ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2566 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -8.46 เหรียญ หรือ -0.41% อยู่ที่ระดับ 2,031.78 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 4.40 เหรียญ หรือ 0.21% ปิดที่ 2,047.70 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 1.27% ปิดที่ 24.631 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 8.20 เหรียญ หรือ 0.85% ปิดที่ 974.00 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 0.58 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 878.25 ตันภาพรวมเดือนธันวาคม ซื้อสุทธิ 1.74 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 39.39 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.2 จุด หรือ 0.2% มาอยู่ที่ระดับ 102.39 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.08 % มาอยู่ที่ระดับ 3.849% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.1 % มาอยู่ที่ระดับ 4.348% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.5% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตากล่าวว่า ขณะนี้ไม่มีความเร่งด่วนสำหรับเฟดที่จะลดอัตราดอกเบี้ย เมื่อดูจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ และความจำเป็นที่ต้องทำให้แน่ใจว่า อัตราเงินเฟ้อจะกลับมาสู่เป้าหมาย 2% ของเฟด
- กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า สัดส่วนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของนักลงทุนต่างประเทศลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนต.ค. สัดส่วนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลดลงสู่ระดับ 7.565 ล้านล้านดอลลาร์ ลดลงจากระดับ 7.604 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย.
- ญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนต่างประเทศรายใหญ่ที่สุด และเพิ่มสัดส่วนการถือครองขึ้นเป็น 1.098 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมากที่สุดตั้งแต่เดือนส.ค. และเพิ่มขึ้นจาก 1.086 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย.
- จีนยังคงลดสัดส่วนการถือครองลงสู่ระดับ 7.70 แสนล้านดอลลาร์ ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2009 แต่จีนก็ยังคงเป็นนักลงทุนต่างประเทศที่ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากที่สุดเป็นอันดับสอ
- ปอนด์ดิ่งลงหลังอังกฤษเผยอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงแตะต่ำสุด 2 ปี หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษลดลงในเดือนพฤศจิกายนและต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,082.00 จุด ลดลง 475.92 จุด หรือ -1.27%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,698.35 จุด ลดลง 70.02 จุด หรือ -1.47%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,777.94 จุด ลดลง 225.28 จุด หรือ -1.50%
- สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การชอปปิงออนไลน์ในสหรัฐฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงฤดูกาลวันหยุดยาวปีนี้ หลังซบเซาลงต่ำกว่าช่วงโควิด-19 ระบาดเป็นเวลา 2 ปี โดยผลสำรวจ All-America Economic Survey ของซีเอ็นบีซีพบว่า 57% ของชาวอเมริกันยกให้การชอปปิงออนไลน์เป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 และ 2 ในการซื้อของขวัญคริสต์มาส
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีที่ระดับ 3.45% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีไว้ที่ระดับ 4.20% ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ PBOC ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย LPR หลังจากมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนที่ระดับ 2.5% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบจำนวน 8 แสนล้านหยวน (1.12 แสนล้านดอลลาร์) ผ่านทางโครงการ MLF และกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ระดับ 2.5%
- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 7.769 แสนล้านเยน ในเดือนพ.ย. หลังยอดส่งออกลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ทั้งนี้ ยอดส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนพ.ย.ลดลง 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 8.82 ล้านล้านเยน ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนพ.ย. ลดลง 11.9% แตะระดับ 9.60 ล้านล้านเยน ยอดขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นลดลง 62.2% จากระดับปีก่อนหน้า เนื่องจากการนำเข้าพลังงานปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ราคาน้ำมันดิบ ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติเหลวที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากรและต้องพึ่งพาการนำเข้าเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานภายในประเทศ
- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษ ปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ โดยลดลงสู่ระดับ 3.9% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2564
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันพุธ โดยตลาดยังคงได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันและการค้าโลกอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดงถูกโจมตีโดยกลุ่มกบฏฮูตี แต่แรงบวกของราคาน้ำมันถูกสกัดโดยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.38% ปิดที่ 74.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.59% ปิดที่ 79.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ราคาน้ำมัน WTI และน้ำมันเบรนท์พุ่งขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์ หลังจากมีรายงานว่าเรือบรรทุกสินค้ารายใหญ่เลือกที่จะหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านทะเลแดง ซึ่งทำให้การขนส่งสินค้าใช้เวลานานขึ้นและต้นทุนการประกันก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย
- ราคาน้ำมันลดช่วงลบในเวลาต่อมา หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า จนถึงขณะนี้กลุ่มบริษัทเดินเรือได้เปลี่ยนเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้ากว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเลี่ยงทะเลแดงแล้ว เนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย หลังเรือพาณิชย์หลายลำถูกกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนโจมตีเมื่อไม่นานมานี้
- ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐได้เปิดระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลไตรภาคีแบบเรียลไทม์อย่างเต็มรูปแบบเพื่อการติดตามขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ หลังทางการเกาหลีเหนือยืนยันว่าได้มีการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM)
- อิสราเอลเผชิญแรงกดดันให้หยุดยิงในฉนวนกาซาจากทั่วโลกอีกครั้ง โดยจะมีการลงมติครั้งใหม่ของสหประชาชาติ (UN) และความพยายามทางการทูตครั้งใหม่ของชาติตะวันตก แม้สหรัฐให้สัญญาว่าจะส่งมอบอาวุธให้อิสราเอลต่อไปก็ตาม
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดเช้านี้ ที่ระดับ 34.98 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.90 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.85-35.10 บาทต่อดอลลาร์
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง