• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 28 ธันวาคม 2566

    28 ธันวาคม 2566 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 9.41 เหรียญ หรือ 0.46% อยู่ที่ระดับ 2,077.12 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 23.30 เหรียญ หรือ 1.13% ปิดที่ 2,093.10 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 24.50 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 24.641 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 19 เหรียญ หรือ 1.91% ปิดที่ 1,014.60 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 3.46 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 881.71 ตันภาพรวมเดือนธันวาคม ซื้อสุทธิ 5.2 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 35.93 ตัน


  • ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังจากดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ออกมาต่ำกว่าคาดในเดือนพ.ย. โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 73.9% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค. 2567


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.68 จุด หรือ -0.67% มาอยู่ที่ระดับ 100.87 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.11 % มาอยู่ที่ระดับ 3.789% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.11 % มาอยู่ที่ระดับ 4.246% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.46% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • นายโรเบิร์ต แคปแลน อดีตประธานเฟดสาขาดัลลัส คาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า เนื่องจากเฟดต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย และเฟดต้องการหลีกเลี่ยงการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากเกินไป ทำให้เฟดจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหากเงินเฟ้อยังคงชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง


  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปความคิดเห็นของกรรมการ BOJ โดยระบุว่า ในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 18-19 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น กรรมการ BOJ บางคนได้เรียกร้องให้มีการอภิปรายเพิ่มเติมและหารือกันในระดับลึก เกี่ยวกับการยุตินโยบายผ่อนคลายการเงินแบบพิเศษ (Ultra-loose Monetary Policy) ในอนาคต ในขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นจนทำให้ BOJ ใกล้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ


  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยว่า จะลดจำนวนรวมในปฏิบัติการซื้อพันธบัตรตามปกติในไตรมาสเดือนม.ค.-มี.ค. โดยบีโอเจมีแผนจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปีมูลค่าระหว่าง 4.00 แสนล้านเยน ถึง 9.00 แสนล้านเยนในการประมูลแต่ละครั้งในไตรมาสที่จะถึงนี้ เทียบกับกรอบ 4.50-9.00 แสนล้านเยนในไตรมาสก่อน


  • ราคาบิตคอยน์ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 42,000 ดอลลาร์ในช่วงเช้าเมื่อวานนี้ ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) จะอนุญาตให้บริษัทหลายแห่งจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ภายในเดือนม.ค.ปีหน้า ซึ่งจะเป็นการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ครั้งแรกในสหรัฐ


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ ขณะที่ดัชนี S&P500 เคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยตลาดยังคงได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.ปีหน้า


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,656.52 จุด เพิ่มขึ้น 111.19 จุด หรือ +0.30%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,781.58 จุด เพิ่มขึ้น 6.83 จุด หรือ +0.14% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,099.18 จุด เพิ่มขึ้น 24.60 จุด หรือ +0.16%


  • นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยในปีนี้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่เกิดขึ้น และในช่วงใกล้สิ้นปี 2566 บรรดาผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังมีสิทธิ์ถดถอยในปีหน้า อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางส่วนยังมีมุมมองเชิงบวกว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถเลี่ยงภาวะถดถอยได้ในปี 2567 โดยแบงก์ ออฟ อเมริกาคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิ้ง (soft landing) แทนที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แม้ว่ายังมีปัจจัยเสี่ยงขาลงก็ตาม


  • จากการสำรวจของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NABE) ในเดือนธ.ค. พบว่า นักเศรษฐศาสตร์มากกว่า 3 ใน 4 หรือ 76% คิดว่าโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้าคือ 50% หรือน้อยกว่านั้น ส่วนบรรดานักเศรษฐศาสตร์ที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะถอดถอยนั้น พบว่า 40% เชื่อว่าเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐจะเริ่มต้นในไตรมาสแรกของปีหน้า ขณะที่ 34% คิดว่าอาจเริ่มในไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า


  • สำนักงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลางสหรัฐเปิดเผยว่า ราคาบ้านในเดือนต.ค.ปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวต่อเนื่องของตลาดที่อยู่อาศัย โดยราคาบ้านเพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบรายปี จาก 6.2% ในเดือนก.ย.


  • จีนเปิดเผยว่า ผลกำไรภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลักในเดือนพ.ย. ขณะที่การผลิตโดยรวมปรับตัวดีขึ้น แต่ภาวะอุปสงค์อ่อนแอยังคงจำกัดการคาดการณ์การขยายธุรกิจ ซึ่งสนับสนุนการเรียกร้องให้มีการออกนโยบายเชิงสนับสนุนมากขึ้น ทั้งนี้ ผลกำไรเพิ่มขึ้น 29.5% ในเดือนพ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนต.ค. ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย.เช่นกัน แต่ภาคส่วนอื่นๆยังคงต่ำกว่าคาด


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • ซีอีโอของรอสเทค (rosetec) กลุ่มบริษัทด้านกลาโหมของรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียจะส่งปืนใหญ่รุ่นใหม่ล่าสุดประจำการบริเวณเขตทหารทางตอนเหนือซึ่งมีพรมแดนติดกับฟินแลนด์และนอร์เวย์


  • ซีเอ็มเอ ซีจีเอ็ม (CMA CGM) ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งรายใหญ่จากฝรั่งเศส วางแผนที่จะทยอยเพิ่มจำนวนเรือขนส่งสินค้าผ่านช่องแคบสุเอซ หลังพิจารณาสถานการณ์ความรุนแรงในทะเลแดงจากกรณีที่กลุ่มกบฎฮูตีในเยเมนโจมตีเรือขนส่งสินค้าที่เดินทางผ่านเส้นทางดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 2% ในวันพุธ หลังจากมีรายงานว่าเรือขนส่งสินค้าจะเริ่มกลับมาเดินเรือในทะเลแดงอีกครั้ง ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในทะเลแดง


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1.46 ดอลลาร์ หรือ 1.93% ปิดที่ 74.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1.42 ดอลลาร์ หรือ 1.75% ปิดที่ 79.65 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • เมอส์ก (Maersk) ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือรายใหญ่สัญชาติเดนมาร์ก, ซีเอ็มเอ ซีจีเอ็ม (CMA CGM) ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งรายใหญ่ของฝรั่งเศส และบริษัทฮาแพค-ลอยด์ (Hapag-Lloyd) ของเยอรมนี ประกาศว่าจะกลับมาเดินเรือในทะเลแดงอีกครั้ง หลังจากสหรัฐและชาติพันธมิตรอีกกว่า 10 ประเทศได้เปิดปฏิบัติการผู้พิทักษ์ความเจริญรุ่งเรือง (Operation Prosperity Guardian) เพื่อปกป้องเส้นทางเดินเรือในทะเลแดงจากการโจมตีของกลุ่มฮูตี


  • กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐได้ซื้อน้ำมันดิบจำนวน 3 ล้านบาร์เรลเพื่อเติมเต็มคลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐ (SPR) หลังรัฐบาลสหรัฐได้จำหน่ายน้ำมันครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2565


  • สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.84 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้


  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของรัสเซีย กล่าวว่า ปีนี้รัสเซียส่งออกน้ำมันและปิโตรเลียมประมาณครึ่งหนึ่งไปยังจีน ในขณะที่ใช้เวลาเพียง 2 ปี ปัจจุบันการส่งออกไปยังอินเดียได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 40% โดยการส่งออกน้ำมันดิบรัสเซียไปยังยุโรปได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยลดลงจากประมาณ 40%-50% เหลือเพียง 4%-5% เท่านั้น

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดเช้านี้ ที่ระดับ  34.28 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.38 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.15-34.40 บาทต่อดอลลาร์





ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com