MTS Help Center

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ (2 ต.ค) ทำสถิติปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และความกังวลเกี่ยวกับภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำ
  
  

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -20.93 เหรียญ หรือ -1.13% อยู่ที่ระดับ 1,827.89 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 18.90 ดอลลาร์ หรือ 1.01% ปิดที่ 1,847.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. 2566
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.029 ดอลลาร์ หรือ 4.58% ปิดที่ 21.421 ดอลลาร์/ออนซ์
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 29.10 ดอลลาร์ หรือ 3.18% ปิดที่ 886.80 ดอลลาร์/ออนซ์
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 1.44 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 875.08 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ซื้อสุทธิ 1.44 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 42.56 ตัน

 

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.85 จุด หรือ 0.8% มาอยู่ที่ระดับ 107.02 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.07 % มาอยู่ที่ระดับ 4.681% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 5.108% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.43% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
  
  

• กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า สัดส่วนของดอลลาร์ในทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของโลกนั้นอยู่ที่ 58.9% ในไตรมาส 2 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาสแรก ขณะที่สัดส่วนของยูโรในทุนสำรองเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 19.9% ในไตรมาส 2 จาก 19.8% ในไตรมาสแรก
  
  

• นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ค กล่าวว่าถึงแม้อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินไป อัตราเงินเฟ้อก็กำลังชะลอตัวลง และมีแนวโน้มที่จะบรรลุระดับเป้าหมายที่ 2% ภายในปี 2025 โดยเขาส่งสัญญาณว่าวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจสิ้นสุดลงแล้วด้วย

 

• ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศในวันนี้ว่า BOJ จะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มอีก โดยมีเป้าหมายที่จะชะลอการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร หลังจากอัตราผลตอบพันธบัตรอายุ 10 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี โดยการประกาศซื้อพันธบัตร มีขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 0.775% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2556

 

• ซีอีโอ BlackRock กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปี จะอยู่ในระดับอย่างน้อย 5% หรือสูงกว่า เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ ขณะนี้กำลังประเมินการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์การเมืองต่ำไปจนเกินความเป็นจริง
  
  
• นาย เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดอยู่ในที่การประชุม พูดถึงเศรษฐกิจในเมืองยอร์ก ในการประชุมพูดคุยเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจท้องถิ่น และชุมชน โดยไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินในปัจจุบันหรือแนวโน้มเศรษฐกิจ

 

 

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (2 ต.ค.) โดยตลาดยังคงถูกกดดันจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.

 

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,433.35 จุด ลดลง 74.15 จุด หรือ -0.22%,
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,288.39 จุด เพิ่มขึ้น 0.34 จุด หรือ +0.01% และ
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,307.77 จุด เพิ่มขึ้น 88.45 จุด หรือ +0.67%

 

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีพุ่งทะยานขึ้นแตะ 4.688% ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดในรอบราว 16 ปี การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ก็ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงนี้ โดยนักลงทุนบางรายกำลังกังวลกันว่า หุ้นบริษัทขนาดยักษ์ในกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเติบโตอาจจะเป็นกลุ่มที่ได้รับความเสียหายจากการพุ่งขึ้นของบอนด์ยิลด์ในช่วงนี้ด้วย
  
  

• ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจะขยายตัว 5% ในปี 2566 ลดลงจากที่เคยคาดการณ์เอาไว้ในเดือนเม.ย.ว่าจะขยายตัว 5.1% ส่วนในปี 2567 เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจะขยายตัว 4.5% จากที่เคยคาดการณ์เอาไว้ในเดือนเม.ย.ว่าจะขยายตัว 4.8%

 

• ธนาคารโลกระบุว่า การฟื้นตัวของจีนจากการเปิดประเทศ หลังจากใช้มาตรการควบคุมโควิดแบบเข้มงวดมากมานานสามปีนั้น เริ่มแผ่วลงแล้ว และหนี้ที่สูงขึ้นและภาวะชะลอตัวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ กำลังกระทบเศรษฐกิจจีน

 

• กิจกรรมภาคการผลิตของยูโรโซนยังคงอยู่ในภาวะตกต่ำที่รุนแรงในวงกว้างในเดือนก.ย. ขณะที่อุปสงค์ยังคงหดตัวในอัตราที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี 1997 ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ลดลงสู่ระดับ 43.4 ในเดือนก.ย. จาก 43.5 ในเดือนส.ค. และดัชนีผลผลิตลดลงสู่ระดับ 43.1 ในเดือนก.ย. จาก 43.4 ในเดือนส.ค.
  
  

• โกลด์แมน แซคส์เปิดเผยว่า อุปสงค์ทองแดงในประเทศจีนปรับตัวขึ้นราว 8% นับตั้งแต่ต้นปี 2566 เมื่อเทียบรายปี ขณะที่อุปสงค์แร่เหล็กและน้ำมันปรับตัวขึ้น 7% และ 6% ตามลำดับ ซึ่งอุปสงค์สินค้าทั้ง 3 ชนิดนี้อยู่ในระดับสูงกว่าการคาดการณ์ตลอดปี 2566 ของโกลด์แมน แซคส์

 

• รัฐบาลจีนพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังเผชิญวิกฤตหนี้สินในภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดโลก โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายของจีนได้ประกาศมาตรการหลายชุดเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการลดสัดส่วนกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ และปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนอง

 

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันจันทร์ (2 ต.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และแรงขายทำกำไร นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบที่สูงขึ้น และภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงที่อาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
• ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.97 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 88.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. 2566
• ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.49 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 90.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย. 2566

 

• ยอดนำเข้าน้ำมันดิบเดือนก.ย.ในภูมิภาคเอเชียลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากการซ่อมบำรุงโรงกลั่นทำให้อุปสงค์ลดลง รวมถึงผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น

 

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ

 

• ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้กดดันให้พรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสสนับสนุนการจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือยูเครนในการป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย โดยกล่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังที่ความขัดแย้งทางการเมืองเกือบจะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐถูกปิดดำเนินงาน หรือชัตดาวน์

 

• ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐได้ลงนามในกฎหมายงบประมาณชั่วคราวระยะเวลา 45 วัน ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาทีก่อนถึงเส้นตายที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะถูกปิดการดำเนินงาน หรือชัตดาวน์

 

 

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

 

• นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ยืนยันนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล หรือดิจิทัลวอลเล็ต จะเริ่มใช้ได้ภายในเดือนก.พ.67 โดยการอัดฉีดเงินจากนโยบายดังกล่าว 5.6 แสนล้านบาท เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจภายใน 6 เดือน จะเป็นการกระตุ้นอุปสงค์ ช่วยให้เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียน และสร้างภาษีกลับเข้าสู่ภาครัฐในอนาคต

 

• ธนาคารโลก (World bank) คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 66 จะขยายตัวได้ 3.4% เร่งตัวขึ้นจาก 2.6% ในปี 65 แต่ลดลงจากก่อนหน้านี้ ที่เคยประมาณการไว้ที่ 3.9% โดยเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ยังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง ขณะที่คาดว่าการส่งออกจะหดตัว -2.1%

 

• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือนก.ย.66 อยู่ที่ 50.4 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 48.9 จากด้านการผลิต, คำสั่งซื้อ และผลประกอบการเป็นสำคัญ โดยดัชนีความเชื่อมั่นในภาคการผลิตปรับเพิ่มขึ้นมาใกล้เคียงระดับ 50 อีกครั้ง จากกลุ่มผลิตเคมี ปิโตรเลียม ยาง และพลาสติก รวมถึงกลุ่มผลิตเหล็ก ที่ความเชื่อมั่นปรับดีขึ้นในเกือบทุกด้าน
  
  

• รัฐบาลไทยแสดงความเชื่อมั่นถึงผลสำเร็จของการออกมาตรการฟรีวีซ่าชั่วคราวให้กับชาวจีน โดยทำเนียบรัฐบาลไทยเปิดเผยว่า นโยบายให้สิทธิ์ฟรีวีซ่าชั่วคราวแก่ชาวจีนเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวนั้นจะทำให้เงินสะพัดกว่า 1.403 แสนล้านบาท

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง