• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 24 กรกฎาคม 2567

    24 กรกฎาคม 2567 | Gold News

 ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร โดยได้ปัจจัยหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 11.19 เหรียญ หรือ 0.47% อยู่ที่ระดับ 2,408.78 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 12.60 เหรียญ หรือ 0.53% ปิดที่ 2,407.30 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 29.331 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 80 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ 955.80 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 1.73 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 841.74 ตันภาพรวมเดือนกรกฎาคม ซื้อสุทธิ 12.69 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 37.37 ตัน


  • จีนนำเข้าทองคำลดลงเกือบ 60% ในเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 58.9 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2565 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าจีนซึ่งเป็นประเทศที่ใช้ทองคำมากที่สุดในโลก ชะลอการซื้อทองคำหลังจากราคาพุ่งขึ้นอย่างมาก ในขณะที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ


  • โกลด์แมน แซคส์ ยังคงคาดการณ์ตลาดทองคำขาขึ้น โดยระบุว่า ปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากทั้ง การซื้อทองคำที่เพิ่มขึ้นของธนาคารกลาง และ ความคาดการณ์ที่เฟดอาจจะลดดอกเบี้ย การซื้อทองคำของธนาคารกลาง เพิ่มขึ้นถึงสามเท่าตั้งแต่กลางปี 2022 สะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับ สถานการณ์เศรษฐกิจโลก และ หนี้สาธารณะสหรัฐฯ โกลด์แมน แซคส์ มองว่าการซื้อทองคำของธนาคารกลาง นี้เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทองคำในปัจจุบัน


  • นอกจากนี้ ยังมีความคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะลดดอกเบี้ย ในช่วงปลายปีนี้ ปัจจัยนี้อาจดึงดูดนักลงทุนจากตะวันตก กลับเข้าสู่ตลาดทองคำ ส่งผลให้ความต้องการทองคำเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าตลาดทองคำจีน อาจจะมีการ ปรับตัวของความต้องการในระยะสั้น เนื่องจากความอ่อนไหวต่อราคา แต่แนวโน้มโดยรวมยังคงเป็นไปในเชิงบวก โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ราคาทองคำ อาจจะ แตะระดับ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2025 (เพิ่มขึ้น 12% จากราคา Spot ในปัจจุบัน)


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.16 จุด หรือ 0.15% มาอยู่ที่ระดับ 104.47 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 4.253% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 4.493% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.24% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ชี้ เฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง แม้เงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว โดยข้อมูลจากยอดขายปลีกที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ในเดือนมิถุนายน ชี้ให้เห็นว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่ง ประกอบกับมุมมองจากผลสำรวจที่คาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะไม่เพิ่มขึ้นมากจากระดับปัจจุบันที่ 4.1% สนับสนุนให้เฟดชะลอการตัดสินใจ


  • บริษัทเมอร์เซอร์ (Mercer) ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำระดับโลก เปิดเผยว่า มีโอกาสมากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยจนถึงสิ้นปีนี้ แทนที่จะเสี่ยงเผชิญกับความไม่แน่นอนในช่วงที่ศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นไปอย่างร้อนระอุ


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร โดยตลาดถูกกดดันจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนซึ่งรวมถึงยูไนเต็ด พาร์เซิล เซอร์วิส (UPS) ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างอัลฟาเบทและเทสลา รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,358.09 จุด ลดลง 57.35 จุด หรือ -0.14%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,555.74 จุด ลดลง 8.67 จุด หรือ -0.16% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,997.35 จุด ลดลง 10.22 จุด หรือ -0.06%


  • กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และประกันสังคมของจีนเปิดเผยข้อมูลว่า จีนสร้างงานใหม่ในเขตเมืองรวม 6.98 ล้านตำแหน่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ด้านอัตราการว่างงานในเขตเมืองอยู่ที่ 5% ณ เดือนมิ.ย. ขณะที่สถานการณ์การจ้างงานโดยรวมยังคงมีเสถียรภาพ

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร หลังมีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ชะลอตัวลงในประเทศจีน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.44 ดอลลาร์ หรือ 1.84% ปิดที่ 76.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 1.69% ปิดที่ 81.01 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ราคาน้ำมันร่วงลงหลังมีรายงานบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาหยุดยิงครั้งใหม่ในฉนวนกาซาระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส โดยนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล สั่งให้คณะเจรจาของอิสราเอลทำการเจรจาหยุดยิงครั้งใหม่ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยเขากล่าวว่า ขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง


  • แผนการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสริเริ่มโดยรัฐบาลสหรัฐ โดยมีอียิปต์และกาตาร์ ทำหน้าที่เป็นคนกลาง ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐจะพบปะกับนายเนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ที่ทำเนียบขาวในวันพฤหัสบดีนี้


  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลาประมาณ 21.30 น.ตามเวลาไทย

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • นายเอริก ชมิตต์ สมาชิกวุฒิสภาสังกัดพรรครีพับลิกัน และนางแนนซี เมซ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันเช่นกัน ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการบังคับใช้บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขครั้งที่ 25 เพื่อให้มีการถอดถอนโจ ไบเดนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี เนื่องจากเขาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้


  • นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยว่า เธอได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้แทนพรรคเดโมแครตมากเพียงพอที่จะเป็นตัวแทนพรรคในศึกชิงเก้าอี้ปธน.ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้แล้ว


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ที่ระดับ  36.15 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.22 บาทต่ดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.10-36.30 บาทต่อดอลลาร์  โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง (แกว่งตัวในช่วง 36.14-36.24 บาทต่อดอลลาร์)


  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าตามที่ประเมินไว้ โดย SCB EIC ยังคงมุมมองการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 67 ไว้ที่ 2.5% สำหรับในครึ่งหลังของปีนี้ มีแรงส่งหลักจากภาคบริการ ตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มเร่งตัวขึ้นจากครึ่งปีแรก ด้วยปัจจัยสนับสนุน ทั้งมาตรการวีซ่าใหม่ การขยายเที่ยวบิน และการจัดงานอีเวนท์ขนาดใหญ่ รวมถึงภาคส่งออกที่เริ่มกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้น

 

 


ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com