ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนตลาด
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 11.68 เหรียญ หรือ 0.58% อยู่ที่ระดับ 2,014.17 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.40 เหรียญ หรือ 0.47% ปิดที่ 2,012.40 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 1.40% ปิดที่ 24.681 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 13.70 เหรียญ หรือ 1.46% ปิดที่ 923.20 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 882.28 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ซื้อสุทธิ 22.79 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 35.36 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.29 จุด หรือ -0.28% มาอยู่ที่ระดับ 103.12 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.1 % มาอยู่ที่ระดับ 4.392% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.07 % มาอยู่ที่ระดับ 4.898% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.51% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- หน่วยงานสำคัญของรัฐบาลจีน นำโดยธนาคารกลางจีนกล่าวว่า จีนจำเป็นต้องดำเนินการยกระดับการใช้มาตรการสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทเอกชน ซึ่งรวมถึงการเปิดช่องทางการระดมทุนและรักษาช่องทางเหล่านี้ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
- นายแอนดรูว์ ไบเลย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) กล่าวว่า การทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมาย 2% ของบีโออีจะเป็น "งานที่ยาก" เนื่องจากการลดลงส่วนใหญ่ของอัตราเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมาเกิดขึ้นจากต้นทุนพลังงานที่ร่วงลงหลังจากที่พุ่งขึ้นในปีที่แล้ว
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคในวันไซเบอร์มันเดย์ (Cyber Monday) และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,333.47 จุด ลดลง 56.68 จุด หรือ -0.16%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,550.43 จุด ลดลง 8.91 จุด หรือ -0.20%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,241.02 จุด ลดลง 9.83 จุด หรือ -0.07%
- อะโดบี อะนาไลติกส์ (Adobe Analytics) เปิดเผยรายงานระบุว่า การซื้อสินค้าออนไลน์ในช่วงวันแบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) ในสหรัฐพุ่งระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์การณ์ที่ 9.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่ง สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยินดีที่จะใช้จ่ายมากขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันและราคาอาหารสูงเป็นอย่างมาก
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก.ย.และส.ค.ที่ขยายตัวแข็งแกร่งถึง 11.9% และ 17.2% ตามลำดับ บ่งชี้ว่าจีนยังคงเผชิญแรงดันด้านเงินฝืด และมีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจของประเทศจะยังคงอยู่ในภาวะเปราะบางไปจนถึงสิ้นปี 2566 ส่วนในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีน ลดลง 7.8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งดีกว่าในช่วง 9 เดือนแรกที่ลดลง 9%
- คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงินของเกาหลีใต้ (FSS) กำลังสอบสวนว่าบรรดาสถาบันการเงินที่ขายผลิตภัณฑ์อนุพันธ์เชื่อมโยงกับหุ้นจีนนั้นได้อธิบายถึงความเสี่ยงของการขาดทุนต่อนักลงทุนรายย่อยเพียงพอหรือไม่ เนื่องจากดัชนี HSCEI ซึ่งติดตามหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ปรับตัวลดลงกว่า 50% จากจุดสูงสุดในเดือนก.พ. 2564 โดยถูกกดดันจากเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวขึ้นแบบอ่อนแอ วิกฤตอสังหาริมทรัพย์จีน
- ตำรวจจีนกำลังดำเนินการสอบสวนการก่อคดีอาชญากรรมของบริษัทจงจื๋อ เอนเตอร์ไพรส์ กรุ๊ป (Zhongzhi Enterprise Group) ซึ่งเป็นผู้จัดการความมั่งคั่งชั้นนำของจีน โดยการสอบสวนครั้งนี้มีขึ้นหลังบริษัทจงจื๋อแจ้งต่อนักลงทุนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า บริษัทติดหนี้สินสูงถึง 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเสี่ยงจะกระตุ้นให้ความวิตกกังวลอีกครั้งว่า วิกฤตหนี้สินในภาคอสังหาริมทรัพย์จีนกำลังแพร่กระจายไปยังภาคการเงินแบบเป็นวงกว้าง
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันพฤหัสบดีนี้
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 68 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 74.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 60 เซนต์ หรือ 0.74% ปิดที่ 79.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
- นักวิเคราะห์จากไอเอ็นจีคาดการณ์ว่า ซาอุดีอาระเบียจะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันไปจนถึงปีหน้า ขณะที่รัสเซียจะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตเช่นกัน
- กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศให้โควตาการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง (fuel oil) แก่บริษัทเอกชนของจีนเพิ่มอีก 3 ล้านตันในปี 2566 ทั้งนี้ การปรับเพิ่มโควตาดังกล่าวทำให้ปริมาณการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงของจีนในปี 2566 เพิ่มขึ้นแตะระดับ 19.2 ล้านตัน หลังจีนที่ประกาศให้โควตาการนำเข้าน้ำมันแก่บริษัทเอกชนในปริมาณ 16.2 ล้านตันเมื่อช่วงต้นปี
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- สถานการณ์ในตะวันออกกลางนั้น ล่าสุดอิสราเอลและกลุ่มฮามาสบรรลุข้อตกลงขยายเวลาพักรบออกไปอีก 2 วัน จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดลงในวันจันทร์ที่ 27 พ.ย. โดยภายใต้ข้อตกลงขยายเวลาการหยุดยิงดังกล่าว ฮามาสจะปล่อยตัวประกันอิสราเอลรวม 20 คน โดยจะปล่อยตัววันละ 10 คน ขณะที่อิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์วันละ 30 คน รวมเป็น 60 คน
- รัฐบาลอิสราเอลเปิดเผยว่า การเจรจาเกี่ยวกับรายชื่อของตัวประกันอิสราเอลที่จะได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่มฮามาสในวันนี้ได้ข้อยุติแล้ว โดยรายชื่อล่าสุดของตัวประกันอิสราเอลที่จะได้รับการปล่อยตัวในวันนี้มีทั้งหมด 11 คน โดยเป็นแม่ 2 คน และเด็กอีก 9 คน
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดเช้านี้ ที่ระดับ 35.03 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.13 บาทต่อดอลลาร์ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.90-35.15 บาทต่อดอลลาร์
- KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจเกียรตินาคินภัทร ปรับลดประมาณการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในปี 66 เหลือ 2.4% ส่วนในปี 67 คาดว่าหากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตผ่านจะอยู่ที่ 3.7% แต่หากไม่ผ่านจีดีพีได้จะลดเหลือ 2.9%
- สภาพัฒน์ เผยภาวะสังคมไทยไตรมาส 3/66 พบ การจ้างงานปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง 1.3% จากการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานทั้งในและนอกภาคเกษตรกรรม การว่างงานอยู่ในระดับต่ำที่ 0.99% แต่มีจำนวนผู้เสมือนว่างงานเพิ่มขึ้น ขณะที่หนี้สินครัวเรือนในไตรมาส 2/66 เพิ่มขึ้น 3.6% ส่วนคุณภาพสินเชื่อภาพรวมปรับตัวลดลงเล็กน้อย จับตาความเสี่ยงต่อการติดกับดักหนี้ของเกษตรกร และการเร่งดำเนินมาตรการปรับโครงสร้างหนี้แก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
- กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนต.ค.66 พบว่า การส่งออกมี มูลค่า 23,578 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 8% จากตลาดคาดราว 9.0-9.3% โดยเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 24,411 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 10.2% ส่งผลให้เดือนต.ค.ไทยขาดดุลการค้า 832 ล้านดอลลาร์
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง
.jpg)