ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการชะลอตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 10.99 เหรียญ หรือ 0.54% อยู่ที่ระดับ 2,035.88 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 8.50 เหรียญ หรือ 0.42% ปิดที่ 2,051.40 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 5.60 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 22.478 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 7.50 เหรียญ หรือ 0.83% ปิดที่ 911.00 เหรียญ
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 4.70 เหรียญ หรือ 0.5% ปิดที่ 951.40 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 4.03 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 847.69 ตันภาพรวมเดือนกุมภาพันธ์ ขายสุทธิ 3.46 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 31.42 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.28 จุด หรือ -0.27% มาอยู่ที่ระดับ 104.15 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.102% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.07 % มาอยู่ที่ระดับ 4.408% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.31% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- นายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐแห่งฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยชี้ไปที่อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงและตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่ง
- ยูบีเอสคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. หลังจากที่เฟดได้ตัดทิ้งโอกาสการลดดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.แล้ว และข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวไวในตลาดแรงงาน
- นายนีล แคชคารี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนิอาโปลิสกล่าวว่า เศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และอัตราดอกเบี้ยเป็นกลางที่อาจสูงขึ้น โดยเฟดสามารถใช้เวลาก่อนที่จะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงลงได้ เนื่องจากมีความเสี่ยงน้อยลงต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในขณะนี้
- นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์กล่าวว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในทิศทางที่เธอคาดการณ์ไว้ ก็อาจเปิดทางให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่นางเมสเตอร์กล่าวว่าขณะนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะระบุช่วงเวลาของการผ่อนคลายนโยบายการเงิน เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงมีความไม่แน่นอน
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กำลังเตรียมที่จะยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในเดือนเม.ย. และจะปรับเปลี่ยนส่วนอื่น ๆ ในนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษด้วย แต่บีโอเจมีแนวโน้มที่จะคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงหลังจากนั้นท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร โดยตลาดฟื้นตัวหลังจากที่ร่วงลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนประเมินการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟด
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,521.36 จุด เพิ่มขึ้น 141.24 จุด หรือ +0.37%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,954.23 จุด เพิ่มขึ้น 11.42 จุด หรือ +0.23%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,609.00 จุด เพิ่มขึ้น 11.32 จุด หรือ +0.07%
- องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวในปีนี้ได้ดีกว่าคาดไว้เมื่อ 2-3 เดือนก่อนอย่างแน่นอน เนื่องจากแนวโน้มที่ดีขึ้นในสหรัฐช่วยชดเชยภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของยูโรโซน
- องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ระบุว่า ต้นทุนค่าขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นจากผลพวงของความตึงเครียดในทะเลแดงจะขัดขวางประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่กำลังต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อ
- ดอยซ์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของเยอรมนี ปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง และตลาดแรงงานก็กลับสู่ภาวะสมดุลที่ดีขึ้น โดยอัตราการว่างงานไม่ได้เพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ
- แหล่งข่าวเปิดเผยว่า บรรดาหน่วยงานกำกับดูแลตลาดเงินของจีนเตรียมสรุปสถานการณ์เกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงแห่งประเทศจีนรับทราบ ซึ่งตอกย้ำถึงความเร่งด่วนในการพยุงตลาดหุ้นที่ทรุดตัวลงของจีน
- รัฐบาลญี่ปุ่น ระบุว่า ค่าจ้างที่แท้จริงของญี่ปุ่นปรับลดลง 2.5% ในปี 2566 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นปีที่ 2 เนื่องจากเงินเดือนเพิ่มขึ้นไม่ทันเงินเฟ้อ
- กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่น (MIC) เปิดเผยข้อมูลว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่น ลดลง 2.5% ในเดือนธ.ค. 2566 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยลดลงเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวว่า คณะทำงานของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ส่งคณะตัวแทนเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการคลัง 5 คน เดินทางไปยังจีนในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือด้านเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงนโยบายของจีนที่ไม่ใช้กลไกราคาตามตลาด ซึ่งส่งผลให้เกิดการผลิตในภาคอุตสาหกรรมมากเกินไป
- ทางการรัสเซียเรียกเอกอัครราชทูตอิสราเอลคนใหม่ประจำรัสเซียเข้าพบ เพื่ออธิบายสิ่งที่รัสเซียมองว่าเป็น “แถลงการณ์ที่ไม่สามารถยอมรับได้” ซึ่งตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสองประเทศ อันเนื่องมาจากสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครนและฉนวนกาซา
- โฆษกกองทัพของกลุ่มกบฏฮูตี กล่าวว่า กลุ่มฮูตีได้ยิงขีปนาวุธทางเรือใส่เรือ 2 ลำ ได้แก่ สตาร์ นาเซีย (Star Nasia) และมอร์นิ่ง ไทด์ (Morning Tide) ในทะเลแดง
- หน่วยยามฝั่งจีนเปิดเผยว่า กองเรือของหน่วยยามฝั่งจีนได้ลาดตระเวนในน่านน้ำบริเวณหมู่เกาะเตี้ยวอวี๋ (Diaoyu) ในทะเลจีนใต้ ทั้งนี้ หมู่เกาะเตี้ยวอวี๋ในภาษาจีน เป็นดินแดนที่ทั้งจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน ต่างอ้างอธิปไตยเหนือหมู่เกาะ
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐได้ปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในปีนี้ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวก หลังจากมีรายงานว่าอาจมีการบรรลุข้อตกลงพักรบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 0.73% ปิดที่ 73.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 78.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยรายงานแนวโน้มพลังงานระยะสั้น (Short-Term Energy Outlook) โดยระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเพียง 170,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 290,000 บาร์เรล/วัน
- แต่ราคาน้ำมันลดช่วงบวก หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอาจจะมีการทำข้อตกลงพักรบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส โดยนายโมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน บิน จัสซิม อัล ธานี นายกรัฐมนตรีกาตาร์ กล่าวว่า กาตาร์ได้รับ “คำตอบที่เป็นบวก” จากกลุ่มฮามาสเกี่ยวกับข้อตกลงพักรบกับอิสราเอลเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนตัวประกันอิสราเอลและนักโทษปาเลสไตน์
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยทิศทางค่าเงินบาทวันนี้อยู่ที่ระดับ 35.50-35.65 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้ผลการประชุม กนง. และประเมินกรอบเงินบาทในช่วง 35.40-35.75 บาทต่อดอลลาร์ หลังทยอยรับรู้ผลการประชุม กนง. สำหรับค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.52 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.67 บาทต่อดอลลาร์
- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก ยอมรับสถานการณ์ความรุนแรงในทะเลแดงเป็นปัจจัยภายนอกที่อยู่เหนือการควบคุม ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อการส่งออกของไทยในปีนี้ แต่มั่นใจยอดส่งออกในเดือน ม.ค.67 ยังรักษาระดับไว้ที่ 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ เท่ากับเดือน ม.ค.66 ส่วนเดือน ก.พ.67 จะอยู่ที่ 2.1-2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับเดือน ก.พ.66 เช่นกัน แต่ในเดือน มี.ค.67 ยังประเมินยาก เนื่องจากปีก่อนฐานสูงถึง 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์ จากมีการส่งออกผลไม้ โดยเฉพาะการส่งทุเรียนไปจีนในปริมาณมาก แต่ปีนี้เกิดปัญหาภัยแล้งอาจทำให้ผลไม้ออกล่าช้าไป ขณะที่ สรท.วางเป้าหมายผลักดันการส่งออกของไทยในปี 67 ให้เติบโต 1-2%
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง