• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 8 มีนาคม 2567

    8 มีนาคม 2567 | Gold News

 

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้นในการซื้อขายเมื่อวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ขณะเดียวกัน ตลาดยังคงขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 11.12 เหรียญ หรือ 0.52% อยู่ที่ระดับ 2,159.54 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 7.00 เหรียญ หรือ 0.32% ปิดที่ 2,165.20 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 8.50 เซนต์ หรือ 0.35% ปิดที่ 24.578 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 9.00 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ 923.40 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 0.87 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 816.57 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ขายสุทธิ 6.34 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 62.54 ตัน


  • นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เตือนนักลงทุนต้องระมัดระวังการลงทุนในช่วงนี้ เพราะราคาขึ้นมาเร็วมากผิด ปกติ และแม้ราคาทองคำจะปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเกินคาด แต่คนกลับแห่ซื้อทองมากกว่าขาย


  • ธนาคารกลางทั่วโลก เพิ่ม ปริมาณทองคำสำรองอีก 39 ตัน (t) ในเดือนมกราคม 2024 โดยตุรกี และ จีน ยังคงเป็นผู้นำในการซื้อทองคำ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความต้องการทองคำของธนาคารกลาง ยังคงมีอยู่ และอาจจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลให้ ความต้องการทองคำของธนาคารกลาง ยังคงอยู่ในระดับสูงในปี 2024


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.58 จุด หรือ -0.56% มาอยู่ที่ระดับ 102.73 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.088% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.503% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.42% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ในเดือนมิ.ย. และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 4 ครั้งในปีนี้


  • ประธานเฟดพาวเวลล์ให้การต่อวุฒิสภา ย้ำว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ แต่ไม่ได้ระบุว่าเมื่อใด แต่เขากล่าวว่าการเคลื่อนไหวทางนโยบายจะขึ้นอยู่กับข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจ และยังไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับมาสู่เป้าหมาย 2% ของเฟด


  • สำนักงานปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีน (SAFE) เปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้นสวนทางการคาดการณ์ในเดือนก.พ. แม้ดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าเมื่อเทียบกับกับสกุลเงินสำคัญอื่น ๆ รายงานระบุว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนปรับตัวขึ้น 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สู่ระดับ 3.226 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.205 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 3.219 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนม.ค.


  • ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ระดับ 5% ในการประชุมเมื่อวันพุธ (6 มี.ค.) สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ขณะเดียวกันระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะพิจารณาเรื่องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เมื่อพิจารณาถึงระดับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งบั่นทอนความคาดหวังเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในกลุ่มผู้กู้ยืมเงิน


  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้ม ที่จะ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมเดือนมีนาคมนี้ หลัง ตัวเลขค่าจ้าง ออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์


  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมเป็นการประชุมครั้งที่สี่ แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจฉบับใหม่ ซึ่งน่าจะสนับสนุนแนวโน้มการลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้


  • นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) น่าจะเน้นย้ำว่า ธนาคารต้องการเห็น สัญญาณชัดเจน ที่ยืนยันว่า ตัวเลขเงินเฟ้อจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ไปสู่เป้าหมายของธนาคารที่ 2%


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้น 1.5% โดยได้แรงหนุนมากที่สุดจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นเติบโต ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,791.35 จุด เพิ่มขึ้น 130.30 จุด หรือ +0.34%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,157.36 จุด เพิ่มขึ้น 52.60 จุด หรือ +1.03% 
  • ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 16,273.38 จุด เพิ่มขึ้น 241.83 จุด หรือ +1.51%


  • จีนลงทุนในเอเชียเพิ่มขึ้น 37% ในปี 66 อินโดฯ คว้าเม็ดเงินลงทุนมากสุด การลงทุนของบริษัทจีนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2566 ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มทั่วโลก ท่ามกลางเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว


  • ยอดการส่งออกและนำเข้าของจีน ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2024 ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่ชี้ว่า ความต้องการสินค้า (demand) อาจจะกำลัง ดีขึ้น 


  • Goldman Sachs เพิ่ม การคาดการณ์การซื้อหุ้นคืน (stock buyback) ของบริษัทในดัชนี S&P 500 ขึ้น 13% เป็น 925 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2024 เนื่องจาก กำไรของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (mega-cap tech) ที่เติบโตแรงเกินคาด


  • ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเกิดอาการ เทขาย (sell-off) โดยดัชนี Nikkei ซึ่งเคยทำสถิติสูงสุด (record high) ร่วงลงสาเหตุหลักมาจาก หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมชิป ถูกเทขาย และเงินเยนแข็งค่าขึ้น เนื่องจากความคาดการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (Bank of Japan) อาจจะมีการ ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน ในเร็วๆ นี้


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี จากแรงเทขายทำกำไร หลังราคาน้ำมันทะยานกว่า 1% ในวันพุธ ขณะที่นักลงทุนผิดหวังหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ยังไม่มีกรอบเวลาชัดเจนสำหรับการดำเนินการดังกล่าว


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 78.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ปิดที่ 82.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของวันพุธ


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติ 339 ต่อ 85 เสียง ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณ 6 ฉบับแรกพร้อมส่งให้วุฒิสภาเร่งพิจารณาก่อนถึงเส้นตายในวันศุกร์นี้ (8 มี.ค.) เพื่อเลี่ยงไม่ให้หน่วยงานบางส่วนถูกชัตดาวน์


  • นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่า จีนสนับสนุนให้ปาเลสไตน์เป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของสหประชาชาติ (UN)


  • อินโดนีเซีย-มาเลเซียร่วมใจคว่ำบาตรแบรนด์ตะวันตก แสดงจุดยืนต้านอิสราเอล-หนุนปาเลสไตน


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.51 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.57 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.45-35.65 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนตลาดรับรู้ยอดการจ้างงานสหรัฐฯ  และประเมินกรอบเงินบาท 35.35-35.80 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงตลาดทยอยรับรู้ยอดการจ้างงานสหรัฐฯ

 


ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com