MTS Help Center

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 8.0 เหรียญ หรือ 0.34% อยู่ที่ระดับ 2,371.9 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 11.80 เหรียญ หรือ 0.50% ปิดที่ 2,379.70 เหรียญ
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 4.20 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 31.014 เหรียญ
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 7.70 เหรียญ หรือ 0.77% ปิดที่ 1,006.70 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 833.37 ตันภาพรวมเดือนกรกฎาคม ซื้อสุทธิ 4.32 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 45.74 ตัน

• สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า กองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (ETF) ซึ่งลงทุนในทองคำทั่วโลกมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย. เนื่องจากกองทุนที่จดทะเบียนในยุโรปและเอเชียเพิ่มการซื้อ ETF ทองคำ

• สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ETF ทองคำนั้นรองรับความต้องการส่วนใหญ่ในด้านการลงทุนในทองคำ โดยราคาทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,449.89 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ท่ามกลางความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งได้รับแรงผลักดันจากความไม่แน่นอนทางด้านภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม กองทุน ETF ทองคำยังคงมีเงินทุนไหลออกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงทั่วโลก และเงินทุนที่ไหลเข้า 2 เดือนล่าสุดนั้นได้ช่วยจำกัดการขาดทุนได้เล็กน้อยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

• มอร์นิงสตาร์ (Morningstar) ผู้ให้บริการทางด้านการเงินของสหรัฐเปิดเผยว่า กองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (ETF) ของจีนเติบโตอย่างน่าทึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีเงินทุนไหลเข้าแตะระดับสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เงินทุนต่อปีที่ไหลเข้ากองทุน ETF ของจีนเพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 2.87 จุด หรือ 2.73% มาอยู่ที่ระดับ 107.99 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.282% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 4.622% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.34% อยู่ในภาวะ inverted yield curve

• ถ้อยแถลงของนายพาวเวลเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. โดยเครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 74% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ย. 

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดในวันพุธ ส่วนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ช่วยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,721.36 จุด เพิ่มขึ้น 429.39 จุด หรือ +1.09%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,633.91 จุด เพิ่มขึ้น 56.93 จุด หรือ +1.02% และ
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,647.45 จุด เพิ่มขึ้น 218.16 จุด หรือ +1.18%

• ผู้บริหารโกลด์แมน แซคส์ แอสเซ็ท แมเนจเมนต์กล่าวว่า พวกเขาคาดว่า เศรษฐกิจสหรรัฐจะขยายตัวช้าลงในอัตราราว 2% ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นจะมีปฏิกริยาต่ออุปสรรคต่างๆนับตั้งแต่ผลกำไรที่ลดลง และความวิตกทางการเมืองด้วยการทรงตัวต่อไปโดยส่วนใหญ่

• เอสแอนด์พี โกลบอล อินเทลลิเจนซ์ (S&P Global Intelligence) เปิดเผยว่า จำนวนบริษัทในสหรัฐที่ยื่นล้มละลายในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2563 โดยรายงานจากเอสแอนด์พีพบว่า มีบริษัทอย่างน้อย 75 แห่งยื่นขอคุ้มครองการล้มละลายในเดือนมิถุนายน ส่งผลให้ยอดรวมของปีนี้พุ่งแตะ 346 ราย ซึ่งสูงกว่าตัวเลขครึ่งปีแรกในรอบ 13 ปีที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน

• สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ชะลอตัวลงในเดือนมิ.ย. ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ส่งสัญญาณว่าจีนยังคงเผชิญกับภาวะเงินฝืด แม้รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศก็ตาม ทั้งนี้ ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 0.3% และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าอาจเพิ่มขึ้น 0.4%

• ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาสินค้าผู้ประกอบการ (CGPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดราคาสินค้าและบริการที่สั่งซื้อโดยบริษัทญี่ปุ่นและเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากภาคค้าส่ง เพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนมิ.ย. 2567 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

 

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินลดลงมากกว่าคาด แต่แรงบวกของราคาน้ำมันถูกจำกัด หลังมีรายงานว่าพายุเฮอร์ริเคนเบริล (Beryl) ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันเพียงเล็กน้อย

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 0.85% ปิดที่ 82.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 85.08 ดอลลาร์/บาร์เรล

• ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 445.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

• สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนกำลังดำเนินการตรวจสอบว่า การเก็บภาษีศุลกากรและมาตรการล่าสุดของสหภาพยุโรป (EU) ต่อจีนถือเป็นอุปสรรคต่อการค้าเสรีหรือไม่ ซึ่งตอกย้ำความตึงเครียดระหว่างทั้งสองฝั่ง

• นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียปฏิเสธอย่างเด็ดขาดต่อข้อกล่าวหาที่ว่า รัสเซียได้ทำการโจมตีโรงพยาบาลเด็กแห่งหนึ่งในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน

• นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ยิ่งรัสเซียกับเกาหลีเหนือกระชับความร่วมมือทางทหารกันมากขึ้น ญี่ปุ่นก็ยิ่งจำเป็นต้องกระชับความสัมพันธ์กับนาโต (NATO) เนื่องจากภัยคุกคามด้านความมั่นคงในภูมิภาคต่าง ๆ มีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  36.31 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.40 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.35-36.55 บาทต่อดอลลาร์ โดยต้องระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ

• รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ยอมรับว่า ภาวะเศรษฐกิจในประเทศในปัจจุบันยังมีปัญหาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกำลังซื้อที่ชะลอตัวลง ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงแตะระดับ 90% ของ GDP และมีแนวโน้มที่จะเป็นหนี้เสีย (NPL) เพิ่มขึ้นมาที่ 3.5% และหากรวมกลุ่มหนี้ที่เป็น Special mentions (SM) อีกเกือบ 5% จะเห็นว่าหนี้เสียมีโอกาสเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่เกือบ 8% ซึ่งถือเป็นระดับที่สูง

• นักเศรษฐศาสตร์ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้มีทิศทางที่ฟื้นตัว และหนุนให้ GDP ในปี 2567 เติบโต 2.8% หลังปัจจัยกดดันเชิงวัฎจักรได้คลี่คลายลงไป ทั้งการล่าช้าของงบประมาณภาครัฐ และการชะลอตัวของอุปสงค์โลกที่ทำให้ภาวะการส่งออกสินค้าหดตัวในปีที่ผ่านมา

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง