ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 1,960 ดอลลาร์ในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มบานปลาย
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 18.46 เหรียญ หรือ 0.96% อยู่ที่ระดับ 1,947.81 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 32.60 เหรียญ หรือ 1.68% ปิดที่ 1,968.30 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7.50 เซนต์ หรือ 0.33% ปิดที่ 23.099 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 11.90 เหรียญ หรือ 1.31% ปิดที่ 894.30 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 7.21 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 848.24 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ขายสุทธิ 25.4 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 69.4 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.32 จุด หรือ 0.3% มาอยู่ที่ระดับ 106.53 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.08 % มาอยู่ที่ระดับ 4.919% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 5.225% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.31% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- นายโทมัส บาร์กิน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์กล่าวว่า เฟดยังมีเวลาที่จะตัดสินใจการดำเนินการอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป ขณะที่ข้อมูลที่ได้มาจากการสังเกตบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวท่ามกลางทิศทางที่ลดลงของแรงกดดันเงินเฟ้อ
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อของญี่ปุ่นขึ้นสู่ระดับสูงกว่าเป้าหมาย 2% ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ในการประชุมนโยบายการเงินซึ่งจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ ซึ่งจะทำให้ความพยายามในการเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ (Ultra-loose Monetary Policy) ของ BOJ เป็นไปอย่างยากลำบากมากขึ้น
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดในวันพุธ ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ดิ่งลงกว่า 1% โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มบานปลาย
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,665.08 จุด ลดลง 332.57 จุด หรือ -0.98%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,314.60 จุด ลดลง 58.60 จุด หรือ -1.34%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,314.30 จุด ลดลง 219.44 จุด หรือ -1.62%
- สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 6.9% ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง ทั้งนี้ จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 10% ในสัปดาห์ที่แล้ว และลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
- เจพี มอร์แกน และโนมูระ ยกระดับการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ หลังจากที่เศรษฐกิจเติบโตเร็วกว่าที่คาดในไตรมาส 3 จากปีก่อนหน้า ซึ่งขณะนี้ JP Morgan คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะเติบโต 5.2% ในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อนและเป้าหมายอย่างเป็นทางการของปักกิ่งที่จะเติบโต 5%
- นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกล่าวระหว่างการประชุมสุดยอดแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ว่า จีนจะอัดฉีดเม็ดเงินก้อนใหม่มากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางนับเป็นเสาหลักในนโยบายของปธน.สี ในการขยายอิทธิพลของจีนไปยังต่างประเทศ โดยจีนกล่าวว่าขณะนี้ได้ลงนามในสัญญาต่าง ๆ ทั่วโลก รวมมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
- IMF คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะขยายตัว 5% ในปี 2566 และขยายตัว 4.2% ในปี 2567 ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระบุว่า GDP จะขยายตัว 5.2% ในปี 2566 และขยายตัว 4.5% ในปี 2567 นอกจากนี้ยังกล่าวว่า“สำหรับจีนนั้น การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกำลังอ่อนแรงลง ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัวตั้งแต่เดือนเม.ย.จนถึงเดือนส.ค. และธุรกรรมในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงชะลอตัวลง เราคาดว่าภาวะถดถอยในตลาดที่อยู่อาศัยของจีนจะส่งผลให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เผชิญปัญหาการเงินตึงตัวมากขึ้นในระยะใกล้นี้ และจะทำให้คุณภาพสินทรัพย์เสื่อมถอยลงมากขึ้นด้วย”
- เจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะขยายตัว 5.2% ในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่เจพีมอร์แกนเคยคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้และเป้าหมายอย่างเป็นทางการของจีนที่การขยายตัว 5% ขณะเดียวกันโนมูระได้เพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนปีนี้สู่ 5.1% จากที่เคยคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ที่ 4.8%
- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อรายปีของอังกฤษ อยู่ที่ 6.7% ในเดือนก.ย. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไปจากระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือนของเมื่อเดือนส.ค. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI อาจลดลงสู่ระดับ 6.6% ในเดือนก.ย.
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกอาจจะได้รับผลกระทบ หลังจากอิหร่านเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรน้ำมันต่ออิสราเอล
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.66 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 88.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 91.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.
- ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.5 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 ต.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 300,000 บาร์เรล
- ราคาน้ำมันยังพุ่งขึ้นหลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน เรียกร้องให้องค์กรความร่วมมืออิสลาม (OIC) ออกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิสราเอล ซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมัน และขับเอกอัครราชทูตอิสราเอลออกจากประเทศสมาชิก OIC เพื่อตอบโต้ต่อการที่อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซา อย่างไรก็ดี กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ยืนยันว่าไม่มีแผนที่จะจัดการประชุมฉุกเฉิน หรือดำเนินการใด ๆ ตามที่อิหร่านเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรน้ำมันต่ออิสราเอล โดยระบุว่าโอเปกไม่ใช่องค์กรทางการเมือง
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- กองทัพอิสราเอลออกมาเผยแพร่หลักฐานที่ชี้ว่า ต้นเหตุของการระเบิดที่โรงพยาบาลอัล-อาห์ลี อัล-อาราบี ในฉนวนกาซาเม ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปหลายร้อยราย เกิดจากการยิงจรวดพลาดของปาเลสไตน์
- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ แสดงความเห็นว่า เหตุระเบิดดังกล่าวไม่น่าจะเกิดจากการยิงขีปนาวุธของอิสราเอล
- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐเดินทางถึงกรุงเทลอาวีฟของประเทศอิสราเอลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลเดินทางไปต้อนรับที่สนามบิน โดยปธน.ไบเดนต้องการใช้การเดินทางเยือนอิสราเอลในครั้งนี้ตอกย้ำพันธสัญญาที่สหรัฐมีต่ออิสราเอลและยับยั้งไม่ให้สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสชาวปาเลสไตน์ลุกลามบานปลายและทำให้ตะวันออกกลางตกอยู่ในภาวะวุ่นวาย
- ผู้นำวุฒิสภาสหรัฐคาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะยื่นคำร้องต่อวุฒิสภาสหรัฐภายในสัปดาห์นี้ เพื่อขอเงินช่วยเหลือหลายพันล้านดอลลาร์สำหรับอิสราเอล, ยูเครน และไต้หวัน รวมถึงสำหรับการรักษาความปลอดภัยบริเวณชายแดนสหรัฐด้วย
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน ให้กรอบเงินบาทวันนี้ที่ 36.25-36.55 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนเปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.38 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งอ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 36.29 บาทต่อดอลลาร์
- IMF หั่นคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้จาก 3.4% เป็น 2.7% และปีหน้าจาก 3.6% เหลือ 3.2% สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่ชะลอตัวลงตามจีนและอุปสงค์ในตลาดโลก โดยเตือนราคาน้ำมันเสี่ยงกดดันเศรษฐกิจ-เงินเฟ้อในเอเชีย
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง