ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 26.8 เหรียญ หรือ 1.33% อยู่ที่ระดับ 2,040.97 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 27.20 ดอลลาร์ หรือ 1.34% ปิดที่ 2,060.20 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 26.40 เซนต์ หรือ 1.05% ปิดที่ 25.302 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 27 ดอลลาร์ หรือ 2.92% ปิดที่ 950.20 ดอลลาร์/ออนซ์
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.73 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 880.55 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ซื้อสุทธิ 21.06 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 37.09 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.47 จุด หรือ -0.46% มาอยู่ที่ระดับ 102.65 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.07 % มาอยู่ที่ระดับ 4.325% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.16 % มาอยู่ที่ระดับ 4.743% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.42% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- นายออสแทน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐกำลังปรับตัวลงในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 พร้อมกับกล่าวว่าเขารู้สึกกังวลหากเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเกินไป
- ผู้ว่าการธนาคารกลางทั่วโลกซึ่งรวมถึงออสเตรเลีย, อังกฤษ และไทย ต่างก็ออกมาเตือนเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของแนวโน้มนโยบายการเงิน แม้มีกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นทั่วโลกว่าอัตราดอกเบี้ยได้มาถึงจุดพีกหรือใกล้จะถึงจุดพีกแล้วก็ตาม
- ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวในการประชุมซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารกลางฮ่องกงและธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ว่า ธนาคารกลางจีนจะเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป พร้อมกับกล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อของจีนได้ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดแล้วและมีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นเล็กน้อยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
- คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า งบดุลของอีซีบีในอนาคตจะมีขนาดเล็กกว่าในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็จะไม่หดตัวกลับลงไปสู่ระดับก่อนเกิดวิกฤติการเงิน
- ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยว่า การให้สินเชื่อแก่บริษัทในยูโรโซนลดลงสู่ระดับติดลบเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2015 ขณะที่เศรษฐกิจยูโรโซนอาจอยู่ในภาวะถดถอย และการฟื้นตัวที่ยาวนาน
- นายโจอาคิม นาเจล ประธานธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) กล่าวว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ถ้าแนวโน้มเงินเฟ้อย่ำแย่ลง และอีซีบีไม่ควรรีบเร่งผ่อนคลายนโยบายเร็วเกินไป หลังจากที่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยว่า บีโอเจขาดทุนมูลค่าสูงเป็นประวัติการณ์จากการถือครองพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณปัจจุบัน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่เพิ่มขึ้น
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร ขานรับการแสดงความเห็นเชิงบวกของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,416.98 จุด เพิ่มขึ้น 83.51 จุด หรือ +0.24%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,554.89 จุด เพิ่มขึ้น 4.46 จุด หรือ +0.10%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,281.76 จุด เพิ่มขึ้น 40.73 จุด หรือ +0.29%
- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐเพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยในวันนี้สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2566 (ประมาณการครั้งที่ 2) และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากเฟด ส่วนในวันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค. และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนต.ค.
- เวลส์ ฟาร์โก อินเวสต์เมนท์ อินสติติวท์ (Wells Fargo Investment Institute) ออกรายงานเตือนว่า แนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐจะสกัดช่วงขาขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ และส่งผลกระทบต่อหุ้นหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (consumer discretionary) และหุ้นที่มีทุนจดทะเบียนต่ำ (small cap stocks)
- สำนักบริหารกิจการภาษีแห่งชาติจีน (STA) เปิดเผยว่า จีนส่งเสริมมาตรการบรรเทาภาษีและค่าธรรมเนียมหลายรายการในปีนี้ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจ
- แอลเอสอีจี (LSEG) ประมาณการว่า บริษัทจีนจะมีกำไรเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 7 ปีในปี 2567 เนื่องจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า รัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นอุปสงค์ผู้บริโภคและตลาดที่อยู่อาศัยที่ซบเซา
- สำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทมส์รายงานว่า ธนาคารบาร์เคลย์กำลังพิจารณาแผนยกเลิกการให้บริการลูกค้าวาณิชธนกิจหลายพันรายตามแผนยกเครื่องเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งจะช่วยสร้างผลกำไรและลดต้นทุนได้ 1 พันล้านปอนด์
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันอังคาร ขานรับการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้นในการประชุมสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และข่าวคาซัคสถานผลิตน้ำมันลดลงเนื่องจากพายุพัดกระหน่ำ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.55 ดอลลาร์ หรือ 2.07% ปิดที่ 76.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ หรือ 2.13% ปิดที่ 81.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 817,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียให้การอนุมัติอย่างเป็นทางการสำหรับการเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารอย่างมีนัยสำคัญ ระหว่างการลงนามผ่านร่างแผนงบประมาณเป็นกฎหมาย โดยเม็ดเงินประมาณ 30% ของงบการคลังในปี 2567 จะส่งตรงไปที่กองทัพ
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดที่ระดับ 34.68 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.93 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.55-34.85 บาทต่อดอลลาร์
- หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกในปี 67 จะชะลอตัวลง เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลางต่างๆและมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลดลงอย่างช้าๆทำให้ TISCO ESU ประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกในปี 67 จะยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องเพราะธนาคารกลางจะต้องควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม มองว่าในปี 67 ตลาดพันธบัตรโลกจะกลับมาให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าตลาดหุ้นอีกครั้งและจะกลายเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในปี 67 โดยคาดว่ามีโอกาสสร้างผลตอบแทนอยู่ที่ราว 8-15% นอกจากนี้การลงทุนในพันธบัตรโลกโดยเฉพาะพันธบัตรสหรัฐฯยังมีความเสี่ยงยังต่ำกว่าตลาดหุ้นและยังช่วยกระจายความเสี่ยงและลดผลขาดทุนของพอร์ตโดยรวมในกรณีที่เศรษฐกิจถดถอยได้อีกด้วย
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง