ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณว่าคณะกรรมการเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 4.14 เหรียญ หรือ 0.2% อยู่ที่ระดับ 2,036.67 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 6.30 เหรียญ หรือ 0.31% ปิดที่ 2,050.90 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 2.60 เซนต์ หรือ 0.11% ปิดที่ 23.225 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 6.60 เหรียญ หรือ 0.70% ปิดที่ 931.70 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.01 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 852.88 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 26.23 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 26.23 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.02 จุด หรือ -0.02% มาอยู่ที่ระดับ 103.41 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.036% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.339% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.3% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- นักกลยุทธ์จากโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกำลังช่วยให้ตลาดหุ้นสหรัฐต้านทานการปรับตัวขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้ แต่นั่นก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าหากปัจจัยนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น หรือถ้าผลตอบแทนปรับขึ้นเร็วเกินไป
- นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งนี้
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปี ร่วงลงแตะระดับ 2.47% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2545 หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงิน ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างเปราะบาง และตลาดหุ้นที่ถูกเทขายอย่างหนัก
- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงิน ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโบาย และอาจจะปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีกในไตรมาส 1 และในไตรมาส 3 ปีนี้ หลังจากที่ได้ปรับลด RRR ลง 0.50% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินในระยะยาวไหลเข้าสู่ระบบจำนวน 1 ล้านล้านหยวน
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ก่อนที่ตลาดจะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงอัลฟาเบทและไมโครซอฟท์
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,467.31 จุด เพิ่มขึ้น 133.86 จุด หรือ +0.35%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,924.97 จุด ลดลง 2.96 จุด หรือ -0.06% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,509.90 จุด ลดลง 118.15 จุด หรือ -0.76%
- กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานของญี่ปุ่นลดลงเหลือ 2.4% โดยมีจำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้น 380,000 รายเมื่อเทียบเป็นรายปี เพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่ 17 ติดต่อกัน ส่วนอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ การผลิต ที่พัก และบริการอาหาร
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- สำนักข่าวหลายแห่งของรัสเซียรายงานว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียสามารถทำลายหรือยิงสกัดโดรนที่ยูเครนส่งเข้ามาได้ 21 ลำเหนือคาบสมุทรไครเมียและในแคว้นต่าง ๆ ของรัสเซีย
- สหรัฐและอังกฤษประกาศคว่ำบาตรเครือข่าย 11 บุคคลที่วางแผนลอบสังหารผู้เห็นต่างและนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านของอิหร่าน
- กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐขายยุทโธปกรณ์ให้กับรัฐบาลต่างชาติเพิ่มขึ้น 16% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.38 แสนล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2566 ในขณะที่ประเทศต่าง ๆ พยายามเติมสต๊อกหลังส่งอาวุธไปให้ยูเครนและเตรียมพร้อมสำหรับความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้น
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มตึงเครียดมากขึ้น
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.35% ปิดที่ 77.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.57% ปิดที่ 82.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น หลังจาก IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.1% ในปี 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนต.ค.ที่ระดับ 2.9% โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และมาตรการกระตุ้นด้านการคลังของจีน
- IMF ระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ว่า มีแนวโน้มลดน้อยลงที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญภาวะ “ฮาร์ดแลนดิ้ง” แม้มีความเสี่ยงครั้งใหม่จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้น และปัญหาห่วงโซ่อุปทานท่ามกลางความผันผวนจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง
- ซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ประกาศว่าซาอุดี อารามโคได้ระงับแผนเพิ่มขีดความสามารถการผลิตน้ำมันดิบจาก 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 13 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางความไม่แน่ใจเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันในอนาคต
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้เปิดที่ระดับ 35.37 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.25-35.55 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนตลาดรับรู้ผลการประชุมเฟด และประเมินกรอบเงินบาทในช่วง 35.10- 35.80 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมเฟด
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 67 การเติบโตของสินเชื่อยังจำกัดในกรอบ 2.5-3.5% จากปี 66 ที่ขยายตัวเพียง 0.2% ซึ่งยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยการเติบโตของสินเชื่อที่ 4.2% ในช่วงระยะ 5 ปีก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 โดยประเมินว่า แรงกดดันจากการชำระคืนสินเชื่อดังที่เห็นในช่วงหลังโควิด-19 ในปี 65-66 น่าจะทยอยผ่อนคลายลงในปี 67
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง