ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้นในการซื้อขายเมื่อวันอังคาร โดยตลาดยังคงขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคาดหวังว่า ธนาคารกลางในประเทศอื่น ๆ จะผ่อนคลายนโยบายการเงินในปีนี้ด้วย
- นอกจากนี้ ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยยังได้แรงหนุนจากความกังวลเรื่องสถานการณ์ขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นมากกว่า 300 ดอลลาร์แล้วนับตั้งแต่สงครามอิสราเอล-ฮามาสได้เปิดฉากขึ้น
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 14.4 เหรียญ หรือ 0.68% อยู่ที่ระดับ 2,128.4 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 15.60 เหรียญ หรือ 0.73% ปิดที่ 2,141.90 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ขยับลง 0.70 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 23.984 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 17.10 เหรียญ หรือ 1.89% ปิดที่ 887.20 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 821.47 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ขายสุทธิ 1.44 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 57.64 ตัน
- นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของ เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในสัปดาห์นี้ หลังราคาทองพุ่งต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 ด้านนักวิเคราะห์มองว่า เมื่อเฟดเริ่มลดดอกเบี้ย จะดันราคาทองคำขึ้นแตะ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้
- ทองโลกพุ่งแตะ 2,141.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเมื่อวานนี้ราคาทองคำขยับเพิ่มขึ้น 1.3% โดยทำสถิติสูงสุดใหม่ จากจุดสูงสุดเดิมที่ 2,135.39 ดอลลาร์เมื่อสามเดือนก่อน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.04 จุด หรือ -0.04% มาอยู่ที่ระดับ 103.81 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.153% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 4.564% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.41% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ร่วงลงกว่า 1% ด้วยเช่นกัน โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ อาทิ หุ้นแอปเปิ้ล ขณะที่หุ้นชิปฉุดดัชนี Nasdaq ลงมากที่สุด ก่อนสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญและนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงนโยบายการเงินต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,585.19 จุด ลดลง 404.64 จุด หรือ -1.04%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,078.65 จุด ลดลง 52.30 จุด หรือ -1.02%
- ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 15,939.59 จุด ลดลง 267.92 จุด หรือ -1.65%
- เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.3 ในเดือนก.พ. จากระดับ 52.5 ในเดือนม.ค. แต่สูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 51.3 โดยดัชนี PMI ยังคงสูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้การขยายตัวในภาคบริการของสหรัฐ โดยเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐดิ่งลง 3.6% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.3% ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าคำสั่งซื้อภาคโรงงานลดลงเพียง 2.9% ในเดือนม.ค. และเมื่อเทียบรายปี คำสั่งซื้อภาคโรงงานลดลง 1.6% ในเดือนม.ค.
- นายกรัฐมนตรีจีนระบุว่า จีนจะตั้งเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจที่ประมาณ 5% ในปีนี้ และจะทำงานเพื่อพลิกโฉมรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ, ควบคุมศักยภาพทางอุตสาหกรรมไม่ให้มากเกินไป, ลดความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์ และลดการใช้จ่ายที่ไม่เป็นประโยชน์ของรัฐบาลท้องถิ่น
- คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC) ของจีนเปิดเผยว่า จีนเตรียมยกเลิกข้อจำกัดด้านการลงทุนในต่างประเทศทั้งหมดในภาคการผลิต และผ่อนปรนข้อจำกัดการเข้าถึงตลาดในอุตสาหกรรมบริการ เช่น โทรคมนาคม และบริการทางการแพทย์
- ไฉซินและเอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยว่า กิจกรรมภาคบริการของจีนขยายตัวในอัตราชะลอลงในเดือนก.พ. ขณะที่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และบริษัทต่าง ๆ ลดจำนวนพนักงานลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีน อยู่ที่ระดับ 52.5 ในเดือนก.พ. ลดลงจาก 52.7 ในเดือนม.ค. แต่ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14 แล้ว
- ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ของกรุงโตเกียว ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนก.พ. หลังจากอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 22 เดือนในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อในญี่ปุ่นจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป และทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร โดยไม่ได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจไปจนถึงไตรมาส 2/2567 เพื่อพยุงราคาน้ำมันในตลาด
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 59 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 78.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 76 เซนต์ หรือ 0.92% ปิดที่ 82.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 423,000 บาร์เรล ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 มี.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล หลังจากที่พุ่งขึ้นถึง 8.428 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
- ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในคืนนี้
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 35.81 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า โดยนักบริหารการเงิน ระบุว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มแกว่งตัวลักษณะ sideways down แต่ทว่า การแข็งค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัดในโซนแนวรับ 35.70-35.80 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าตลาดจะรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ข้อมูลตลาดแรงงาน รวมถึงถ้อยแถลงของประธานเฟดในคืนนี้
- ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท. ยังคงคาดการณ์เป้าหมายส่งออกรวมทั้งปี 67 เติบโตที่ 1-2% (ณ เดือนมี.ค. 67) แม้ยอดส่งออกในเดือน ม.ค.67 จะเติบโตถึง 10% แต่ยังต้องจับตาสถานการณ์ในช่วง Q1/67 เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ สำหรับการส่งออกไทยเดือนม.ค. 67 มีมูลค่า 22,649.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 10.0% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 784,580 ล้านบาท ขยายตัว 10.2%
- กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนก.พ.67 เท่ากับ 107.22 ลดลง 0.77% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากที่ตลาดคาดจะลดลง 0.80%
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง