• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 23 กรกฎาคม 2567

    23 กรกฎาคม 2567 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐและการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -6.23 เหรียญ หรือ -0.26% อยู่ที่ระดับ 2,397.6 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 4.40 เหรียญ หรือ 0.18% ปิดที่ 2,394.70 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.2 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ 29.321 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 17.30 เหรียญ หรือ 1.78% ปิดที่ 956.60 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 840.01 ตันภาพรวมเดือนกรกฎาคม ซื้อสุทธิ 10.96 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 39.1 ตัน


  • สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักลงทุนเข้าซื้อทองคำท่ามกลางความไม่แน่นอนของการเมืองในสหรัฐ หลังจากไบเดนประกาศถอนตัวจากการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และประกาศสนับสนุนนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีนี้ แข่งกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.06 จุด หรือ -0.06% มาอยู่ที่ระดับ 104.31 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.254% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.521% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.27% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 30-31 ก.ค.นี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม แต่ก็มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เฟดจะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.


  • ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ย นโยบายระยะสั้น (short-term policy rate) ลงสู่ระดับ 1.7% จากระดับ 1.8% โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัวลงในขณะนี้


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,415.44 จุด เพิ่มขึ้น 127.91 จุด หรือ +0.32%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,564.41 จุด เพิ่มขึ้น 59.41 จุด หรือ +1.08% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,007.57 จุด เพิ่มขึ้น 280.63 จุด หรือ +1.58%


  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2567 ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ (25 ก.ค.) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ (26 ก.ค.) โดยคาดว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)


  • กระทรวงพาณิชย์จีน (MOC) เปิดเผยว่า ภาคอีคอมเมิร์ซจีนมีการเติบโตที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ซึ่งเป็นแรงผลักดันการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ โดยยอดค้าปลีกออนไลน์ในช่วงเวลาดังกล่าวปรับตัวขึ้น 9.8% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 7.1 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 9.96 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยมียอดค้าปลีกสินค้าอยู่ที่ 5.96 ล้านล้านหยวน หรือเพิ่มขึ้น 8.8%


  • รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นในปีงบประมาณปัจจุบันจนถึงเดือนมี.ค. 2568 คาดว่าจะขยายตัว 0.9% ลดลงจากตัวเลขประมาณการเดิมที่ 1.3% เนื่องจากเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อการบริโภคภาคเอกชน และอุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบจากเรื่องอื้อฉาวในการทดสอบความปลอดภัย

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

 

  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่สองในวันจันทร์เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอลง


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 35 เซนต์ หรือ 0.44% ปิดที่ 79.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 23 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 82.40 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • นักวิเคราะห์จากบริษัท StoneX ระบุว่า สต็อกปิโตรเลียมทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นในศูนย์กลางการค้าที่สำคัญเกือบทุกแห่งมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ยกเว้นในยุโรป


  • นโยบายพลังงานมีแนวโน้มที่จะเป็นหัวข้อการดีเบตระหว่างนางแฮร์ริสและนายทรัมป์ แต่นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปเชื่อว่า ผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐทั้ง 2 คนนี้อาจจะไม่ได้ชูนโยบายส่งเสริมภาคพลังงานที่จะมีผลกระทบต่อการดำเนินงานด้านน้ำมันและก๊าซ


  • นักวิเคราะห์ของ UBS กล่าวว่า จีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นและปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) เมื่อวานนี้ แต่จีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยเกินกว่าที่จะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน

 

ข่าวการเมือง


  • นักลงทุนประเมินสถานการณ์การเมืองที่จะเกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ประกาศถอนตัวจากการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567 และสนับสนุนนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีนี้ แข่งกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน


  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือของ Capital Economics กล่าวว่าทรัมป์ยังคงเป็นตัวเต็งที่จะชนะการเลือกตั้ง แต่โอกาสชนะของเขาลดลงเล็กน้อยเมื่อต้องเจอกับแฮร์ริส เทียบกับตอนที่เจอกับไบเดน โดยแฮร์ริสมีโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเองต่อชาวอเมริกันในการดีเบตกับทรัมป์ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 10 ก.ย.นี้


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 36.31 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 36.27 บาทต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากหลุดแนวรับ 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ไปแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 4 เดือนที่ 35.82 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงกลางสัปดาห์ตามทิศทางการแข็งค่าของสกุลเงินอื่น ๆ ในเอเชีย

 

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com