• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 5 ตุลาคม 2566

    5 ตุลาคม 2566 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (4 ต.ค) โดยตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้

  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -1.59 เหรียญ หรือ -0.09% อยู่ที่ระดับ 1,821.31 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 23.10 เซนต์ หรือ 1.08% ปิดที่ 21.146 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 5.40 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 874.20 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 4.04 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 869.31 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ขายสุทธิ 4.33 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 48.33 ตัน

  • ขณะที่เช้านี้ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวขึ้นอีกครั้ง หลังปรับลดลงติดต่อกันมาเป็นเวลา 8 วัน โดยได้รับปัจจัยหนุนหลังสหรัฐฯ เผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของเอกชน (ADP Non-Farm) ลดลงต่ำกว่าคาดการณ์แตะระดับ 89K ขณะที่ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 154K กดดอลลาร์อ่อนค่า


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.29 จุด หรือ -0.27% มาอยู่ที่ระดับ 106.76 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.733% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.1 % มาอยู่ที่ระดับ 5.056% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.32% อยู่ในภาวะ inverted yield curve

 

  • สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนปรับลดต่ำลงกว่าคาดการณ์ ส่งผลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีชะลอตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี ซึ่งช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด

 

  • นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตากล่าวว่า การปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวของสหรัฐยังไม่ได้ส่งสัญญาณชะลอเศรษฐกิจมากกว่าที่คาดไว้ว่าจะเกิดขึ้นในวงจรการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งเขานับเป็นเจ้าหน้าที่เฟดคนล่าสุดที่ไม่ได้สนใจต้นทุนการกู้ที่พุ่งขึ้นที่เกิดขึ้นจากตลาด

 

  • ลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์กล่าวว่า เธอเปิดกว้างรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งซึ่งอาจจะเป็นในการประชุมครั้งต่อไปของเฟด ถ้าหากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันยังคงดำเนินต่อไป แม้เธอยอมรับว่า การพุ่งขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวอาจจะเปลี่ยนแนวโน้มนโยบายการเงินก็ตาม

 

  • นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐได้แสดงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยกล่าวว่า มีมุมมองเชิงบวกอย่างมากต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคาดว่าในระยะใกล้นี้ อัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง ในขณะที่ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง ส่วนแผนการในระยะกลางนั้น เราจะผลักดันโครงการลงทุนที่มีความสำคัญเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตของเรา


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 1% หลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลง และยังเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,129.55 จุด เพิ่มขึ้น 127.17 จุด หรือ +0.39%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,263.75 จุด เพิ่มขึ้น 34.30 จุด หรือ +0.81% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,236.01 จุด เพิ่มขึ้น 176.54 จุด หรือ +1.35%

 

  • ซีอีโอของบริษัทดับเบิลไลน์ แคปิตัลกล่าวว่า จุดยืนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงเป็นเวลานาน ได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ และเศรษฐกิจสหรัฐกำลังส่งสัญญาณถึงปัญหาในเรื่องนี้ ทั้งนีได้ตั้งข้อสังเกตว่า ตลาดหุ้น "มองเห็นแล้วว่าเรื่องนี้ถือเป็นปัญหา และการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) พุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น"

 

  • Bond Yield สหรัฐอายุ 10 ปี ดีดแตะ 4.85% กดดันตลาดหุ้นอย่างหนัก หลังไม่เคยแตะระดับนี้เลยในรอบ 16 ปีที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และ 30 ปี พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550 ในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง

 

  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของดอยช์แบงก์กล่าวว่า "จีดีพีของเขตยูโรเกิดการชะลอตัวในรอบปีที่แล้ว และเราคาดว่า เศรษฐกิจจะชะงักต่อไปจนถึงกลางปีหน้า โดยดอยช์แบงก์ ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจสำหรับเขตยูโรในปีนี้ลงสู่ระดับ 0.4% จากเดิมคาดการณ์ เศรษฐกิจจะขยายตัว 0.5% ในปีนี้ และคงคาดการณ์จีดีพีสำหรับปีหน้าที่ 0.5%



ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 5% นวันพุธ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์น้ำมันที่ซบเซา นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ

 

  • ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 5.01 ดอลลาร์ หรือ 5.6% ปิดที่ 84.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. 2566
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5.11 ดอลลาร์ หรือ 5.6% ปิดที่ 85.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. 2566

 

  • เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ลดลงสู่ระดับ 50.1 ในเดือนก.ย.ต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 50.2 จากระดับ 50.5 ในเดือนส.ค. โดยดัชนี PMI ใกล้หลุดระดับ 50 ซึ่งหากต่ำกว่าระดับดังกล่าวจะบ่งชี้ภาวะหดตัวในภาคบริการของสหรัฐ


  • การประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เมื่อวานนี้ ที่ประชุมมีมติคงนโยบายการผลิตของโอเปกพลัสตามที่มีการบรรลุข้อตกลงในเดือนมิ.ย. ส่งผลให้โอเปกพลัสปรับลดกำลังการผลิตรวม 3.66 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นปี 2567

 

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ

  • กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียประกาศห้ามพลเมืองอังกฤษเดินทางเข้ารัสเซียอย่างไม่มีกำหนดเพิ่มอีก 23 ราย เพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของอังกฤษ

 

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

  • ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 36.88 บาทต่อดอลลาร์ "แข็งค่าขึ้น" จากระดับวันก่อนหน้า ที่ระดับ 37.08 บาทต่อดอลลาร์ กรอบเงินบาทวันนี้ คาดอยู่ที่ระดับ 36.80-37.10  บาท/ดอลลาร์

 

  • คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) คาดการณ์(จีดีพี) ปี 66 เติบโต 2.5-3.0% ในด้านของเงินบาทแม้จะอ่อนค่าค่อนข้างเร็ว แต่ยังสอดคล้องกับสกุลเงินภูมิภาค โดยมองว่าค่าเงินบาทที่อ่อนค่าส่วนหนึ่งมาจากความกังวลในการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก และมีการขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้น

  • นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยเผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.95 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 37.07 บาทต่อดอลลาร์ สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท มองว่าโมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทนั้นเริ่มกลับมาชะลอลงชัดเจน (ตามที่เราประเมินวันก่อนหน้า) หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด ที่ไม่ได้ออกมาดีกว่าคาด ได้ส่งผลให้เงินดอลลาร์เริ่มย่อตัวลง




ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com