• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2567

    24 มิถุนายน 2567 | Gold News

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                     ข่า

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ โดยถูกกดดันจากการที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้น หลังการเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -38.4 เหรียญ หรือ -1.63% อยู่ที่ระดับ 2,321.45 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 37.80 เหรียญ หรือ 1.60% ปิดที่ 2,331.20 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.206 เหรียญ หรือ 3.87% ปิดที่ 29.942 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 11.40 เหรียญ หรือ 1.14% ปิดที่ 1,008.10 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.72 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 831.93 ตันภาพรวมเดือนมิถุนายน ขายสุทธิ 0.28 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 47.18 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.19 จุด หรือ 0.18% มาอยู่ที่ระดับ 105.83 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.255% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.732% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.48% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอื่น ๆ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงอดกลั้นที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งตรงกันข้ามกับการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากกว่าของธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ


  • นายออสแตน กูลสบี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวว่า กรรมการเฟดจะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้หากเงินเฟ้อยังคงชะลอตัวลงเหมือนในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลดลง โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งถ่วงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,150.33 จุด เพิ่มขึ้น 15.57 จุด หรือ +0.04%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,464.62 จุด ลดลง 8.55 จุด หรือ -0.16% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,689.36 จุด ลดลง 32.23 จุด หรือ -0.18%

  • ซีอีโอฝ่ายบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่งของเจพีมอร์แกน เชสกล่าวว่า บริษัทมองเห็นสัญญาณของเศรษฐกิจที่กำลังปรับตัวดีขึ้นในประเทศจีน ซึ่งจะช่วยหนุนธุรกิจของเจพีมอร์แกน เชสในจีนหลังจากซบเซาในช่วงที่ผ่านมา


  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทต่าง ๆ ของสหรัฐกำลังประเมินแนวโน้มในจีน เนื่องจากเศรษฐกิจของจีนฟื้นตัวไม่สม่ำเสมอ และความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศก็ย่ำแย่ลง สำหรับธนาคารต่าง ๆ นั้น ตลาดทุนที่ซบเซาได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในจีน และนักลงทุนกำลังจับตาดูผลกระทบของมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน


  • หัวหน้า นักเศรษฐศาสตร์ประจำ S&P Global Market Intelligence กล่าวว่า ข้อมูลชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังขยายตัวที่ 2.5% การขยายตัวเป็นไปในวงกว้าง เนื่องจากความต้องการสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น โดยภาคบริการเป็นตัวนำ เนื่องจากการใช้จ่ายภายในประเทศที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ การฟื้นตัวของภาคการผลิตที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นที่ดีที่สุดในรอบ 2 ปี ก็ยังคงสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ


  • ผลสำรวจเผยว่า การเติบโตของภาคธุรกิจยูโรโซนชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดในเดือนมิ.ย. เนื่องจากอุปสงค์ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. โดยภาคบริการเริ่มแสดงสัญญาณของความอ่อนแอ ขณะที่ภาคการผลิตแย่ลง


  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการขั้นต้นของยูโรโซน อยู่ที่ระดับ 50.8 ในเดือนมิ.ย. ลดลงจากระดับ 52.2 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าที่โพลของรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 52.5 แต่ยังคงยืนเหนือระดับ 50 ได้เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว


  • รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะยังคงสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐและประเทศอื่น ๆ เกี่ยวกับนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน หลังจากสหรัฐประกาศเพิ่มญี่ปุ่นในบัญชีรายชื่อประเทศที่ถูกจับตา (Monitoring List) เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน


  • สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยในวันนี้ (21 มิ.ย.) ว่า หนี้สาธารณะของอังกฤษในเดือนพ.ค. พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2504 ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลชุดใหม่หลังการเลือกตั้งในวันที่ 4 ก.ค.นี้ ทั้งนี้ หนี้สาธารณะสุทธิ ไม่รวมธนาคารที่รัฐกำกับดูแล พุ่งขึ้นแตะ 2.742 ล้านล้านปอนด์ หรือ 99.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในเดือนพ.ค. โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 96.1% เมื่อปีที่แล้ว


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ จากความวิตกว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลก อาจได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 56 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 80.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 85.24 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ราคาน้ำมันดิบลดลง แม้มีสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปสงค์น้ำมันของสหรัฐปรับตัวดีขึ้น และสต็อกน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงซึ่งช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อวันพฤหัสบดี


  • ราคาที่ลดลงทำให้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ออกจากภาวะที่มีแรงซื้อมากเกินไปทางเทคนิคเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ยังคงมีแรงซื้อมากเกินไปเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.77 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ  36.65 บาทต่อดอลลาร์  มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 36.50-37.00 บาทต่อดอลลาร์ กรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.65-36.85 บาทต่อดอลลาร์


  • สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนพ.ค.67 พบว่า การส่งออก มีมูลค่า 26,219.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.2% โดยขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 25,563.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1.7% ส่งผลให้เดือนพ.ค. ไทยเกินดุลการค้า 656.1 ล้านเหรียญสหรัฐ



ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com