ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ ก่อนที่ตลาดจะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -1.7 เหรียญ หรือ -0.09% อยู่ที่ระดับ 1,982.2 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.80 เหรียญ หรือ 0.34% ปิดที่ 1,987.50 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 16.20 เซนต์ หรือ 0.71% ปิดที่ 22.79 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 14.50 เหรียญ หรือ 1.53% ปิดที่ 930.40 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 2.02 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 861.51 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ซื้อสุทธิ 2.02 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 56.13 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.17 จุด หรือ -0.16% มาอยู่ที่ระดับ 106.5 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.2 % มาอยู่ที่ระดับ 4.738% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.14 % มาอยู่ที่ระดับ 4.95% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.21% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 และเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
- แถลงการณ์ของคณะกรรมการเฟดส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคตเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 อย่างไรก็ดี เฟดยอมรับว่าภาวะการเงินที่มีความตึงตัวมากขึ้นนั้นได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน
- ผู้กำหนดนโยบายของ ECB กล่าวว่า ธนาคารกลางยุโรปจะต้องรักษาอัตราดอกเบี้ยให้สูงเพียงพอเป็นเวลานานเพียงพอ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนยังไม่สามารถเอาชนะได้ แม้ว่าจะร่วงลงอย่างมากในปีที่ผ่านมา
- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้น 0.02% แตะที่ 0.970% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2556 ก่อนชะลอตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 0.960% ทันทีที่ BOJ เข้าแทรกแซงตลาดด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรฉุกเฉิน โดยกำหนดเพดานกรอบบนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ระดับ 1.0% พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในปีงบประมาณ 2566 ขึ้นสู่ระดับ 2.8% จากเดิมที่ระดับ 2.5%
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 1.6% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด และการแสดงความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ทำให้นักลงทุนมีมุมมองบวกว่าเฟดได้เสร็จสิ้นภารกิจการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,274.58 จุด เพิ่มขึ้น 221.71 จุด หรือ +0.67%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,237.86 จุด เพิ่มขึ้น 44.06 จุด หรือ +1.05%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,061.47 จุด เพิ่มขึ้น 210.23 จุด หรือ +1.64%
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากฝ่ายวิจัยทั่วโลกของแบงก์ ออฟ อเมริกากล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกจะปรับตัวสูงขึ้น และเข้าสู่ระบอบใหม่ที่ตลาดสหรัฐและญี่ปุ่นจะสนับสนุนการปรับตัวสู่ช่วงขาขึ้น และเขาอยู่ในกลุ่มที่มองว่า อัตราดอกเบี้ยจะไม่กลับไปสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาด
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นของญี่ปุ่น ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหลังจากที่ญี่ปุ่นผ่อนคลายนโยบายควบคุมผลตอบแทนพันธบัตรเมื่อวานนี้ สามารถสร้างแรงกดดันในช่วงขาขึ้นต่อผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้ ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นก็จะถ่วงค่าเงินเยน และกดดันให้ญี่ปุ่นต้องขึ้นดอกเบี้ย
- จีนส่งสัญญาณสนับสนุนบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และแก้ไขปัญหาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นในการประชุมทางการเงินครั้งสำคัญ โดยผู้กำหนดนโยบายเน้นย้ำว่าบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งของภาคเอกชนและของภาครัฐ ต่างจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน
- ไฉซินและเอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนหดตัวลงอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนต.ค. ซึ่งทำให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวอย่างเปราะบางของเศรษฐกิจจีนในช่วงเริ่มต้นไตรมาส 4 ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค.ของจีนปรับตัวลงสู่ระดับ 49.5 จากระดับ 50.6 ในเดือนก.ย. โดยดัชนีที่อยู่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัวและเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีนี้ นอกจากนี้ ดัชนี PMI เดือนต.ค.ยังออกมาสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวสู่ระดับ 50.8
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ รวมทั้งตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 80.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 84.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ธนาคารโลกออกรายงานเตือนว่า หากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงจนส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน ก็อาจจะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับ 157 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เคปเลอร์ (Kpler) เปิดเผยว่า ยอดนำเข้าน้ำมันดิบทางทะเลจากรัสเซียในเดือนต.ค.ของอินเดียปรับตัวลง หลังจากมีการซ่อมบำรุงโรงกลั่นครั้งใหญ่
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน อิสราเอลโจมตีค่ายฉนวนกาซา โดยเครื่องบินขับไล่ของตนได้สังหารผู้บัญชาการกลุ่มฮามาสในการโจมตีค่ายผู้ลี้ภัย ที่มีประชากรหนาแน่นในฉนวนกาซา การโจมตีที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คน
- นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง เพื่อประเมินว่าสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะลุกลามออกไปนอกภูมิภาคหรือไม่ โดยล่าสุดมีรายงานว่าเครื่องบินรบของสหรัฐได้ทำการโจมตีฐานที่มั่นและคลังเก็บอาวุธในซีเรียของกลุ่มนักรบที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน นอกจากนี้ กลุ่มติดอาวุธฮูตีในเยเมน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน อ้างว่าได้ยิงขีปนาวุธและส่งโดรนโจมตีพื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอล
- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ผู้อำนวยการเอฟบีไอ กล่าวในการพิจารณาคดีของรัฐสภาเมื่อวันอังคาร การโจมตีโดยกลุ่มฮามาสต่ออิสราเอลจะสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดภัยคุกคามก่อการร้ายที่สำคัญที่สุดต่อสหรัฐฯ นับตั้งแต่กลุ่มไอซิสผงาดขึ้นมาเมื่อเกือบหนึ่งทศวรรษที่แล้ว โดยนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเมื่อต้นเดือนนี้ องค์กรก่อการร้ายต่างประเทศหลายแห่งได้เรียกร้องให้มีการโจมตีต่อชาวอเมริกันและตะวันตก ทำให้เกิดภัยคุกคามจากกลุ่มหัวรุนแรงหัวรุนแรงในสหรัฐฯ
- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน เกาหลีเหนือเตรียมปิดสถานทูตหลายสิบแห่ง ซึ่งรวมถึงสเปน ฮ่องกง และหลายประเทศในแอฟริกา ทางเกาหลีใต้ ระบุว่าการปิดคณะทูตทางการทูตของเกาหลีเหนือเมื่อเร็วๆนี้ เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าประเทศสันโดษแห่งนี้กำลังดิ้นรนเพื่อหาเงินในต่างประเทศ เนื่องจากการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ
- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เตรียมพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกหรือเอเปค (APEC Summit) ที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียระหว่างวันที่ 11-17 พ.ย.
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน ประเมินทิศทางเงินบาทวันนี้ 35.85-36.15 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เปิดเช้าค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ 36.04 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นก่อนหน้าที่ 36.22 บาทต่อดอลลาร์
- คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) คงคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ปี 66 เติบโต 2.5-3.0% ขณะที่ลดคาดการณ์การส่งออกปีนี้ ติดลบ 1.0-2.0% จากเดิมคาดหดตัว 0.5% ถึงลบ 2.0%
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง