพที่ระดับที่สมเหตุสมผลและมีสมดุล


  • กรรมการคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางจีนกล่าวว่า คาดว่าจีนจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวมากกว่า 5% เล็กน้อยในปีนี้ และจีนมีช่องว่างนโยบายมากมายที่จะสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ


  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27-28 ก.ค. โดยระบุว่า กรรมการ BOJ เห็นพ้องถึงความจำเป็นในการคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ (Ultra-loose Monetary Policy) ในการประชุมวันดังกล่าว แต่กรรมการมีความเห็นที่ขัดแย้งกันในประเด็นที่ว่า BOJ ควรจะยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในเวลาที่รวดเร็วมากเพียงใด


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยตลาดถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 15 ปี รวมทั้งความกังวลว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันอาจทำให้เกิดเงินเฟ้อและส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,550.27 จุด ลดลง 68.61 จุด หรือ -0.20%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,274.51 จุด เพิ่มขึ้น 0.98 จุด หรือ +0.02% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,092.85 จุด เพิ่มขึ้น 29.24 จุด หรือ +0.22%


  • สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 1.3% ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง ทั้งนี้ จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 1% ในสัปดาห์ที่แล้ว และดิ่งลง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง 2% ในสัปดาห์ที่แล้ว และดิ่งลง 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว


  • เอสแอนด์พี โกลบอลระบุว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และเศรษฐกิจของยุโรปที่เกือบจะชะงักงันจะกดดันอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท, บริษัทอสังหาริมทรัพย์ และธนาคารของยุโรป และจะทำให้อัตราการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น


  • คณะกรรมการในรัฐบาลญี่ปุ่นจะหารือในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้าว่าจะลดหย่อนภาษีให้แก่บริษัทที่ลงทุนในธุรกิจที่ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์หรือไม่ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เหมือนกับเจตนารมย์ในกฎหมายลดเงินเฟ้อของสหรัฐ


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันพุธ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจะยิ่งทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกเผชิญภาวะตึงตัว


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 3.29 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 93.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. 2566
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 2.59 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 96.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2565


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งอนุมัติงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลสามารถเปิดดำเนินการได้ต่อไป โดยการเรียกร้องดังกล่าวมีขึ้นหลังจากมีคำเตือนว่าหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะถูกปิดดำเนินการในวันที่ 1 ต.ค.นี้ หากสภาคองเกรสไม่ผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ และสกุลเงินดอลลาร์


  • รัสเซียกำลังพิจารณาที่จะดำเนินการตามจีนในการสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเล หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วออกจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกในวันพฤหัสบดีที่ 24 ส.ค. และวางแผนที่จะหารือเรื่องดังกล่าวกับญี่ปุ่น

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดอ่อนค่าที่ 36.68 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 36.56 บาทต่อดอลลาร์ โดยจะมีกรอบแนวรับที่ 36.60 บาท แนวต้าน 36.80 บาท


  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) มีมติด้วยเสียงเอกฉันท์ ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ 2.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี โดยมองว่าดอกเบี้ยนโยบายขณะนี้เข้าสู่ระดับ neutral rate ที่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจให้เติบโตตามศักยภาพ ขณะที่ดูแลให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมายอย่างยั่งยืน และช่วยเสริมเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาวแล้ว


  • เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวว่า ในระยะสั้นหากภาพรวมเศรษฐกิจไม่เปลี่ยนแปลง ก็เชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจระดับศักยภาพในระยะยาว โดยในระยะสั้น จะต้องคำนึง 3 ปัจจัย คือ 1. ต้องแน่ใจว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ในระดับศักยภาพ 2. เงินเฟ้อได้กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย และ 3. ระบบการเงินโดยรวมยังทำงานได้ดี ไม่มีปัญหา ขณะที่ความไม่แน่นอนก็ค่อนข้างมาก ทั้งเศรษฐกิจต่างประเทศที่ชะลอตัว จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ยังไม่แน่นอน และมาตรการภาครัฐที่ยังไม่ชัดเจน


  • นายปิติ กล่าวว่า ในการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 67 ที่ 4.4% ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ 3.8% นั้น เป็นการรวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการคลัง โดยเฉพาะผลจากมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต วงเงิน 5.6 แสนล้านบาทไว้แล้ว และหากไม่มีมาตรการดังกล่าวแนวโน้มเศรษฐกิจปีหน้าก็ยังสามารถฟื้นตัวได้ดีกว่าปีนี้


  • Krungthai Compass ประเมินสถานการณ์ด้านการส่งออกของไทยว่า การส่งออกในเดือนส.ค.66 มีมูลค่าอยู่ที่ 24,279.6 ล้านดอลลาร์ฯ กลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน ที่ 2.6%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะหดตัว -4.0% จากการส่งออกสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม ที่กลับมาขยายตัวได้

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com