• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566

    9 พฤศจิกายน 2566 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันพุธ หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายได้สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -18.49 เหรียญ หรือ -0.94% อยู่ที่ระดับ 1,949.69 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 15.70 เหรียญ หรือ 0.80% ปิดที่ 1,957.80 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 13.90 เซนต์ หรือ 0.62% ปิดที่ 22.728 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 26.50 เหรียญ หรือ 2.95% ปิดที่ 871.50 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 0.29 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 867.28 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ซื้อสุทธิ 7.79 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 50.36 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ระดับ 105.53 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.07 % มาอยู่ที่ระดับ 4.492% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.936% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.44% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • มิเชลล์ โบว์แมน ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ย้ำมุมมองของเธอที่ว่า เฟดอาจจะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นขึ้นอีกครั้ง แต่ในขณะนี้เธอพอใจที่จะประเมินข้อมูล และสิ่งที่ข้อมูลบ่งบอกถึงแนวโน้มเศรษฐกิจ เธอยังคงสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในอนาคต ถ้าหากข้อมูลที่ออกมาบ่งชี้ว่า ความคืบหน้าเกี่ยวกับเงินเฟ้อหยุดชะงัก หรือไม่เพียงพอที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงมาที่ 2% ในเวลาที่เหมาะสม


  • นายออสแทน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโก ระบุว่าการจ้างงานที่ชะลอตัวลงในเดือนต.ค.ถือเป็นข่าวดี เนื่องจากจากจะทำให้ตลาดแรงงานกลับสู่ภาวะสมดุลมากขึ้น แต่การฉุดเงินเฟ้อให้ปรับตัวลงนั้น ถือเป็นภารกิจอันดับแรกของเฟด


  • นายนีล แคชแครี ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิส ระบุว่า เฟดอาจจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นจึงจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับเป้าหมายได้ โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่าภารกิจการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อของเฟดนั้น ยังไม่เสร็จสิ้น


  • เจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง โดยนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2566 ของสหรัฐที่ขยายตัว 4.9% นั้น ถือว่าแข็งแกร่งมาก และเฟดควรจับตาข้อมูล GDP อย่างใกล้ชิดเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไป


  • นักลงทุนให้ความสนใจต่อถ้อยแถลงของนายพาวเวล ในงานเสวนา 24th Jacques Polak Annual Research Conference ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันศุกร์ที่ 10 พ.ย. เวลา 02.00 น.ตามเวลาไทย ในหัวข้อ "Monetary policy challenges in a global economy" หรือ "ความท้าทายของนโยบายการเงินในเศรษฐกิจโลก" ซึ่งในช่วงท้ายของงานเสวนาจะเป็นช่วงถาม-ตอบ โดยนายพาวเวลจะตอบคำถามเกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟดจากผู้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว


  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าจ้างอย่างรวดเร็วในยูโรโซนอาจจะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นนานขึ้น และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ก็ควรจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่หรือใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตลอดทั้งปีหน้าเพื่อขจัดแรงกดดันด้านราคา


  • ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า จีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ระดับ 5% ในปีนี้ และธนาคารกลางจีนจะยังคงใช้นโยบายการเงินอย่างครอบคอบเพื่อฟื้นฟูการเติบโตของเศรษฐกิจที่แท้จริง


  • ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) กล่าวว่า จีนจะใช้มาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการปรับตัวขึ้นลงมากเกินไปของอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน การแสดงความเห็นดังกล่าวของผู้ว่าการ PBOC มีขึ้น ในขณะที่เงินหยวนอ่อนค่าลงแล้วกว่า 5% ในปีนี้ ซึ่งทำให้เงินหยวนกลายเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่ทำผลงานย่ำแย่ที่สุดในเอเชีย อันเนื่องมาจากส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของจีนและประเทศอื่น ๆ ที่ปรับตัวกว้างขึ้น และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ไม่ต่อเนื่อง


  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า บีโอเจไม่จำเป็นต้องรอให้การขึ้นค่าจ้างที่ปรับตามเงินเฟ้อแล้วกลับมาเป็นบวกเสมอไปก่อนที่จะยุตินโยบายการเงินผ่อนคลายพิเศษได้ แต่เขายังย้ำความตั้งใจของบีโอเจที่จะคงนโยบายการเงินผ่อนคลายพิเศษต่อไปจนกว่าอัตราเงินเฟ้อที่เกิดจากต้นทุนจะเปลี่ยน


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ ส่วนดัชนี Nasdaq และ S&P500 ยังคงปิดในแดนบวก ขณะที่นักลงทุนประเมินการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ออกมาส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย และจับตาทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอย่างใกล้ชิด


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,112.27 จุด ลดลง 40.33 จุด หรือ -0.12%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,382.78 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด หรือ +0.10% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,650.41 จุด เพิ่มขึ้น 10.56 จุด หรือ +0.08%


  • อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนรัฐบาลทุกประเทศควรควบคุมอัตราส่วนหนี้สาธารณะในยุคดอกเบี้ยและบอนด์ยีลด์สูง ชี้จำเป็นต้องมีแผนจัดการการขาดดุลงบประมาณที่น่าเชื่อถือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน หวั่นเกิดวงจรหนี้สาธารณะที่ไม่สิ้นสุด


  • ความเชื่อมั่นทางธุรกิจในหมู่ผู้ผลิตญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค. ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคบริการเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 แต่ผลสำรวจก็บ่งชี้ด้วยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงไม่แน่นอน และยังไม่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง 
  • เอดดาต้า (AidData) ระบุว่า กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเป็นหนี้จีนมากกว่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจีนปล่อยเงินกู้เป็นจำนวนมากในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา และมากกว่าครึ่งหนึ่งของเงินกู้เหล่านี้ไม่ได้ถูกชำระคืนตรงเวลา เนื่องจากประเทศผู้กู้ยืมกำลังเผชิญปัญหาทางการเงิน


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือนในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐและจีน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.04 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 75.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.07 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 79.54 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.


  • สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยรายงานคาดการณ์ล่าสุดว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในปี 2566 จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะเดียวกันคาดว่าอุปสงค์น้ำมันในปี 2566 จะชะลอตัวลง โดย EIA ออกรายงานดังกล่าว หลังจากซาอุดีอาระเบียและรัสเซียประกาศขยายเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจรวมกัน 1.3 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปสงค์ชะลอตัว ทั้งนี้ EIA คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 12.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2566 เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าการผลิตจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 12.92 ล้านบาร์เรลต่อวัน


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • สหรัฐฯ แถลงต่อต้านการยึดครองฉนวนกาซาโดยอิสราเอล โดยเน้นย้ำว่าฉนวนกาซาเป็นดินแดนปาเลสไตน์และควรคงเป็นเช่นนั้น สหรัฐฯสนับสนุนแนวคิดที่ว่าชาวปาเลสไตน์ควรเป็นผู้นำในการตัดสินใจเกี่ยวกับดินแดนแห่งนี้


  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐจะจัดการเจรจาระดับทวิภาคีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในวันที่ 15 พ.ย.นี้ นอกรอบการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ในซานฟรานซิสโก

  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน อิสราเอลระบุสังหารผู้ผลิตอาวุธชั้นนำของกลุ่มฮามาส ในขณะที่การโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินของอิสราเอลมุ่งเป้าไปที่เครือข่ายอุโมงค์ฉนวนกาซาซึ่งเป็นฐานที่มั่นหลักของกลุ่มติดอาวุธฮามาส


  • รัฐมนตรีกระทรวงการลงทุนของซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่า ซาอุดีอาระเบียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาหรับ, การประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมืออิสลาม และการประชุมสุดยอดแอฟริกา-ซาอุดีอาระเบีย ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับความขัดแย้งในฉนวนกาซา

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า  ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดเช้านี้ ที่ระดับ 35.53 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.59 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.45-35.65 บาทต่อดอลลาร์





ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com