• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 14 มิถุนายน 2567

    14 มิถุนายน 2567 | Gold News

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                              ข่าวเกี่ยวกับทองคำ                                    

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้



  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -20.94 เหรียญ หรือ -0.9% อยู่ที่ระดับ 2,303.71 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 36.80 ดอลลาร์ หรือ 1.56% ปิดที่ 2,318.00 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.201 ดอลลาร์ หรือ 3.97% ปิดที่ 29.066 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 16.40 ดอลลาร์ หรือ 1.69% ปิดที่ 954.60 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.43 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 829.34 ตันภาพรวมเดือนมิถุนายน ขายสุทธิ 2.87 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 49.77 ตัน



  • สภาทองคำโลก เปิดเผยรายงานสถานการณ์ทองคำโลกล่าสุด พบว่า นอกจากปริมาณความต้องการทองคำทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้นแล้ว การที่ประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ในภูมิภาคเอเชียมีความต้องการทองคำที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก กำลังดันให้สิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะกลายเป็น Hub หรือศูนย์กลางตลาดทองคำโลกแห่งใหม่ ท่ามกลางแนวโน้มความต้องการทองคำที่เคลื่อนตัวมายังซีกโลกตะวันออกมากขึ้น



  • สภาทองคำโลกสรุปว่า สิงคโปร์มีความพร้อมที่จะเป็นผู้นำตลาดทองคำในอนาคต โดยมีปัจจัยเสริมอย่างความมุ่งมั่นของประเทศต่อเสถียรภาพทางการเมือง และการยกเลิกภาษีการขายทองคำเพื่อการลงทุน ทำให้สิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะมีบทบาทสำคัญต่อตลาดทองคำ

 

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง



  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.54 จุด หรือ 0.52% มาอยู่ที่ระดับ 105.23 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.07 % มาอยู่ที่ระดับ 4.246% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 4.699% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.45% อยู่ในภาวะ inverted yield curve



  • ยูบีเอส โกลบอล รีเสิร์ชระบุว่า คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.



  • ประธานสมาคมนักการธนาคารญี่ปุ่น กล่าวว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะใช้ความระมัดระวังในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก่อนที่บีโอเจจะประกาศมติการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้

 

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ



  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 4 โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,647.10 จุด ลดลง 65.11 จุด หรือ -0.17%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,433.74 จุด เพิ่มขึ้น 12.71 จุด หรือ +0.23% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,667.56 จุด เพิ่มขึ้น 59.12 จุด หรือ +0.34%



  • สหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.5% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนเม.ย. ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.4% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนเม.ย.



  • หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดจากบริษัท Carson Group แสดงความเห็นว่าแม้เฟดส่งสัญญาณในการประชุมครั้งล่าสุดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ แต่เฟดก็ต้องพึ่งพาข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน เราคาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงอาจทำให้มุมมองของเฟดเปลี่ยนแปลงในไม่ช้านี้



  • เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย. และปรับลดอีกครั้งในเดือนธ.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาดในเดือนพ.ค.



  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 4.3% หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ที่ต่ำกว่าคาด

 

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน



  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลังมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของตลาดแรงงานและเงินเฟ้อของสหรัฐ



  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 78.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 82.75 ดอลลาร์/บาร์เรล



  • ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นหลังจากนายไฮธาม อัล-กาอิส เลขาธิการโอเปกกล่าวว่า โอเปกคาดว่าอุปสงค์น้ำมันจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 116 ล้านบาร์เรล/วันภายในปี 2588 พร้อมกับตำหนิรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะถึงจุดสูงสุดภายในปี 2572



  • ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาดในเดือนพ.ค.

 

ข่าวการเมือง



  • รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า กลุ่มฮามาสได้เปลี่ยนแปลงข้อเสนอหลายประการในข้อเสนอหยุดยิงกับอิสราเอลในฉนวนกาซาที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ ซึ่งบางข้อเสนอก็เป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ไกล่เกลี่ยยังคงดำเนินงานอย่างหนักเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน



  • ชาวปาเลสไตน์ในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซาเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า รถถังของอิสราเอลได้รุกคืบเข้าไปในพื้นที่ทางตะวันตกของเมืองราฟาห์ อีกทั้งยังมีการโจมตีทั้งทางอากาศ ภาคพื้นดิน และทางทะเลอย่างหนัก 



  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในช่วงหนึ่งวันที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ 45 เป้าหมายทั่วฉนวนกาซา รวมถึงโครงสร้างทางทหาร เครื่องยิงจรวด และอุโมงค์ ทั้งนี้ อิสราเอลระบุว่าสันติภาพไม่อาจเกิดขึ้นได้จนกว่ากลุ่มฮามาสจะถูกกำจัดจนสิ้นซาก 




ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท



  • นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.76 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.65 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.65-36.90 บาทต่อดอลลาร์  



  • นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เผยว่า การกำหนดกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อใหม่ อาจทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย มีความเป็นไปได้มากขึ้น หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไว้ที่ 2.50% 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

 





                                                

 

 

 

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com