MTS Help Center

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ ขานรับความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 10.19 เหรียญ หรือ 0.42% อยู่ที่ระดับ 2,422.0 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 8.20 ดอลลาร์ หรือ 0.34% ปิดที่ 2,428.90 ดอลลาร์/ออนซ์
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 22.60 เซนต์ หรือ 0.73% ปิดที่ 30.936 ดอลลาร์/ออนซ์
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 2.30 ดอลลาร์ หรือ 0.23% ปิดที่ 1,011.00 ดอลลาร์/ออนซ์
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 1.44 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 836.53 ตันภาพรวมเดือนกรกฎาคม ซื้อสุทธิ 7.48 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 42.58 ตัน

• ตลาดทองคำได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 3 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ โดยคาดว่าการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนก.ย.

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.16 จุด หรือ 0.15% มาอยู่ที่ระดับ 104.24 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.233% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 4.46% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ -0.23% อยู่ในภาวะ inverted yield curve

• นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้กล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน ดีซี เมื่อวานนี้ ว่า เฟดจะไม่รอจนกว่าเงินเฟ้อปรับตัวสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ก่อนที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ เขาไม่คิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญกับภาวะทรุดตัวลงอย่างรุนแรง หลังมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว

• ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า “เฟดจะไม่รอจนกว่าเงินเฟ้อปรับตัวสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ก่อนที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย เหตุผลในเรื่องนี้ก็คือ ถ้าเรารอจนกว่าเงินเฟ้อลงถึง 2% จะเป็นการรอคอยที่นานเกินไป เนื่องจากมาตรการคุมเข้มทางการเงินที่เรากำลังใช้อยู่นั้น ยังคงส่งผลกระทบที่อาจทำให้เงินเฟ้อลดลงต่ำกว่า 2%”

• นางแมรี่ เดลี่ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เงินเฟ้อกำลังลดลงในทิศทางที่ดี สร้างความมั่นใจว่าจะกลับสู่ระดับ 2% เธอกล่าวอีกว่า แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ตลาดแรงงานควบคู่กับเงินเฟ้อ โดยทางธนาคารกลางฯ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจใดๆ

• FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 89.9% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 71.0% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

• ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ไว้ที่ระดับ 2.50% โดยการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก และมีขึ้นในขณะที่การประชุมใหญ่ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 20 ครั้งที่ 3 (Third Plenum) จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้

• สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2567 ของจีนขยายตัวเพียง 4.7% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะขยายตัว 5.1% และชะลอตัวลงจากไตรมาส 1/2567 ที่มีการขยายตัว 5.3%

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ ทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เหตุการณ์ลอบสังหารนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นแรงส่งให้นายทรัมป์คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะเปิดทางให้เขาเร่งผ่อนคลายกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เอื้ออำนวยต่อภาคธุรกิจ

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,211.72 จุด เพิ่มขึ้น 210.82 จุด หรือ +0.53%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,631.22 จุด เพิ่มขึ้น 15.87 จุด หรือ +0.28% 
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,472.57 จุด เพิ่มขึ้น 74.12 จุด หรือ +0.40%

• สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2567 ของจีนขยายตัวเพียง 4.7% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.1% และชะลอตัวจากไตรมาส 1 ที่มีการขยายตัว 5.3%

• นักเศรษฐศาสตร์จากเครดิต อากริโคล ซีไอบี ในฮ่องกง กล่าวว่า รัฐบาลจีนจำเป็นต้องใช้นโยบายสนับสนุนมากขึ้นเพื่อผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวตามเป้าหมายที่ระดับ 5% หลังจากตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ออกมาน่าผิดหวัง

• โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า “ในการเลือกตั้งประธานาธืบดี 5 ครั้งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ความเชื่อมั่นของบรรดาซีอีโอ, ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และโดยเฉพาะความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็ก มักขานรับชัยชนะของพรรครีพับลิกันมากกว่าพรรคเดโมแครต และความเชื่อมั่นดังกล่าวนำไปสู่การใช้จ่ายและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นชัยชนะของทรัมป์จะช่วยกระตุ้นแนวโน้มกำไรของภาคธุรกิจ”

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ หลังมีรายงานว่าเศรษฐกิจจีนขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2/2567 ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันภายในประเทศ

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 30 เซนต์ หรือ 0.36% ปิดที่ 81.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 18 เซนต์ หรือ 0.21% ปิดที่ 84.85 ดอลลาร์/บาร์เรล

• การชะลอตัวของ GDP จีนได้บดบังปัจจัยบวกจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน

• รายงานล่าสุดระบุว่า เรือบรรทุกสินค้า 2 ลำได้ถูกโจมตีที่บริเวณนอกชายฝั่งของเมืองโฮเดดาห์ (Hodeidah) ซึ่งเป็นเมืองท่าของเยเมน โดยแม้จะยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ แต่นับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว กลุ่มกบฎฮูตีซึ่งได้รับการหนุนหลังจากอิหร่านได้ใช้โดรนและขีปนาวุธโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดงและอ่าวเอเดน โดยอ้างว่าเป็นการแสดงจุดยืนสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในการทำสงครามกับอิสราเอลในฉนวนกาซา

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดแข็งค่าที่ 36.15 บาทต่อดอลลาร์ จากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 36.23 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบแนวรับที่ 36.00 บาท แนวต้าน 36.30 บาท

• นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก และ X ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยยืนยันว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต พร้อมเปิดลงทะเบียน 1 ส.ค.นี้

• ธนาคารแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่า ทิศทางดอกเบี้ยโลกเข้าสู่ภาวะขาลงปลายปี มีความเป็นไปได้เพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจนที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดดอกเบี้ยเดือนกันยายนและธันวาคมปีนี้หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภคหรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไปล่าสุดเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 3% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปปรับลดลง -0.1% เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานหรือดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 3.3% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนเมื่อปีที่แล้ว และ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกอย่างน้อย 3-4 ครั้งในปีหน้า ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ย Fed Fund Rate อยู่ที่ระดับ 3.75-4% ได้ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2568

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง