ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ โดยถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นซึ่งสกัดกั้นแรงซื้อทอง เพราะทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ๆ ขณะที่นักลงทุนมีความกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -17.95 เหรียญ หรือ -0.87% อยู่ที่ระดับ 2,041.29 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 30.60 เหรียญ หรือ 1.48% ปิดที่ 2,042.80 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 79.60 เซนต์ หรือ 3.32% ปิดที่ 23.157 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 11.20 เหรียญ หรือ 1.12% ปิดที่ 987.10 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 4.33 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 874.21 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 4.9 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 4.9 ตัน
- นักยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสของ Bloomberg Intelligence กล่าวเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจมหภาคยังคงตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ราคาทองคำจึงมีแนวโน้มที่จะแตะระดับสูงสุดใหม่ในปี 2024 และยังมีศักยภาพที่จะแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์ได้
- หน่วยงานวิจัยของฟิทช์ โซลูชันส์ คาดการณ์ว่า ราคาทองแดงในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นมากกว่า 75% ในอีก 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากมีแนวโน้มจะเกิดภาวะชะงักงันด้านอุปทานและอุปสงค์ทองแดงปรับตัวเพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากมาตรการผลักดันให้มีการใช้พลังงานทดแทน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.3 จุด หรือ 0.29% มาอยู่ที่ระดับ 102.45 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 3.92% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.333% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.41% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- นายโทมัส บาร์กิน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เผชิญภาวะถดถอย แต่จะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิ้ง อย่างไรก็ดี นายบาร์กินกล่าวว่า เฟดยังคงมีทางเลือกในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้มีความคืบหน้าในการชะลอเงินเฟ้อ
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปีที่แล้ว นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังถูกกดดันจากการที่รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ช่วยให้นักลงทนุมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,430.19 จุด ลดลง 284.85 จุด หรือ -0.76%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,704.81 จุด ลดลง 38.02 จุด หรือ -0.80%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,592.21 จุด ลดลง 173.73 จุด หรือ -1.18%
- บริษัทสหรัฐที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสูงระดมทุนกว่า 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในการออกหุ้นกู้เมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นกู้เอกชนเริ่มต้นปีใหม่อย่างแข็งแกร่ง ขณะที่บริษัทใช้ความต้องการจากนักลงทุนที่คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงในปีนี้
- คริสตาลินา จอร์จิเอวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า ชาวอเมริกันควรรู้สึกดีใจกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อจะลดลงอีกในปีนี้ท่ามกลางตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง
- นักวิเคราะห์กล่าวว่า “ตลาดต้องการความชัดเจนว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใดและปรับลดลงมากเพียงใด แต่เฟดไม่ได้พูดถึงในรายงานการประชุมครั้งนี้ ซึ่งการส่งสัญญาณที่ไม่ชัดเจนเช่นนี้ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลและเทขายหุ้นออกมา ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ตลาดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เกิดจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปี 2566 และจากการที่นักลงทุนปรับโพสิชั่นในช่วงปีใหม่”
- กระทรวงการคลังสหรัฐรายงานว่า หนี้สาธารณะทั้งหมดของรัฐบาลกลางสหรัฐแตะ 34 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสกำลังเผชิญกับการต่อสู้เพื่อหาเงินทุนสนับสนุนรัฐบาลกลางอีกครั้งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า สภาคองเกรสจะเปิดสมัยการประชุมสภาอีกครั้งในสัปดาห์หน้าเพื่อจัดการกับกำหนดเส้นตายในวันที่ 19 ม.ค.และ 2 ก.พ.เพื่อทำข้อตกลงงบรายจ่ายของรัฐบาลจนถึงเดือนก.ย.
- ธนาคารชั้นนำของจีนบางแห่งได้เพิ่มการตรวจสอบคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทที่มีรายย่อยและมีมาตรฐานที่เข้มงวดขึ้นสำหรับการกู้ยืมระหว่างธนาคาร ในความพยายามที่จะลดความเสี่ยงด้านเครดิต ในขณะที่วิกฤตหนี้ด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นส่งผลกระทบผ่านระบบเศรษฐกิจ
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนเน้นย้ำความสำคัญของการเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาที่จะเกิดขึ้นในไต้หวันในวันที่ 13 ม.ค.นี้ โดยมองว่าเป็นการตัดสินใจเลือกระหว่างสันติภาพกับสงคราม ความมั่งคั่งกับความเสื่อมโทรม พร้อมเรียกร้องให้ชาวไต้หวัน “เลือกทางที่ถูกต้อง”
- กองบัญชาการกลางสหรัฐ (U.S. Central Command) หรือ CENTCOM เปิดเผยว่า กลุ่มกบฏฮูตีได้ยิงขีปนาวุธต่อต้านเรือจำนวน 2 ลูกลงสู่ทะเลแดงทางตอนใต้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานความเสียหายแต่อย่างใด
- สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า สถานการณ์ตึงเครียดในทะเลแดงยังคงสร้างภัยคุกคามต่อการค้าโลกในระดับสูง แม้ว่าจะมีความพยายามในการปกป้องเรือพาณิชย์จากการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ซึ่งได้รับการหนุนหลังจากอิหร่านก็ตาม
- บริษัทเมอส์ก (Maersk) ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือรายใหญ่สัญชาติเดนมาร์กตัดสินใจในวันอังคารที่ผ่านมา ว่าจะระงับการเดินเรือผ่านทะเลแดงและอ่าวเอเดนจนกว่าจะมีประกาศแจ้งเพิ่มเติม
- กลุ่มติดอาวุธฮามาสระบุว่า ผู้นำอาวุโสของกลุ่มถูกสังหารจากเหตุระเบิดในเมืองเบรุตของเลบานอน ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลระลอกใหม่เกี่ยวกับการสู้รบในฉนวนกาซาที่อาจทวีความรุนแรงมากขึ้น
- หน่วยข่าวกรองของสหรัฐเปิดเผยว่า กลุ่มติดอาวุธฮามาสและกลุ่มญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ที่กำลังต่อสู้กับอิสราเอล ได้ใช้โรงพยาบาลอัลซิฟา (Al Shifa) ในฉนวนกาซาเป็นหน่วยบัญชาการเพื่อสั่งการกองกำลังและจับตัวประกันบางส่วน แต่อพยพได้ทันก่อนที่กองทัพอิสราเอลจะเปิดฉากเข้าบุก
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันพุธ หลังจากมีรายงานว่า ลิเบียซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) สั่งปิดบ่อน้ำมันชารารา (Sharara) เนื่องจากการประท้วงของคนงาน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังพุ่งขึ้นเนื่องจากความกังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะทวีความรุนแรงมากขึ้นและจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมั้นในตลาดโลก
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.32 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 72.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.36 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 78.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
- นักวิเคราะห์จากบริษัท OANDA กล่าวว่า ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นหลังมีรายงานว่าลิเบียทำการปิดบ่อน้ำมันชาราราซึ่งมีกำลังการผลิต 300,000 บาร์เรล/วัน เนื่องจากประสบปัญหาการประท้วงของคนงาน นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและทะเลแดงยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นด้วย
- สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานซาอุดิอาระเบียอาจลดราคาพรีเมียมของเกรดน้ำมันดิบทั้งหมดที่ขายให้กับเอเชียในเดือนกุมภาพันธ์ให้เหลือต่ำสุดในรอบหนึ่งปี แม้ว่าความตึงเครียดในทะเลแดงจะทวีความรุนแรงขึ้นก็ตาม เนื่องจากความกังวลทวีความรุนแรงขึ้นว่าอุปทานอาจแซงหน้าอุปสงค์
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดเช้านี้ ที่ระดับ 34.45 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.32 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.30-34.60 บาทต่อดอลลาร์
- เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยันเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แม้จะไม่เป็นไปตามคำแนะนำของคณะกรรมการกฤษฎีกา เพราะอาจเป็นเพียงข้อเสนอแนะเท่านั้น แต่รัฐบาลเชื่อว่าทั้งหมดดำเนินการถูกต้องอยู่แล้ว อาจมีข้อแนะนำว่ามีข้อควรระมัดระวังเรื่องใดบ้าง ซึ่งจะทำให้กฎหมายที่ออกมาเกิดความสมบูรณ์มากขึ้น และยังยืนยันเป้าหมายเดิมที่จะให้โครงการออกมาในเดือน พ.ค.67
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง