• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 12 มีนาคม 2567

    12 มีนาคม 2567 | Gold News

 

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ โดยปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

 

  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 3.98 เหรียญ หรือ 0.18% อยู่ที่ระดับ 2,181.22 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 3.10 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 2,188.60 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 16.60 เซนต์ หรือ 0.68% ปิดที่ 24.715 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 25.70 ดอลลาร์ หรือ 2.81% ปิดที่ 940.50 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 815.13 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ขายสุทธิ 7.78 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 63.98 ตัน

 

  • ราคาทองอาจพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหากนักลงทุนยังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า โลหะเงินมีแนวโน้มจะพุ่งขึ้นโดดเด่นเหนือทองคำในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

 

  • หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์โภคภัณฑ์ของบริษัทแมคควอรี (Macquarie) กล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อในระยะใกล้ของสหรัฐอาจเป็นปัจจัยกำหนดราคาทอง ซึ่งอาจหนุนให้ทองคำพุ่งแตะ 2,300 เหรียญ หรือปรับลดลงสู่ระดับประมาณ 2,100 เหรียญ ทั้งนี้หากเศรษฐกิจโลกขยายตัวดีขึ้นในปีนี้ คาดว่าราคาเงินจะปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเปลี่ยนจากทำผลงานด้อยกว่าทองมาเป็นทำผลงานได้ดีกว่าทองในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้

 

  • จิม วิคคอฟฟ์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Kitco Metals กล่าวว่า นักลงทุนรอดูการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันนี้ โดยหากตัวเลข CPI เดือนก.พ.ออกมาสูงกว่าในเดือนม.ค. ก็อาจจะส่งผลให้ตลาดทองคำเผชิญกับแรงเทขาย อย่างไรก็ดี เขายังคงมีมุมมองเป็นบวกว่า ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นทำนิวไฮในระยะใกล้นี้

 

  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.07 จุด หรือ 0.07% มาอยู่ที่ระดับ 102.81 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.098% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.45 % มาอยู่ที่ระดับ 4.54% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.44% อยู่ในภาวะ inverted yield curve

 

  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ ส่วนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลดลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้หรือไม่

 

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,769.66 จุด เพิ่มขึ้น 46.97 จุด หรือ +0.12%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,117.94 จุด ลดลง 5.75 จุด หรือ -0.11%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,019.27 จุด ลดลง 65.84 จุด หรือ -0.41%

 

  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าหน่วยกำกับดูแลของจีนเพิ่งเรียกประชุมกับสถาบันการเงินเจ้าต่าง ๆ เพื่อหารือเรื่องบริษัทว่านเคอ (Vanke) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐบาลจีนหนุนหลัง โดยทางการขอให้ธนาคารรายใหญ่ ๆ เพิ่มการสนับสนุนทางการเงินแก่ว่านเคอ และขอให้ผู้ถือตราสารหนี้นอกตลาดยอมขยายเวลาชำระหนี้ออกไปด้วย

 

  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะและการพัฒนาเมืองและชนบทจีน กล่าวว่า บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่กำลังประสบปัญหาจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ พร้อมเตือนว่าผู้ที่ทำร้ายผลประโยชน์ของมวลชนจะต้องถูกลงโทษ

 

  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวระหว่างการเยือนม Manila อย่างเป็นทางการว่า บริษัทสหรัฐฯ เตรียมที่จะประกาศการลงทุนในฟิลิปปินส์ มูลค่ารวมกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเพิ่มประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 4/2566 โดยระบุว่า GDP ขยายตัว 0.4% ซึ่งดีกว่าการประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่า GDP หดตัวลง 0.4%

 

  • น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมันในประเทศจีน
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 77.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.16% ปิดที่ 82.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

  • ตลาดน้ำมันถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมันในประเทศจีน หลังมีรายงานว่าจีนนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ต่ำกว่าระดับของเดือนก่อนหน้า ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการซื้อน้ำมันที่ลดลงของจีนซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก

 

  • ทามาส วาร์กา นักวิเคราะห์จากบริษัท PVM กล่าวว่า ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่นักลงทุนมองว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางในขณะนี้ยังไม่รุนแรงถึงขั้นที่จะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก

 

  • ญี่ปุ่นกำลังยกระดับการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในระยะยาวจากประเทศพันธมิตรอย่างสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย เพื่อเตรียมรับมือกับการที่สัญญาจัดหาก๊าซ LNG หลายฉบับที่ทำไว้กับรัสเซียจะหมดอายุในช่วงปี 2573

 

  • ซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรในปีงบการเงิน 2566 อยู่ที่ 1.213 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 25% จากระดับ 1.611 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2565 ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมัน

 

  • ยูเครนได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสในการเจรจายุติสงครามกับรัสเซีย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศยูเครนกล่าวว่ายูเครนจะไม่มีวันยอมจำนน

 

  • ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองกลางแห่งชาติไต้หวัน (NSB) ออกมาเตือนว่า จีนมีแนวโน้มว่าจะกดดันไต้หวันมากขึ้นทั้งก่อนและหลังการส่งมอบอำนาจให้รัฐบาลชุดใหม่ในเดือนพ.ค.นี้

 

  • นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.40 บาทต่อดอลลาร์ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.35-35.50 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนตลาดรับรู้อัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ  และประเมินกรอบเงินบาท 35.25-35.65 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงตลาดทยอยรับรู้อัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ  

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com