• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 4 กรกฎาคม 2567

    4 กรกฎาคม 2567 | Gold News

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                     ข่ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันพุธ ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงานที่อ่อนแอเกินคาด


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 26.6 เหรียญ หรือ 1.14% อยู่ที่ระดับ 2,356.95 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 36 เหรียญ หรือ 1.54% ปิดที่ 2,369.40 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.18 เหรียญ หรือ 3.99% ปิดที่ 30.842 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 4.20 เหรียญ หรือ 0.42% ปิดที่ 1,013.40 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 5.76 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 833.37 ตันภาพรวมเดือนกรกฎาคม ซื้อสุทธิ 4.32 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 45.74 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.34 จุด หรือ -0.32% มาอยู่ที่ระดับ 105.32 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.08 % มาอยู่ที่ระดับ 4.355% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.708% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.35% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • รายงานการประชุมเฟดเผย กรรมการเฟดเห็นไม่ลงรอยกัน เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐกล่าวว่า พวกเขากำลังรอหลักฐานเพิ่มเติมว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลง และมีความเห็นต่างกันว่าควรคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับสูงนานแค่ไหนในการประชุมนโยบายการเงินครั้งล่าสุด


  • นอกจากนี้ในการประชุมครั้งล่าสุด เจ้าหน้าที่เฟดได้ถอยกลับจำนวนคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ให้เหลือเพียง 1 ครั้งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้กำหนดนโยบาย 4 รายคาดว่าจะไม่ลดดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ 8 รายคาดการณ์ว่าจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง


  • รายงานการประชุมแสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับตลาดแรงงาน เนื่องจากความเสี่ยงในการบรรลุเป้าหมายการจ้างงานของเฟดและอัตราเงินเฟ้อได้เข้าสู่สมดุลที่ดีขึ้น ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มการจ้างงานในอัตราที่มั่นคง แต่อัตราการว่างงานกลับสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยทางด้าน แมรี ดาลี ประธานเฟดซานฟรานซิสโกเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าตลาดแรงงานกำลังใกล้ถึงจุดเปลี่ยน ซึ่งการชะลอตัวลงอีกอาจทำให้อัตราการว่างงานสูงขึ้น


  • ธนาคารโลกระบุ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ควรจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ในขณะนี้ เพื่อรอดูความชัดเจนของทิศทางเงินเฟ้อ และผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล


  • ข้อมูลจาก LSEG FedWatch บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 70% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงานที่อ่อนแอเกินคาด 


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันพุธ โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,308.00 จุด ลดลง 23.85 จุด หรือ -0.06%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,537.02 จุด เพิ่มขึ้น 28.01 จุด หรือ +0.51% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,188.30 จุด เพิ่มขึ้น 159.54 จุด หรือ +0.88%


  • ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 160,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 157,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด อย่างไรก็ดี ตลาดถูกกดดันในระหว่างวันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันทั่วโลก ท่ามกลางวอลุ่มการซื้อขายที่เบาบางก่อนที่จะถึงวันหยุดเนื่องในวันชาติสหรัฐ


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.29% ปิดที่ 83.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 1.28% ปิดที่ 87.34 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 12.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าจะลดลงเพียง 680,000 บาร์เรล


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล มีกำหนดพบกัน ณ กรุงวอชิงตัน ในช่วงปลายเดือนนี้ ระหว่างที่นายเนทันยาฮูเดินทางมาปราศรัยต่อสภาคองเกรสสหรัฐเกี่ยวกับสงครามอิสราเอล-ฮามาสในฉนวนกาซา


  • สหรัฐประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัทอีก 6 แห่งในรายชื่อบริษัทที่ต้องเผชิญข้อจำกัดทางการค้า โดยบริษัท 4 แห่งในจำนวนนี้มีส่วนเชื่อมโยงกับการฝึกทหารจีน


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  36.66 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.75 บาทต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทอาจกลับมาผันผวนในกรอบ sideways มองกรอบวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.55-36.70 บาทต่อดอลลาร์


  • คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับกรอบการเติบโตของการส่งออกเป็น 0.8-1.5% จากกรอบเดิมที่ให้ไว้ที่ 0.5-1.5% แม้ว่าการส่งออกไทยเผชิญความเสี่ยงจากสงครามการค้าของสหรัฐฯ-จีน การขึ้นภาษีของสหรัฐฯต่อสินค้าจีนรอบใหม่อาจกระทบสินค้าส่งออกไทยที่เป็นห่วงโซ่อุปทานให้แก่จีน


  • ธนาคารโลก (World Bank) ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 67 เหลือโต 2.4% จากที่เคยประมาณการไว้เดิมเมื่อเดือนเม.ย. ที่ 2.8% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการส่งออก และการลงทุนภาครัฐในช่วงต้นปีที่น้อยกว่าคาดการณ์ อย่างไรก็ดี ยังไม่รวมผลของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท แต่คาดว่าอาจช่วยเพิ่มการเติบโตในระยะสั้นต่อไปได้





ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com