ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 13.58 เหรียญ หรือ 0.67% อยู่ที่ระดับ 2,032.53 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 8.50 เหรียญ หรือ 0.42% ปิดที่ 2,044.60 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 37.90 เซนต์ หรือ 1.66% ปิดที่ 23.251 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 17.00 เหรียญ หรือ 1.85% ปิดที่ 938.30 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.16 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 854.89 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 24.22 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 24.22 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.04 จุด หรือ -0.04% มาอยู่ที่ระดับ 103.43 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.078% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.32% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.24% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- นักวิเคราะห์จากเมย์แบงก์ ระบุว่า ไม่สามารถตัดทิ้งความเป็นไปได้เล็กน้อยที่เฟดจะมีการคุมเข้มนโยบายการเงินอีกครั้ง หากเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าคาดเนื่องจากผลกระทบจากภูมิรัฐศาสตร์, เศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวสูงกว่าคาด
- นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้
- สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อีซีบีจำเป็นจะต้องได้เห็นหลักฐานก่อนว่า ค่าแรงชะลอการปรับขึ้นในยูโรโซน ก่อนที่อีซีบีจะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,333.45 จุด เพิ่มขึ้น 224.02 จุด หรือ +0.59%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,927.93 จุด เพิ่มขึ้น 36.96 จุด หรือ +0.76%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,628.04 จุด เพิ่มขึ้น 172.68 จุด หรือ +1.12%
- นักลงทุนทั่วโลกลดสัดส่วนการถือครองกองทุนหุ้นในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ม.ค. โดยพวกเขาระมัดระวังก่อนการเปิดเผยรายงานเงินเฟ้อของสหรัฐเมื่อวันศุกร์ และก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจจะกำหนดการคาดการณ์เกี่ยวกับอัตราและขอบเขตการลดดอกเบี้ยของเฟด
- นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า จีนอาจจะเผชิญภาวะเงินฝืดอย่างต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน เนื่องจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงและวิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
- ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ทำเนียบขาวกล่าวว่า สหรัฐเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบบ้างจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของจีน และปัญหาที่กระทบการเดินเรือในทะเลแดง แต่ก็ดูเหมือนว่าความเสี่ยงดังกล่าวถูกจำกัดไว้แล้ว และเศรษฐกิจสหรัฐก็ กลับมาดูดีขึ้น
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- 6 ประเทศในยุโรปได้ระงับการให้เงินสนับสนุนแก่สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) หลังจาก UNRWA ถูกกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่บางส่วนของ UNRWA มีส่วนเกี่ยวข้องในปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลของกลุ่มติดอาวุธฮามาสชาวปาเลสไตน์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว
- รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอล กล่าวว่า สงครามกับกลุ่มฮามาสอาจกินเวลานานถึง “10 ปี หรือกระทั่งชั่วอายุคนด้วยซ้ำ” และรับทราบถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกคุมขังในฉนวนกาซา
- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กำลังถูกกดดันให้ต้องเผชิญหน้ากับอิหร่าน หลังกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนโดยอิหร่านยิงโดรนโจมตีฐานทัพของสหรัฐในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของจอร์แดน ใกล้กับชายแดนซีเรีย ส่งผลให้ทหารสหรัฐเสียชีวิต 3 รายและได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 34 ราย โดยปธน.ไบเดนเชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน และประกาศว่าจะใช้ปฏิบัติการตอบโต้ในเรื่องนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลให้วิกฤตการณ์ในตะวันออกกลางลุกลามเป็นวงกว้าง
- สมาชิกสภาคองเกรสหลายรายต่างเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีคำสั่งให้โจมตีอิหร่านเพื่อเป็นการตอบโต้ โดยนายลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกจากรัฐเซาท์แคโรไลนากล่าวว่า “ผมขอเรียกร้องให้ปธน.ไบเดนออกคำสั่งให้โจมตีเป้าหมายในอิหร่าน ไม่ใช่เพียงเพื่อตอบโต้ต่อการที่ทหารสหรัฐเสียชีวิต แต่เพื่อป้องปรามการรุกรานที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต”
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลว่า วิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนจะฉุดเศรษฐกิจให้อ่อนแอลงและส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.23 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 76.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 82.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ในช่วงแรกนั้น ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้น 1.5% ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจจะลุกลามเป็นวงกว้าง แต่ราคาน้ำมันอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าวิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน หลังจากศาลสูงฮ่องกงมีคำสั่งให้บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีน ยุติกิจการและขายสินทรัพย์เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ที่สูงถึง 2.39 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 3.33 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
- นักลงทุนยังรอดูการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ในวันนี้ ก่อนที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการวันพุธ
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้เปิดที่ระดับ 35.38 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นมาก”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.58 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.25-35.55 บาทต่อดอลลาร์
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประกาศตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 อยู่ที่ 1.4% ทำให้ทั้งปี 2566 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพียง 1.8% นับว่าต่ำมาก
- รมช. คลัง เผยว่า เศรษฐกิจไทยขณะนี้อยู่ในภาวะถดถอย จากภาระหนี้ครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง ทำให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นไปได้ยาก และเศรษฐกิจเติบโตต่ำต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องออกโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต มาเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
- Krungthai Compass ประเมินว่า ปัญหาการสู้รบในทะเลแดงที่ยืดเยื้อ มีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อการส่งออกในปี 2567 โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าไปยังยุโรป การโจมตีเรือสินค้าที่ผ่านเส้นทางทะเลแดง โดยกลุ่มกบฏฮูตีที่ยังไม่ยุตินั้น ส่งผลให้ค่าระวางเรือปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะบริษัทขนส่งหลายแห่งต้องเดินเรืออ้อมไปยังแหลมกู๊ดโฮป ทั้งนี้ การส่งออกไทยไปยุโรป เดือน ธ.ค.66 หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน และปี 2566 หดตัว -4.2%
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง