MTS Help Center

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• ราคทองคำ ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในวันอังคาร หลังจากที่ร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์
• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 18.0 เหรียญ หรือ 0.77% อยู่ที่ระดับ 2,351.75 เหรียญ
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 4.25% ปิดที่ 31.64 เหรียญ
• สาเหตุที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อย เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) อ่อนค่าลง และนักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางที่ยังคงดำเนินอยู่
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.15 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 832.21 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ซื้อสุทธิ 0.02 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 46.9 ตัน

• นักวิเคราะห์จาก UBS ปรับเพิ่มประมาณการราคาทองคำเป็น $2,600 ต่อออนซ์ ภายในสิ้นปี 2024 ส่วนทางด้าน นักวิเคราะห์จาก Citigroup คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะแตะ $3,000 ต่อออนซ์ ภายใน 6 ถึง 18 เดือนข้างหน้า

• สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บรรดากองทุนเฮดจ์ฟันด์และนักลงทุนเก็งกำไรรายใหญ่กำลังเพิ่มสถานะการเก็งกำไร “ทองคำขาขึ้น” กันมากที่สุดในรอบ 4 ปี โดยการเก็งกำไรสถานะ Long หรือเดิมพันว่าราคาจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต กำลังเพิ่มสูงขึ้นรับราคาทองคำที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 2,448 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์กำลังเพิ่มขึ้น

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.17 จุด หรือ -0.16% มาอยู่ที่ระดับ 104.57 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.467% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.95% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.48% อยู่ในภาวะ inverted yield curve

• อดีตสมาชิกคณะกรรมการนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า BOJ มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.5% ภายในสิ้นปีนี้ หากภาวะเศรษฐกิจยังคงดำเนินไปในทิศทางไม่ต่างจากเดิม

• ญี่ปุ่นกล่าวยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะสกัดการอ่อนค่าของเงินเยน ในระหว่างการประชุมผู้นำด้านการเงินของกลุ่ม G7 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 12 ปีเมื่อไม่นานมานี้ ไม่สามารถยับยั้งการอ่อนค่าของเงินเยนได้

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• นครเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการเงินของจีนประกาศนโยบายฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์เช่นเดียวกับเมืองขนาดใหญ่แห่งอื่น ๆ ของจีน ด้วยการปรับลดอัตราส่วนการวางเงินดาวน์ซื้อบ้านและปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง ทั้งนี้ การผ่อนคลายข้อกำหนดการซื้อบ้านในนครเซี่ยงไฮ้มีขึ้นหลังจากรัฐบาลจีนได้ออกมาตรการฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์หลายรายการในช่วงต้นเดือนนี้ ซึ่งรวมถึงการที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) จัดหาเงินจำนวน 3 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 4.225 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อเป็นทุนในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ค้างสต็อก

• นายกรัฐมนตรีจีนเรียกร้องให้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ปฏิเสธการกีดกันทางการค้า (Protectionism) และหันมาส่งเสริมการค้าเสรี โดยได้มีถ้อยแถลงดังกล่าวในการประชุมสุดยอดระหว่างทั้งสามประเทศ ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

• เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่รับมือเหตุฉุกเฉินของปาเลสไตน์รายงานว่า อิสราเอลได้ทำการโจมตีทางอากาศในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบราย

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• ราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังจากที่พุ่งขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
• ปัจจัยสำคัญที่ยังคงส่งผลต่อตลาดน้ำมันดิบคือข้อมูลเงินเฟ้อที่จะมีการประกาศในสัปดาห์นี้
• ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากปริมาณการซื้อขายที่เบาบางลงในวันจันทร์ เนื่องจากวันหยุดนักขัตฤกษ์ในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา

• สัญญาล่วงหน้า​น้ำมันเบรนท์ Brent เดือนกรกฎาคม ลดลง 0.1% สู่ราคา 83.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
• สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส WTI ทรงตัวอยู่ที่ 78.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

• นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์ในยุโรปกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการดำเนินธุรกิจในรัสเซีย เนื่องจากสหรัฐกำลังพิจารณาเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรครั้งที่สองต่อธนาคารที่อำนวยความสะดวกด้านการทำธุรกรรมที่สนับสนุนความพยายามในการทำสงครามของรัสเซีย

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.57 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.63 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.50-36.70 บาทต่อดอลลาร์ 

• สภาพัฒน์ เผยหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP อยู่ที่ 91.3% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสที่ผ่านมา โดยหนี้เสียธนาคารพาณิชย์ มีมูลค่า 1.58 แสนล้านบาท คิดเป็น 2.88% ต่อสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจาก 2.79% ในไตรมาสก่อน ขณะที่คุณภาพสินเชื่อด้อยลงในทุกประเภท ติดตามสินเชื่อบัตรเครดิต-แนวโน้มหนี้เสียของสินเชื่อที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะสินเชื่อวงเงินน้อยกว่า 3 ล้านบาท

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง