MTS Help Center

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพุธ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีรายงานว่าผู้นำกลุ่มฮามาสได้ถูกกองกำลังทหารอิสราเอลสังหารในประเทศอิหร่าน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะทำให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงเฟดส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 37.03 เหรียญ หรือ 1.54% อยู่ที่ระดับ 2,447.77 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 21.10 เหรียญ หรือ 0.86% ปิดที่ 2,473.00 เหรียญ
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 41.3 เซนต์ หรือ 1.45% ปิดที่ 28.938 เหรียญ
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 15.40 เหรียญ หรือ 1.59% ปิดที่ 986.40 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 2.88 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 846.05 ตันภาพรวมเดือนกรกฎาคม ซื้อสุทธิ 17.0 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 33.06 ตัน

• นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากกลุ่มฮามาสและกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่านได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ได้ถูกสังหารในอิหร่านเมื่อวานนี้ โดยนายฮานิเยห์ได้เดินทางไปยังประเทศอิหร่านเพื่อเข้าร่วมพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่าน

• นักกลยุทธ์ด้านการลงทุนจากบริษัท RJO Futures คาดการณ์ว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด จะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำพุ่งแตะระดับ 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.35 จุด หรือ -0.34% มาอยู่ที่ระดับ 104.07 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.11 % มาอยู่ที่ระดับ 4.032% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.1 % มาอยู่ที่ระดับ 4.26% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.23% อยู่ในภาวะ inverted yield curve

• คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมกับระบุในแถลงการณ์ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจาสหรัฐฯ ยังขยายตัวต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง การเพิ่มขึ้นของตำแหน่งงานอยู่ระดับปานกลาง แม้อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ตัวเลขยังอยู่ในระดับต่ำ ส่วนด้านอัตราเงินเฟ้อได้ผ่อนคลายจากปีก่อน และมีแนวโน้มเข้าสู่ระดับเป้าหมายที่ 2%

• นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้กล่าวว่า “หากข้อมูลที่ได้รับมายังคงทำให้เฟดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังอยู่ในทิศทางชะลอตัวลง เฟดก็พร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมครั้งหน้า คือในเดือนก.ย.”

• FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. โดยให้น้ำหนัก 89.6% ต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% และให้น้ำหนัก 10.1% และ 0.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% และ 0.75% ในเดือนดังกล่าวตามลำดับ

• นักลงทุนยังจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 22-24 ส.ค.นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ โดยการประชุมจะจัดขึ้นในหัวข้อ “Reassessing the Effectiveness and Transmission of Monetary Policy” และมีการคาดการณ์ว่านายพาวเวลอาจจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากเงินเฟ้อของสหรัฐเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลง

• เจฟฟรีย์ โร้ช หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทหลักทรัพย์ LPL กล่าวว่า ถ้อยแถลงของนายพาวเวลเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดมีความพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. นอกจากนี้ ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดยังแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มคลายความตึงตัว และจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน

• นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังจากที่ประชุม BOJ มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0.25% จากระดับ 0%-0.1% และปรับลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นรายเดือนลงสู่ระดับ 3 ล้านล้านเยน (2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในสิ้นปี 2569 จากระดับ 6 ล้านล้านเยน โดยการตัดสินใจดังกล่าวถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของการถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงินขนานใหญ่ที่ BOJ ดำเนินการมาเป็น 10 ปี

• นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการบีโออีอาจจะตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25% ตามเดิมในวันนี้ โดยเขาอาจจะให้เหตุผลว่า อัตราเงินเฟ้อในภาคบริการอยู่ในระดับสูง, ค่าแรงในอังกฤษเพิ่มสูงขึ้น และเศรษฐกิจอังกฤษเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ทำสถิติปรับตัวขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มบริษัทผลิตชิป และจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,842.79 จุด เพิ่มขึ้น 99.46 จุด หรือ +0.24%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,522.30 จุด เพิ่มขึ้น 85.86 จุด หรือ +1.58% 
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,599.40 จุด เพิ่มขึ้น 451.98 จุด หรือ +2.64%

• อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.6% ในเดือนก.ค. จาก 2.5% ในเดือนมิ.ย. ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมหมวดพลังงาน, อาหาร, แอลกอฮอล์ และยาสูบ ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2.9% ซึ่งสวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 4% ในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจลุกลามเป็นวงกว้าง หลังจากนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำของกลุ่มฮามาสได้ถูกกองกำลังทหารของอิสราเอลสังหารในประเทศอิหร่าน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นหลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 3.18 ดอลลาร์ หรือ 4.26% ปิดที่ 77.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.09 ดอลลาร์ หรือ 2.66% ปิดที่ 80.72 ดอลลาร์/บาร์เรล

• ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1 ล้านบาร์เรล

• กลุ่มฮามาสและกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่านออกแถลงการณ์ระบุว่า นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ได้ถูกสังหารในอิหร่านเมื่อวานนี้ (31 ก.ค.) โดยนายฮานิเยห์ได้เดินทางไปยังประเทศอิหร่านเพื่อเข้าร่วมพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่าน

• เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวัน หลังจากที่กองทัพอิสราเอลได้ทำการโจมตีแบบเล็งเป้าหมายในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอนเมื่อวันที่ 30 ก.ค. เพื่อสังหารผู้บัญชาการทหารของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ 

• คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ประกาศจัดการประชุมฉุกเฉิน โดยจะเริ่มขึ้นในเวลา 03.00 น.ของวันที่ 1 ส.ค.ตามเวลาไทย หลังเกิดเหตุลอบสังหารนายฮานิเยห์ โดยการประชุมดังกล่าวมีขึ้นตามคำร้องของผู้แทนถาวรของอิหร่าน และได้รับการสนับสนุนจากผู้แทนของจีน รัสเซีย และแอลจีเรีย

• ทั้งนี้ ข่าวการสังหารนายฮานิเยห์ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจลุกลามบานปลายและส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตะวันออกกลางซึ่งเป็นภูมิภาคที่ผลิตน้ำมันดิบมากถึง 1 ใน 3 ของโลก

 

ข่าวการเมือง

• สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เปิดเผยว่า การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และแบตเตอรี่ ชิปคอมพิวเตอร์ และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ จะล่าช้าออกไปอย่างน้อย 2 สัปดาห์ จากเดิมที่เคยประกาศว่าจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหาร เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  35.48 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.63 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.40-35.70 บาทต่อดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุม BOE และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ)

• รมว.คลัง กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.5% ไม่ได้ถือว่าสูงมาก แต่ก็ไม่เห็นสัญญาณการปรับลดลงได้ ซึ่งจะเห็นว่าที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ จนส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่า ดังนั้นมองว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรต้องดำเนินการบางอย่าง

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง