• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 27 ตุลาคม 2566

    27 ตุลาคม 2566 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ดี ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงได้สกัดแรงบวกของสัญญาทองคำในระหว่างวัน


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 4.99 เหรียญ หรือ 0.25% อยู่ที่ระดับ 1,984.95 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.50 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 1,997.40 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9.90 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 22.908 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 909.00 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 861.8 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ขายสุทธิ 11.84 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 55.84 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ระดับ 106.58 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.11 % มาอยู่ที่ระดับ 4.849% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.09 % มาอยู่ที่ระดับ 5.042% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.19% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ตามการคาดการณ์ของตลาด โดยเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค.2565 โดยก่อนหน้านี้ ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 10 ครั้งติดต่อกันรวม 4.5% อย่่างไรก็ดี การคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ระดับ 4.00% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ระดับ 4.75% ส่วนอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์อยู่ที่ระดับ 4.50%


  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ปรับขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 10 ปีเมื่อวานนี้ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ และนักลงทุนจับตาดูว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะปรับรายละเอียดในนโยบายการเงินในการประชุมวันที่ 30-31 ต.ค.หรือไม่ ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะ 0.885% ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2013


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี โดยตลาดถูกกดดันจากกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,784.30 จุด ลดลง 251.63 จุด หรือ -0.76%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,137.23 จุด ลดลง 49.54 จุด หรือ -1.18% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,595.61 จุด ลดลง 225.62 จุด หรือ -1.76%


  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการ GDP ไตรมาส 3/2566 ครั้งที่ 1 โดยระบุว่า GDP ขยายตัว 4.9% ซึ่งเป็นการขยายตัวแข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 4.7% หลังจากมีการขยายตัว 2.0% และ 2.1% ในไตรมาส 1 และ 2 ตามลำดับ


  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 4.7% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.0% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค.


  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 207,000 ราย


  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของธนาคารยูบีเอส คาดว่าจีนจะดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป และคาดว่าจีนจะปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง เพื่อจะได้ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่รัฐบาลจีนในการกู้เงินจำนวนมากในอนาคต


  • รมว.คลังญี่ปุ่นประกาศเตือนในวันนี้ว่า นักลงทุนไม่ควรเทขายเยนออกมา ในขณะที่ทางการญี่ปุ่นกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวในตลาดอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดี นายซูซูกิไม่ได้แสดงความเห็นโดยตรงเรื่องการแทรกแซงตลาด


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันพฤหัสบดี หลังจากมีรายงานว่าอิสราเอลชะลอการโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซา ซึ่งทำให้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มลดน้อยลง นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังถูกกดดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่สูงเกินคาดของสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะอุปสงค์พลังงานที่ซบเซาลง


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.18 ดอลลาร์ หรือ 2.55% ปิดที่ 83.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.20 ดอลลาร์ หรือ 2.44% ปิดที่ 87.93 ดอลลาร์/บาร์เรล


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า อิสราเอลได้ชะลอการใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินโจมตีฉนวนกาซาตามคำขอของทางการสหรัฐ เพื่อสนับสนุนความพยายามทางการทูตในการปล่อยตัวประกันจากกลุ่มฮามาส รวมทั้งเปิดช่องทางสำหรับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อพลเรือนในฉนวนกาซา ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สหรัฐต้องการให้อิสราเอลชะลอการโจมตีทางภาคพื้นดินนั้น ก็เพื่อให้สหรัฐสามารถเร่งติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธสำหรับปกป้องกองกำลังของสหรัฐที่ประจำการในภูมิภาค เนื่องจากสหรัฐเชื่อว่ากลุ่มติดอาวุธจะทำการโจมตีกองกำลังของสหรัฐในภูมิภาคทันทีที่อิสราเอลเปิดฉากปฏิบัติการภาคพื้นดินโจมตีฉนวนกาซา


  • ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียกล่าวเตือน ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส อาจลุกลามออกนอกตะวันออกกลาง ซึ่งภารกิจหลักของเราก็คือ การยุติการนองเลือดและความรุนแรง


  • เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และสหรัฐออกแถลงการณ์ร่วมกัน เพื่อประณามกรณีที่เกาหลีเหนือจัดส่งอาวุธและอุปกรณ์ทางทหารให้กับรัสเซีย พร้อมยืนยันว่าเกาหลีเหนือได้ส่งมอบอาวุธให้กับรัสเซียหลายครั้งแล้ว


  • กระทรวงกลาโหมของไต้หวันระบุว่า ตรวจพบเครื่องบินของกองทัพอากาศจีนจำนวน 15 ลำ บินเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน ซึ่งรวมถึงเครื่องบินรบและโดรน โดยมาพร้อมกับเรือรบจีนที่ดำเนินการลาดตระเวนเพื่อเตรียมพร้อมรบ และการฝึกซ้อม

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.23 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.25 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.10-36.35 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้อัตราเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ และมองกรอบในช่วง 36.00-36.50 บาทต่อดอลลาร์ หลังตลาดทยอยรับรู้อัตราเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ


  • รัฐบาลเล็งยกเลิกแจกเงินดิจิทัลคนรวย ชงนายกฯ ตัดสิน 2 ทางเลือกสัปดาห์หน้า แจกเฉพาะถือบัตรคนจน 16 ล้านคน หรือ ตัดคนที่มีรายได้มากกว่า 2.5 หรือ 5 หมื่นบาท เงินฝาก 1 หรือ 5 แสนบาท เคาะแหล่งเงินจากงบรายจ่าย แต่ละปี มอบกรุงไทยพัฒนาระบบ คาดเลื่อนระยะเวลาใช้ 7-8 เดือน


  • คลังรับต้นทุนพอร์ตเงินกู้รัฐบาลพุ่ง หลังอัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่กว่า 3% จากสิ้นเดือนส.ค.อยู่ที่ 2.6% ขณะที่ระดับหนี้สาธารณะแตะ 11.03 ล้านล้านบาท หรือ 61.78% ด้านนายกรัฐมนตรีสั่ง สบน.ศึกษาแผนออกบอนด์สกุลเงินต่าง ประเทศเพื่อทดสอบตลาดและสร้างดอกเบี้ยอ้างอิงให้เอกชน



ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com