ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่นายพาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ในงานดังกล่าว
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 8.95 เหรียญ หรือ 0.46% อยู่ที่ระดับ 1,958.64 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12 เหรียญ หรือ 0.61% ปิดที่ 1,969.80 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 17.70 เซนต์ หรือ 0.78% ปิดที่ 22.905 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 8.70 เหรียญ หรือ 1% ปิดที่ 862.80 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 867.28 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ซื้อสุทธิ 7.79 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 50.36 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.39 จุด หรือ 0.37% มาอยู่ที่ระดับ 105.92 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.14 % มาอยู่ที่ระดับ 4.632% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.09 % มาอยู่ที่ระดับ 5.026% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.39% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- นายพาวเวลกล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ว่า "เจ้าหน้าที่เฟดยังไม่มั่นใจว่าอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงมากพอที่จะควบคุมเงินเฟ้อได้หรือไม่ และแม้ว่าเฟดไม่ต้องการให้นโยบายการเงินมีความเข้มงวดมากเกินไป แต่เราตระหนักว่าความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงที่สุดคือความล้มเหลวในการควบคุมเงินเฟ้อ โดยขณะนี้เฟดกำลังประเมินว่าเราควรจะดำเนินการมากขึ้นอีกหรือไม่ และจากนั้นเราจะประเมินว่าควรตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเท่าใด"
- ลิซา คุก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า สถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ตึงเครียดขึ้นทั่วโลกอาจซ้ำเติมเศรษฐกิจที่ซบเซาอยู่แล้วในยุโรป และจีน และผลกระทบลุกลามอาจจะเปลี่ยนแปลงแนวทางของเศรษฐกิจสหรัฐ และได้ระบุถึงปัจจัยเสี่ยงระหว่างประเทศหลายตัว อาทิ ความขัดแย้งในยูเครนและตะวันออกกลาง รวมทั้งแรงกดดันด้านเงินเฟ้อต่อเนื่องในต่างประเทศ และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงอีกในจีน ซึ่งเธอชี้ว่า อาจจะเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพทางการเงินโลก
- นายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า การตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยของเฟดเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และเขาย้ำว่า ขณะนี้เป็นเวลาที่เฟดจะประเมินผลจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบเชิงรุกที่ผ่านมาก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะดำเนินการใดต่อไปกับนโยบายการเงิน เขาเชื่อว่า เศรษฐกิจจะชะลอตัวลง แต่ก็จะไม่เผชิญกับภาวะถดถอย และเชื่อว่า อัตราเงินเฟ้อจะลดลงสู่ระดับ 3% ในปีหน้า และจะกลับมาที่เป้าหมาย 2% หลังจากนั้น
- สมาชิกสภาบริหารธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า เร็วเกินไปมากๆที่จะเริ่มหารือกันว่า อีซีบีอาจจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด และเร็วเกินไปเช่นกันที่จะตัดโอกาสเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยอีก เราต้องพิจารณาดูข้อมูลอย่างรอบคอบ ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้าก่อนการประชุมในเดือน ธ.ค
- นายลูอิส เดอ กวินโดส รองประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า เร็วเกินไปที่จะหารือเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยของอีซีบี เนื่องจากยังคงมีความเสี่ยงกับแนวโน้มเงินเฟ้ออยู่ โดยเฉพาะราคาพื้นฐานการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน, การอ่อนค่าของยูโร และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยที่สูงขึ้นล้วนเป็นอันตรายที่อาจจะกระทบอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภค ซึ่งลดลงสู่ระดับ 2.9% แล้ว แต่ก็จะต้องรอจนถึงปี 2025 เพื่อให้ลดลงกลับไปที่ 2%
- รายงานสรุปความคิดเห็นในที่ประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ในเดือนต.ค.พบว่า กรรมการบางคนเรียกร้องถึงความจำเป็นที่ต้องเริ่มทยอยถอนมาตรการกระตุ้นขนาดใหญ่ และวางพื้นฐานสำหรับการยกเลิกอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษในอนาคต ซึ่งการหารือดังกล่าวสะท้อนว่า บีโอเจกำลังพิจารณาที่จะยุตินโยบายการเงินผ่อนคลายที่ใช้มาร่วมสิบปีอย่างไร ขณะที่มีแนวโน้มมากขึ้นที่เงินเฟ้อและค่าจ้างจะเพิ่มขึ้นต่อไป
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดในวันพฤหัสบดี หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ หลังจากผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีออกมาน่าผิดหวัง
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,891.94 จุด ลดลง 220.33 จุด หรือ -0.65%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,347.35 จุด ลดลง 35.43 จุด หรือ -0.81% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,521.45 จุด ลดลง 128.97 จุด หรือ -0.94%
- ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า หุ้นไทยถูกกดดันจากหุ้นในกลุ่มค้าปลีกเป็นหลัก หลังจากที่กำไรในไตรมาส 3 ของหุ้นขนาดใหญ่ ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ราว 8% ส่วนภาพรวมดัชนี SET เชื่อว่าจะไม่ทำจุดต่ำสุด หลังจากบอนด์ยีลด์ผ่านจุดพีคไปแล้ว หากสมมติฐานนี้ถูกต้อง ตลาดหุ้นทั่วโลกจะผ่านจุดต่ำสุดในระยะสั้นไปแล้ว แต่การฟื้นตัวหลังจากนี้ขึ้นกับการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนของแต่ละประเทศ
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมินว่า ลาวมีหนี้สาธารณะคิดเป็นสัดส่วน 122% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีนี้ โดยหนี้สินส่วนใหญ่เกิดจากการกู้ยืมเงินจีนเพื่อนำไปลงทุนตามข้อตกลงด้านโครงสร้างพื้นฐานภายใต้แผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ของจีน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวลง 0.2% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งมากกว่าคาดไว้ว่าอาจลดลง 0.1% หลังจากดัชนีทรงตัวในเดือนก.ย.ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ลดลง 2.6% ในเดือนต.ค. ซึ่งมากกว่าในเดือนก.ย.ที่ลดลง 2.5% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจลดลง 2.7% โดยดัชนี PPI ของจีนปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหลังจากราคาน้ำมันร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.54% ปิดที่ 75.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.59% ปิดที่ 80.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- รัฐบาลจีนเรียกร้องให้อังกฤษยุติความพยายามในการพัฒนาความสัมพันธ์กับไต้หวัน หลังอังกฤษกับไต้หวันจัดการประชุมระดับสูงในกรุงลอนดอนและลงนามในข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ระหว่างไต้หวันกับอังกฤษ
- กองทัพอิสราเอลยืนยันในวันนี้ว่า อิสราเอลไม่ได้ตกลงที่จะมีการหยุดยิงในขณะที่ทางกองทัพยังคงใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา แต่จะอนุญาตให้มีการพักการสู้รบเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อให้มีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
- รัสเซียส่งสัญญาณในสัปดาห์นี้ว่า จะไม่ยอมอยู่เฉยกับการที่ประเทศตะวันตกพยายามกระชับความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ ในเอเชียกลาง ซึ่งถือเป็นขอบเขตอิทธิพลของรัสเซียในอดีต และเปรียบเสมือนหลังบ้านของรัสเซีย
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดเช้านี้ ที่ระดับ 35.82 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.59 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.60-35.90 บาทต่อดอลลาร์
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนต.ค. อยู่ที่ 60.2 จาก 58.7 ในเดือนก.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับเพิ่มขึ้น เป็นผลจากคาดประชาชนมองว่าเศรษฐกิจไทยค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น จากมาตรการลดค่าครองชีพ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ที่รัฐบาลจะดำเนินการต่อไป ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว ยังเป็นแรงหนุนเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) คาดเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 2.7% ในปี 66 สูงกว่าที่เติบโต 2.6% ในปีก่อนหน้า ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 67 จะขยายตัว 3.6% ท่ามกลางสภาพแวดล้อมโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง
- Krungthai COMPASS ประเมินว่า ภาคการท่องเที่ยวของไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2567 จะเร่งตัวแตะ 35 ล้านคน หรือฟื้นตัว 88% เมื่อเทียบกับปี 2562 จากความต้องการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง