ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -8.62 เหรียญ หรือ -0.43% อยู่ที่ระดับ 1,989.88 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.80 เหรียญ หรือ 0.44% ปิดที่ 1,992.80 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 18.10 เซนต์ หรือ 0.76% ปิดที่ 23.688 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 15.20 เหรียญ หรือ 1.61% ปิดที่ 930.70 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.15 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 882.28 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ซื้อสุทธิ 22.79 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 35.36 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.31 จุด หรือ 0.3% มาอยู่ที่ระดับ 103.85 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 4.408% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 4.906% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.5% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- ธนาคารบาร์เคลย์สเปิดเผยว่า ธนาคารไม่คาดการณ์อีกต่อไปว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในเดือนม.ค. เมื่อเทียบกับที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจนถึงเดือนธ.ค.ปีหน้า
- คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อีซีบีมีเวลาในตอนนี้ที่จะประเมินว่าสถานการณ์เงินเฟ้อเป็นอย่างไร หลังจากที่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งติดต่อกัน โดยอัตราเงินเฟ้อลดลงมากเกินคาดในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ตลาดคาดว่า การดำเนินการต่อไปของอีซีบีก็คือการลดอัตราดอกเบี้ย และอาจจะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย. แม้มีการชี้แนะจากผู้กำหนดนโยบายหลายคนเกี่ยวกับลำดับเวลาที่ไกลกว่านั้นก็ตาม
- ผลสำรวจของรอยเตอร์พบว่า นักเศรษฐศาสตร์กว่า 80% ระบุว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในปีหน้า โดยเชื่อมั่นมากขึ้นว่า บีโอเจใกล้ขึ้นที่จะถอนมาตรการกระตุ้นทางการเงิน
- เจพีมอร์แกน คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในช่วงไตรมาส 4 ปี 2567 โดยจะปรับลดลง 0.50% ในไตรมาสดังกล่าว เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าBoE จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันตลอดปี 2567
- สำนักข่าว CNBC รายงานมุมมองนักเศรษฐศาสตร์ ที่มีต่อนโยบายปัจจุบัน Fed ยอมรับว่ามีข้อจำกัดและเป็นแรงกดดันต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ แต่ความเห็นภายในยังคงแตกเป็นสองฝ่าย ระหว่างฝ่ายที่เห็นว่า Fed ยังสามารถยืนหยัดในอัตราดอกเบี้ยสูงต่อไปอีกสักระยะ เพื่อพิจารณาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน 11 ครั้งก่อนหน้า ขณะที่อีกส่วนหนึ่งอยากให้คงความเป็นไปได้ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยไว้อีกครั้ง หลังข้อมูลเศรษฐกิจโดยทั่วไปเอื้อให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองบวกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว และเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,273.03 จุด เพิ่มขึ้น 184.74 จุด หรือ +0.53%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,556.62 จุด เพิ่มขึ้น 18.43 จุด หรือ +0.41%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,265.86 จุด เพิ่มขึ้น 65.88 จุด หรือ +0.46%
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 24,000 ราย สู่ระดับ 209,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย
- โกลด์แมน แซคส์ได้เลือกหุ้นกลุ่มต่าง ๆ ในตลาดผู้บริโภคของจีน รวมถึงกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสื่อ และกลุ่มโทรคมนาคมในฐานะหุ้นที่มีแนวโน้มปรับตัวแข็งแกร่งในปีหน้า เนื่องจากจีนดำเนินนโยบายเชิงผ่อนคลายมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
- รัฐบาลญี่ปุ่นปรับลดมุมมองของเศรษฐกิจในเดือนพ.ย.เป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายด้านทุนและการใช้จ่ายของผู้บริโภค นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ปรับลดมุมมองเกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านทุนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2564 โดยระบุว่า อัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลง
- การคาดการณ์ของนักวิเคราะห์และของทางการบ่งชี้ว่า การเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มจะกระเตื้องขึ้นในปีหน้า แต่ภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ผันผวนอาจทำให้หลายประเทศเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตแบบไม่ต่อเนื่อง ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์รายหนึ่งระบุว่า กลุ่มประเทศที่พึ่งพาการค้า “ยังไม่รอดพ้นจากภาวะอันตราย” หลังการส่งออกที่ซบเซาจากผลพวงของปัญหาเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลกชะลอตัวได้ฉุดเศรษฐกิจในประเทศลงในปีนี้
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศเลื่อนการประชุมนโยบายการผลิตน้ำมัน ซึ่งทำให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปทานน้ำมันดิบในตลาดโลก นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่สูงกว่าคาดของสหรัฐ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 67 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 77.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 49 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 81.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- กลุ่มติดอาวุธฮามาสเปิดเผยว่า ทางกลุ่มได้ตกลงกับอิสราเอลที่จะพักการสู้รบเป็นเวลา 4 วัน โดยจะมีการปล่อยตัวประกันในฉนวนกาซาเพื่อแลกกับชาวปาเลสไตน์ที่ถูกคุมขังในเรือนจำของอิสราเอล และจะเปิดทางให้กับการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและเชื้อเพลิงเข้าสู่ดินแดนกาซา
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดเช้านี้ ที่ระดับ 35.25 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.20 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.10-35.35 บาทต่อดอลลาร์
- บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chartered) และบล.โนมูระ (Nomura) ออกบทวิเคราะห์ถึงเศรษฐกิจไทยว่ามีแนวโน้มสูงที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปี 2567
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง