ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนจับตาธนาคารกลางสหรัฐ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 9.18 เหรียญ หรือ 0.48% อยู่ที่ระดับ 1,929.35 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.40 เหรียญ หรือ 0.07% ปิดที่ 1,935.70 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 25.90 เซนต์ หรือ 1.14% ปิดที่ 23.024 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 6.80 เหรียญ หรือ 0.76% ปิดที่ 906.20 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 855.45 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ขายสุทธิ 18.19 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 62.19 ตัน
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะยังคงเคลื่อนไหวที่เหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์ จนกว่าอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและสถานการณ์รุนแรงในตะวันออกกลางบรรเทาลง
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.05 จุด หรือ -0.05% มาอยู่ที่ระดับ 106.21 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.13 % มาอยู่ที่ระดับ 4.838% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.12 % มาอยู่ที่ระดับ 5.216% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.38% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- นายออสติน กูลส์บี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกกล่าวว่า "ปฏิเสธไม่ได้" ว่าการชะลอตัวของเงินเฟ้อสหรัฐเป็นแนวโน้ม แทนที่จะเป็นสัญญาณที่เกิดขึ้นชั่วคราว แม้ข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาแสดงให้เห็นถึงแรงกดดันต่อเนื่องด้านราคาก็ตาม
- นายโธมัส บาร์กิน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ กล่าวว่า การปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยระยะยาวในสหรัฐจะสร้างแรงกดดันต่ออุปสงค์ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าแรงกดดันดังกล่าวจะมีผลต่อการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของเฟดในการประชุมวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลว่าการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อนั้น จะส่งผลให้เศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันชะลอตัวลง
- สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% ตามเดิมในการประชุมวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. ซึ่งจะถือเป็นครั้งแรกในวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบนี้ที่เฟดคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งติดต่อกัน
- สถาบันการลงทุนแบล็คร็อค กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาวอาจจะยังคงมีโอกาสปรับขึ้นต่อไป แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) ดังกล่าวอาจจะแกว่งตัวได้ในทั้งสองทิศทางในระยะใกล้ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อีซีบีจะต้องการเวลาอีกสักพักก่อนที่จะสามารถมั่นใจได้ว่า อัตราเงินเฟ้อจะกลับไปสู่เป้าหมาย 2% ยังเปิดโอกาสรับการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกครั้ง โดยระบุว่า ถ้าหากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดด้านเงินเฟ้อขนาดใหญ่หรือยืดเยื้ออีก อีซีบีก็จำเป็นที่จะต้องเปิดกว้างรับการดำเนินการมากขึ้น
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันอังคาร ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และราคาหุ้นบริษัทผลิตชิปร่วงลงหลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศแผนระงับการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทันสมัยให้กับจีน
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,997.65 จุด เพิ่มขึ้น 13.11 จุด หรือ + 0.04%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,373.20 จุด ลดลง 0.43 จุด หรือ -0.01%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,533.75 จุด ลดลง 34.24 จุด หรือ -0.25%
- หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจภูมิภาคของสหรัฐในบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า แนวโน้มเงินเฟ้อโดยรวมยังคงอยู่ในภาวะที่น่าพึงพอใจ แต่การต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อยังคงดำเนินต่อไป โดยอัตราเงินเฟ้อในภาคที่อยู่อาศัยที่ปรับสูงขึ้นในเดือนล่าสุดถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก และอัตราเงินเฟ้อในภาคที่อยู่อาศัยจำเป็นจะต้องชะลอตัวลงอย่างรุนแรงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ถึงจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสหรัฐเข้าใกล้ระดับ 2% ได้
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทเนชันไวด์กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของค่าที่อยู่อาศัยส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในภาคบริการโดยรวมยังคงอยู่ในระดับสูง และปัจจัยนี้จะส่งผลให้เฟดเปิดโอกาสสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
- คันทรี การ์เดน (Country Garden) อาจผิดนัดชำระหนี้ได้ หากไม่สามารถชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ในต่างประเทศมูลค่า 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐในวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสิ้นสุดระยะเวลาผ่อนผันการชำระหนี้ 30 วัน โดยคันทรี การ์เดน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน ได้ออกมากล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า บริษัทอาจจะไม่สามารถชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ในต่างประเทศได้ทั้งหมด รวมถึงดอกเบี้ยหุ้นกู้ในสกุลดอลลาร์สหรัฐด้วย
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนจับตาความพยายามทางการทูตของสหรัฐและการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะเดินทางเยือนอิสราเอลในวันนี้ เพื่อประเมินว่าความพยายามเหล่านี้จะสามารถป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งในตะวันออกกลางลุกลามเป็นวงกว้างหรือไม่
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ปิดที่ 86.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของวันจันทร์ที่ 16 ต.ค.
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 89.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ มีแผนจะเดินทางไปเยือนอิสราเอลในวันนี้ เพื่อหารือกับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และเพื่อสร้างความชัดเจนว่า อิสราเอลมีสิทธิที่จะปกป้องตนเอง นอกจากนี้ นายบลิงเกนกล่าวว่า สหรัฐเตรียมพร้อมส่งกองกำลังทหาร 2,000 นายไปยังตะวันออกกลางด้วยเช่นกัน
- นางเยลเลนระบุว่า “สหรัฐสามารถยืนเคียงข้างอิสราเอลและสนับสนุนความต้องการทางด้านการทหารของอิสราเอลได้อย่างแน่นอน อีกทั้ง เรายังสามารถสนับสนุนยูเครนในการสู้รบกับรัสเซียด้วย” พร้อมเสริมว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังดำเนินไปได้อย่างดีมาก
- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้าราชการพลเรือนและพนักงานในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีนกำลังเผชิญข้อจำกัดมากขึ้นในการเดินทางเยือนต่างประเทศแบบเป็นการส่วนตัวและถูกตรวจสอบสายสัมพันธ์ที่มีกับต่างชาติ ในขณะที่จีนเดินหน้าต่อต้านอิทธิพลของต่างชาติ
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะเพิ่มเงินช่วยเหลือพลเมืองในฉนวนกาซาอีกจำนวน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจัดการกับวิกฤติด้านมนุษยธรรม ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาสของปาเลสไตน์
- สำนักข่าวทาสส์ (TASS) ของรัสเซียรายงานว่า ข้อกล่าวหาของชาติตะวันตกที่ว่าเกาหลีเหนือกำลังจัดส่งอาวุธให้รัสเซียนั้นไม่มีมูลความจริง
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.25-36.50 บาทต่อดอลลาร์โดยเปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.38 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งอ่อนค่าลงเล็กน้อยแต่แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.37 บาทต่อดอลลาร์
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง