ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 4%
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 15.67 เหรียญ หรือ 0.77% อยู่ที่ระดับ 2,054.83 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 3.70 เหรียญ หรือ 0.18% ปิดที่ 2,071.10 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 6.70 เซนต์ หรือ 0.29% ปิดที่ 23.236 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 10.30 เหรียญ หรือ 1.10% ปิดที่ 922.30 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 0.57 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 851.72 ตันภาพรวมเดือนกุมภาพันธ์ ซื้อสุทธิ 0.57 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 27.39 ตัน
- สภาทองคำโลก (WGC) คาดการณ์ว่า อุปสงค์ทองคำในประเทศอินเดียจะซบเซาลงในไตรมาส 1/2567 เนื่องจากยอดขายเครื่องประดับชะลอตัวลง แต่คาดว่าอุปสงค์ตลอดทั้งปี 2567 จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคปรับตัวรับราคาทองคำที่สูงขึ้น
- WGC ระบุว่า ธนาคารกลางทั่วโลกได้เข้าซื้อทองคำเพิ่มในระบบทุนสำรองในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเข้าซื้อต่อเนื่องในปี 2566 เราคาดว่า ธนาคารกลางจะเดินหน้าซื้อทองคำต่อไปในปี 2567 โดยผลสำรวจล่าสุดของ WGC พบว่า ธนาคารกลางทั่วโลกจะซื้อทองคำเข้าสู่ระบบทุนสำรองอีก 24% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
- สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยรายงานทิศทางอุปสงค์ทองคำประจำปี 2566 ซึ่งระบุว่า จีนซื้อทองคำพุ่งทะยานขึ้น 30% ในปี 2566 เนื่องจากธนาคารกลางจีน (PBOC) เดินหน้าซื้อทองคำเพื่อแทนที่การถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ ขณะที่เหล่านักลงทุนก็แสวงหาสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำหลังเศรษฐกิจจีนชะลอตัว
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.52 จุด หรือ -0.5% มาอยู่ที่ระดับ 102.99 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 3.884% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 4.207% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.32% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- โกลด์แมน แซคส์ได้เลื่อนคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มการลดอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นเดือนพ.ค.จากเดือนมี.ค. หลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดส่งสัญญาณเลื่อนการลดดอกเบี้ย
- ต้นทุนแรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในไตรมาส 4 และอัตราการเพิ่มขึ้นรายปีก็ต่ำสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงว่า เงินเฟ้อค่าจ้างชะลอตัวลง ซึ่งอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสที่จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนมิ.ย.
- ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลี (บีโอเค) กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนนโยบายของบีโอเคไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ยอาจจะถูกชะลอออกไปก่อน ถ้าหากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เลื่อนกำหนดการผ่อนคลายนโยบายการเงินท่ามกลางเศรษฐกิจที่ขยายตัวแข็งแกร่ง
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี โดยตลาดฟื้นตัวหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ซึ่งรวมถึงแอปเปิ้ล และเมตา แพลตฟอร์มส์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากเฟดส่งสัญญาณในการประชุมครั้งล่าสุดว่าจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,519.84 จุด เพิ่มขึ้น 369.54 จุด หรือ +0.97%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,906.19 จุด เพิ่มขึ้น 60.54 จุด หรือ +1.25%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,361.64 จุด เพิ่มขึ้น 197.63 จุด หรือ +1.30%
- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 357 ต่อ 70 เสียงในการผ่านร่างกฎหมายลดหย่อนภาษีสำหรับภาคธุรกิจและครอบครัวชาวอเมริกันที่มีรายได้ต่ำ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งมีวงเงิน 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์จะช่วยสนับสนุนบริษัทสหรัฐทั้งในด้านเงินทุนและการใช้จ่ายด้านงานวิจัยภายในประเทศ อีกทั้งยังอาจช่วยปูทางให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งในปีนี้ด้วย
- รมช.คลังจีนกล่าวว่า จีนจะรักษาการขยายทางการคลังในปีนี้เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการตอกย้ำมุมมองของตลาดที่ว่า งบรายจ่ายของภาครัฐจะเป็นเครื่องมือหลักของรัฐบาลในการหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
- ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยหอการค้าอเมริกันในประเทศจีน (AmCham China) ระบุว่า บริษัทสหรัฐที่ดำเนินธุรกิจในจีนมีมุมมองในเชิงบวกมากขึ้นต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในระยะสั้น แม้ว่าบริษัทหลายแห่งยังคงระงับการลงทุนก็ตาม
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ขณะนี้กำลังมีการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงพักรบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส รวมถึงปล่อยตัวพลเรือนที่ถูกกลุ่มฮามาสจับไว้เป็นตัวประกัน โดยข้อตกลงนี้อาจเป็นก้าวสำคัญในการยุติความขัดแย้งที่ดำเนินมานานร่วม 4 เดือน
- ชาวอเมริกันมากกว่า 60 รายที่ตกเป็นเหยื่อในเหตุการณ์โจมตีของกลุ่มฮามาสในอิสราเอล และครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกสังหาร หรือถูกจับเป็นตัวประกันในเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ยื่นฟ้องร้องอิหร่าน และเรียกร้องเงินชดเชย 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โทษฐานที่อิหร่านให้การสนับสนุนกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มที่สหรัฐและสหภาพยุโรปขึ้นบัญชีเป็นองค์กรก่อการร้าย
- โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐกำลังดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์อิสระ พร้อมด้วยการรับประกันความมั่นคงของอิสราเอล และกำลังสำรวจทางเลือกต่าง ๆ กับชาติพันธมิตรในภูมิภาค
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี หลังจากมีรายงานว่าการเจรจาพักรบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสมีความคืบหน้า ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทำให้สงครามการสู้รบของทั้งสองฝ่ายยุติลง
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 2.03 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 73.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.85 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 78.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
- คณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้จัดการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงนโยบายการผลิตของโอเปกพลัส หลังจากมีการพิจารณาข้อมูลในเดือนพ.ย.และธ.ค.2566 ทั้งนี้ การคงนโยบายการผลิตดังกล่าว ส่งผลให้โอเปกพลัสยังคงปรับลดกำลังการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรล/วันในไตรมาสแรกของปี 2567 ซึ่งเป็นไปในลักษณะของการสมัครใจของประเทศสมาชิก ขณะที่ซาอุดีอาระเบียปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วัน
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.30 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.45 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.20-35.45 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ
- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เผยหนี้สาธารณะคงค้างไทย ณ สิ้นเดือนธ.ค. อยู่ที่ 11.085 ล้านล้านบาท คิดเป็น 61.34% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวม เดือนม.ค.67 อยู่ที่ 48.0 ลดลงจาก 49.1 ในเดือนธ.ค.66 ตามการลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะด้านต้นทุน สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิต ปรับลดลงในเกือบทุกหมวดธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มการค้าที่ความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อลดลงมาก หลังจากเร่งไปในช่วงเทศกาลปลายปี ขณะที่ความเชื่อมั่นในภาคการผลิต ทรงตัวอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนความเชื่อมั่นที่แย่ลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยความเชื่อมั่นของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับลดลงมาก โดยเฉพาะด้านต้นทุน ตามค่าขนส่งที่สูงขึ้นจากสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณทะเลแดง
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง