• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 2 ตุลาคม 2566

    2 ตุลาคม 2566 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) ต่ำสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -15.98 เหรียญ หรือ -0.86% อยู่ที่ระดับ 1,848.82 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 12.50 เหรียญ หรือ 0.67% ปิดที่ 1,866.10 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 29.10 เซนต์ หรือ 1.28% ปิดที่ 22.45 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 915.90 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 873.64 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ขายสุทธิ 16.46 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 44.0 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.03 จุด หรือ 0.03% มาอยู่ที่ระดับ 106.17 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.614% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 5.092% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.48% 


  • นายออสตัน กูลส์บี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกกล่าวว่า เฟดอาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก คือสามารถทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงได้โดยที่ไม่สร้างความเสียหายหนักกับการจ้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเฟดต้องระมัดระวังเป็นพิเศษกับการพึ่งพิงมากไปกับการต่อสู้กับเงินเฟ้อในอดีตในการวางแผนนโยบายต่อไป


  • นายโทมัส บาร์กิน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนสำหรับเขาว่า เฟดจะต้องทำสิ่งใดในเรื่องนโยบายการเงินในช่วงปลายปีนี้ เขากล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่เขาจะระบุถึงแนวโน้มสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง แต่ก็คิดว่า มีผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ต่างๆมากมายที่เศรษฐกิจจะเผชิญ และด้วยความไม่แน่นอนดังกล่าว จึงเป็นเรื่องดีที่เฟดจะใช้เวลาอีกสักพักเพื่อดูว่า ข้อมูลจะออกมาเป็นอย่างไร


  • นักเศรษฐศาสตร์บางกลุ่มกล่าวว่า การฟื้นตัวไวของเศรษฐกิจประกอบกับอัตราเงินเฟ้อสูงอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีเหตุผลที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกครั้งในเดือนพ.ย.


  • หัวหน้าแผนกตราสารหนี้ของ BlackRock กล่าวว่า Fed จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยลง ณ จุดใดจุดหนึ่ง แต่อาจจะยังไม่ถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2024 โดยเจ้าหน้าที่ของ Fed เมื่อสัปดาห์ที่แล้วชี้ให้เห็นถึงความน่าจะเป็นที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครึ่งหนึ่งในปีหน้า


  • อดีตหัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัท Bridgewater Associates ของเรย์ ดาลิโอ ตั้งข้อสังเกตว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่งจะช่วยให้เฟดมีทางเลือกในการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป


  • นักกลยุทธ์จากฝ่ายวิจัยโลกของแบงก์ ออฟ อเมริการะบุว่า เงินเฟ้อที่คงอยู่นานอาจจะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐพุ่งสู่ระดับ 5%


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐหรือชัตดาวน์ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ขณะที่นักลงทุนได้ปรับตัวรับการเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี และนักลงทุนทำการปรับพอร์ตการลงทุนในการซื้อขายวันสุดท้ายของไตรมาส 3/2566


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,507.50 จุด ลดลง 158.84 จุด หรือ -0.47%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,288.05 จุด ลดลง 11.65 จุด หรือ -0.27%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,219.32 จุด เพิ่มขึ้น 18.05 จุด หรือ +0.14%


  • สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า สหรัฐรอด government shutdown วุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว โดยวุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 88 ต่อ 9 เสียง ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวในวันเสาร์ (30 ก.ย.) ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งมติดังกล่าวช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐรอดพ้นจากการถูกปิดการดำเนินงาน หรือชัตดาวน์ เพื่อให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีงบประมาณสำหรับบริหารกิจการของรัฐต่อไปอีก 45 วัน


  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า มองเห็นสัญญาณการมีเสถียรภาพในเศรษฐกิจจีนบ้างแล้วจากข้อมูลล่าสุด แต่ก็เชื่อว่า จีนสามารถเร่งให้เศรษฐกิจขยายตัวเร็วขึ้นในระยะกลางได้ ถ้าหากจีนดำเนินมาตรการเพื่อปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อปรับสมดุลใหม่จากการลงทุนไปสู่การใช้จ่ายของผู้บริโภค


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ โดยถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ซาอุดีอาระเบียจะกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกครั้ง


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 92 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 90.79 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เพิ่มขึ้น 0.8% ในรอบสัปดาห์นี้, เพิ่มขึ้น 8.6% ในเดือนก.ย. และเพิ่มขึ้น 28.5% ในไตรมาส 3/2566
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 95.31 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เพิ่มขึ้น 2.2% ในรอบสัปดาห์นี้, เพิ่มขึ้น 9.7% ในเดือนก.ย. และเพิ่มขึ้น 27.3% ในไตรมาส 3/2566


  • Rapidan Group ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียอาจกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้ เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดภาวะน้ำมันตึงตัวจนราคาพุ่งขึ้นมากเกินไป ซึ่งเสี่ยงทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอย และส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.70 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ  36.43 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 36.25-36.85 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.55-36.80 บาทต่อดอลลาร์


  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในขณะนี้ เข้าสู่ระดับที่เหมาะสมในการสร้างเสถียรภาพระยะยาว หรือ neutral rate แล้ว ซึ่งจะทำให้ธปท.หยุดปรับเปลี่ยนดอกเบี้ยไปอีกระยะหนึ่ง หากปัจจัยด้านเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพการเงินของประเทศ ยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้


  • ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนส.ค.ยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว ตามรายรับในภาคการท่องเที่ยว แม้อุปสงค์ในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนชะลอลงบ้าง หลังจากได้เร่งขยายตัวในเดือนก่อน ขณะที่มูลค่าการส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมทรงตัว



ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com